การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ทำให้ตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมาเงียบเหงาไปพอสมควร โดยหลายสโมสรยักษฺใหญ่ทั่วยุโรปเลือกที่จะไม่ขยับตัวเสริมความแข็งแกร่งหากไม่จำเป็นจริงๆ เนื่องจากต้องรักษาสถานะทางการเงินให้อยู่รอด

อย่างไรก็ตาม ยังมีทีมดังอีกหลายทีมที่เดินเครื่องเซ็นสัญญานักเตะใหม่มาเสริมทัพไม่ว่าจะด้วยการซื้อขาด หรือยืมตัว และนี่คือดีลที่น่าสนใจประจำตลาดหน้าหนาวครั้งนี้

1. ลิเวอร์พูล (ย้ายเข้า: เบน เดวีส์, โอซาน คาบัค ย้ายออก: ทาคุมิ มินามิโนะ,เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก)

ลิเวอร์พูล ลุยตลาดวันเดดไลน์ด้วยการคว้ากองหลังเข้ามา 2 ราย คือ เดวีส์ จาก เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ และ คาบัค จาก ชาลเก้ 04 หลังจากพวกเขาได้รับข่าวร้ายว่า โจเอล มาติป ปราการหลังชาวแคเมอรูน ได้รับบาดเจ็บจนปิดเทอมยาวตาม เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ และ โจ โกเมซ ไปเรียบร้อยแล้ว

แน่นอนว่า เดวีส์ ที่ย้ายมาด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ คงไม่ได้มาแย่งตำแหน่งตัวจริงจาก ฟาน ไดจค์, โกเมซ หรือ มาติป หากทั้ง 3 หายเจ็บกลับมา ส่วน คาบัค ที่ย้ายมาด้วยสัญญายืมตัวพร้อมออฟชั่นซื้อขาดในราคา 18 ล้านปอนด์ นั้น จะเป็นการทำธุรกิจแห่งอนาคตของ “หงส์แดง”

 นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ตัดสินใจปล่อยตัว มินามิโนะ ให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ยืมตัวไปใช้งานในช่วงที่เหลือของซีซั่นโดยไม่มีออฟชั่นซื้อขาด หลังจากตัวรุกชาวญี่ปุ่นไม่มีโอกาสสอดแทรกลงในทีมชุดแรกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ “หงส์แดง” และปล่อย เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก กองหลังดาวรุ่งสลับไปให้ เปรสตัน ยืมตัว  

2. อาร์เซน่อล (ย้ายเข้า: มาร์ติน โอเดการ์ด, แมตต์ ไรอัน ย้ายออก: เมซุต โอซิล, เซอัด โคลาซินัช, ชโคดราน มุสตาฟี่, โจ วิลล็อค, เอนสลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส)

อาร์เซน่อล ทำธุรกิจที่น่าสนใจด้วยการยืม โอเดการ์ด มาจาก เรอัล มาดริด เพื่อเพิ่มมิติในเกมรุก และหากมิดฟิลด์ชาวนอร์เวย์วัย 22 ปี ทำผลงานได้ดีก็อาจจะซื้อขาดเป็นการถาวรต่อไป และยังยืมตัว ไรอัน มาจาก ไบรท์ตัน มาลุ้นแย่งตำแหน่งกับ แบรนด์ เลโน่ โกล์ชาวเยอรมัน หลังจากปล่อยตัว เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายด่านฝีมือดีไปให้กับ แอสตัน วิลล่า เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

 ขณะเดียวกัน นักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ มิเกล์ อาร์เตต้า เทรนเนอร์ชาวสเปนถูกปล่อยตัวไปเรียบร้อยแล้วไล่ตั้งแต่ โอซิล ที่ย้ายไป เฟเนร์บาห์เช่ และ โคลาซินัช กับ มุสตาฟี่ ที่ย้ายไปเล่นกับ ชาลเก้ ส่วน วิลล็อค ย้ายไป นิวคาสเซิ่ล ด้วยสัญญายืมตัว เช่นเดียวกับ เมตแลนด์-ไนล์ส ที่ย้ายไป เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

3. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ย้ายเข้า: อาหมัด ตราโอเล่ ย้ายออก: เจสซี่ ลินการ์ด, ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์)

แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญากับ ตราโอเล่ มาจาก อตาลันต้า ตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้วก่อนจะย้ายมาร่วมทีมอย่างเป็นทางการในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคม โดยปีกวัย 18 ปี อยู่ระหว่างรอโอกาสประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของ “ปีศาจแดง” อย่างเป็นทางการต่อไป

โอเล่ กุนาร์ โซลชา กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจปล่อยนักเตะที่ไม่ได้ใช้งานอย่าง ลินการ์ด ให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ โฟซู-เมนซาห์ ให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

4. โรม่า (ย้ายเข้า: สเตฟาน เอล ชาราวี, ไบรอัน เรย์โนลด์ส)

โรม่า จัดการดึงตัว เอล ชาราวี กลับมาล่าตาข่ายอีกครั้งหลังจาก หัวหอกชาวอิตาเลียน ยกเลิกสัญญากับ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว อดีตต้นสังกัดในศึก ไชนีส ซูเปอร์ลีก และยังยืมตัว เรย์โนลด์ส แบ็คอนาคตไกลชาวสหรัฐอเมริกามาจาก เอฟซี ดัลลัส พ่วงออฟชั่นซื้อขาด 6.75 ล้านยูโร

ชาราวี วัย 28 ปี คุ้นเคยกับการเล่นให้กับ โรม่า ดีอยู่แล้วหลังอยู่กับทีมมานาน 3 ปี ในระหว่างปี 2016-2019 ส่วน เรย์โนลด์ส วัย 19 ปี ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในดาวรุ่งมากพรสวรรค์ของวงการฟุตบอลอเมริกัน ซึ่งทั้งคู่จะเพิ่มคุณภาพเชิงลึกให้กับ “หมาป่าเหลืองแดง” ได้เป็นอย่างดี

5. เอซี มิลาน (ย้ายเข้า: มาริโอ มานด์ซูคิช)

อดีตกองหน้าแอตเลติโก มาดริด, ยูเวนตุส และบาเยิร์น มิวนิค ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับ อัล ดูฮาอิล ในลีกการ์ตา เมื่อปลายปี 2020 และมองหาสโมสรใหม่มานานแล้ว และกลายเป็น มิลาน ที่ได้ลายเซ็นของเขาไปครองครอง

มานด์ซูคิช จะเข้ามาแบ่งเบาภาระของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยอดหัวหอกสวีดิชวัย 39 ปี ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ และประสบการณ์ของ ดาวยิงโครแอตวัย 34 ปี นั้น จะเข้ามาช่วย “ปีศาจแดงดำ” ได้เป็นอย่างดี 

6. บาเยิร์น มิวนิค (ย้ายออก: คริส ริชาร์ดส์)

หลังจากกลายเป็นนักเตะชาวอเมริกันคนแรกที่ได้ลงเล่นในศึกบุนเดสลีกาให้กับ บาเยิร์น ในรอบ 120 ปีของสโมสรในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ริชาร์ดส์ ก็แทบไม่มีโอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ “เสือใต้” อีกเลย

ในตลาดนักเตะรอบนี้ บาเยิร์น ตัดสินใจปล่อย กองหลังวัย 20 ปี ให้กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ยืมตัวไปใช้งานเพื่อหาประสบการณ์เป็นเวลา 6 เดือน ก่อนจะกลับมาลุ้นแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดแรกช่วงซัมเมอร์หน้าต่อไป 

7. แอร์เบ ไลป์ซิก (ย้ายเข้า: โดมินิก โซบอสไล)

ความสัมพันธ์ระหว่าง ไลป์ซิก และ  เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ที่อยู่ในเครือเดียวกันนั้น ทำให้การย้ายสังกัดของ โซบอสไล ราบรื่น และนอกจาก ไลป์ซิก จะได้มิดฟิลด์ฝีเท้าดีไปเสริมทัพแล้ว ซัลซ์บวร์ก เองก็ได้เงินจำนวน 24 ล้านยูโร ไปคว้านักเตะดาวรุ่งพรสวรรค์รายใหม่มาปั้นต่อไป

ในช่วงที่ผ่านมา โซบอสไล ได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่หลายแห่ง อาทิ อาร์เซน่อล, มิลาน, บาเยิร์น และ มาดริด แต่ ไลป์ซิก การเจรจาโน้มน้าวให้ ดาวเตะวัย 20 ปี ย้ายมาเล่นด้วยสำเร็จ และมันยังไม่สายที่เจ้าตัวจะย้ายไปยังทีมระดับบิ๊กเนมในอนาคต

8. บาร์เซโลน่า (ย้ายออก: ฌอง-แกลร์ โตดีโบ)

กองหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส ย้ายจาก ตูลูส มาเล่นกับ บาร์เซโลน่า ในปี 2019 แต่ไม่สามารถแจ้งเกิดกับพลพรรค “เจ้าบุญทุ่ม” ได้ โตดีโบ ถูกปล่อยยืมตัวไปยัง ชาลเก้ 04, เบนฟิก้า และล่าสุด นีซ พ่วงออกฟชั่นซื้อขาดประมาณ 15 ล้านยูโร

9. เรอัล มาดริด (ย้ายออก: มาร์ติน โอเดการ์ด, ลูก้า โยวิช)

หลังจากปล่อย โอเดการ์ด ให้กับ อาร์เซน่อล ด้วยสัญญายืมตัว มาดริด ยังปล่อยตัว โยวิช ที่ซื้อมาจาก ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ด้วยค่าตัวถึง 60 ล้านยูโร เมื่อซัมเมอร์ปี 2019 กลับไปให้ “อินทรีแดงดำ” ยืมตัวกลับไปใช้งานอีกครั้งหลังทำผลงานไม่ประทับใจ

เดิมที ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือ มาดริด จะเก็บ โยวิช ไว้เป็นตัวสำรองของ คาริม เบนเซม่า กองหน้าชาวฝรั่งเศส แต่เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ และภาระค่าเหนื่อยที่ “ราชันชุดขาว” ต้องแบกรับนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจปล่อยตัว ดาวยิงวัย 23 ปี ในที่สุด

10. แอตเลติโก มาดริด (ย้ายเข้า: มุสซ่า เดมเบเล่ ย้ายออก: ดิเอโก้ คอสต้า)

หลังซัดไปถึง 44 ประตู ใน 2 ฤดูกาลแรกกับ โอลิมปิก ลียง แต่ในฤดูกาลนี้ เดมเบเล่ เพิ่งยิงไปเพียงลูกเดียวเท่านั้น แต่ก็ไม่ทำให้ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือ แอตฯ มาดริด ลังเลที่จะยืมตัวเข้ามาใช้งานพร้อมออฟชั่นซื้อขาดในราคา 33.5 ล้านยูโร

ขณะเดียวกัน แอตฯ มาดริด ยังยินยอมยกเลิกสัญญากับ ดิเอโก้ คอสต้า หัวหอกชาวสเปนวัย 32 ปี ไปตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

11. เซบีย่า (ย้ายเข้า: อเลฮานโดร โกเมซ)

แม้จะเป็นตัวหลักของ อตาลันต้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่หลังจากมีปัญหาส่วนตัวกับกุนซือ จานปิเอโร กาสเปรินี โกเมซ ก็แทบไม่ได้ลงเล่นอีกเลย และ เซบีย่า ตัดสินใจยื่นข้อเสนอเซ็นสัญญากับ จอมทัพวัย 32 ปี จนถึงปี 2024

มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์ อยู่กับ อตาลันต้า มาตั้งแต่ปี 2014 โดยลงสนามรวมทุกรายการ 252 นัด ซัดไป  59 ประตู และมีดีกรีเคยติดทัพ “ฟ้าขาว” มาแล้ว 5 เกม

12. โอลิมปิก มาร์กเซย (ย้ายเข้า: อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค)

มิลิค ซัดให้กับ นาโปลี ไปถึง 48 ประตู จาก 122 เกมรวมทุกรายการนับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อปี 2016 แต่ล่าสุด เขาปฏิเสธจะต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมออกไป และ “อัซซูร่า” ก็เลือกจะปล่อยเขาให้กับ มาร์กเซย ยืมตัวไปใช้งาน 18 เดือน พ่วงออฟชั่นซื้อขาดเพียง 8 ล้านยูโร

หัวหอกทีมชาติโปแลนด์ เคยเล่นในอิตาลี และฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว ซึ่งประสบการณ์ของเขานั้น จะช่วย มาร์กเซย ได้เป็นอย่างดี และมันถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ของ นาโปลี เลยก็ว่าได้