15 ปี หลังจากย้ายมาเป็นผู้เล่นของ เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน มาร์เซโล่ แบ็คซ้ายมากประสบการณ์ทีมชาติบราซิล ได้สถาปนาตัวเองกลายเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดลำดับต้นๆของพลพรรค “ราชันชุดขาว” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มาร์เซโล่ ย้ายจาก ฟลูมิเนเซ่ ในลีกบ้านเกิดมาเล่นกับ มาดริด ในซัมเมอร์ปี 2007 พร้อมกับถูกวางไว้เป็นตัวแทนของ โรแบร์โต้ คาร์ลอส แบ็คซ้ายรุ่นพี่ร่วมชาติ และเขาก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาที่ค้าแข้งอยู่ในถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว
ประสบความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อ
จนถึง ณ เวลานี้ อดีตเด็กปั้น ฟลูมิเนเซ่ ลงเล่นให้ มาดริด ไปแล้วรวมทุกรายการ 546 เกม ซัดไป 38 ประตู และพาพลพรรค “ราชันชุดขาว” คว้าแชมป์รายการใหญ่ได้มากถึง 26 รายการ ซึ่งมากกว่าตำนานของสโมสรอย่าง ปาโก เกนโต้ ปีกทีมชาติสเปนเสียอีก
เส้นทางของ มาร์เซโล่ กับ มาดริด จะจบลงในซัมเมอร์นี้หลังเจ้าตัวประกาศอำลาสโมสรหลังรับใช้ทีมมาอย่างยาวนาน และเขาก็มีความสุขอย่างมากที่มีส่วนร่วมพา “ราชันชุดขาว” คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นล่าสุด ซึ่งนับเป็นแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5 กับทีม
ฟูลแบ็ควัย 34 ปี กล่าวหลังจบเกมนัดชิงดำที่ มาดริด เอาชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า “มันเป็นอารมณ์ที่เหลือเชื่อมากๆ เพราะมันเป็นเกมสุดท้ายของผมกับ เรอัล มาดริด การอำลาด้วยแชมป์ยุโรป มันเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่วันที่น่าเศร้าเลย”
แม้จะไม่ได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศกับ ลิเวอร์พูล เลยแม้แต่นาทีเดียว แต่ มาร์เซโล่ ก็มีอารมณ์ร่วมอย่างเต็มที่กับการฉลองชัยชนะของ มาดริด และในรอบที่ผ่านๆมาของฟุตบอลยุโรปนั้น เจ้าตัวก็ได้ลงเล่นไป 3 เกม
“มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในชีวิตของผม ผมกำลังอำลาหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในโลก วันนี้ไม่ใช่วันแห่งความเศร้า แต่เป็นวันแห่งความสุข เพราะเราได้แชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกครั้ง ผมภูมิใจในตัวเอง และครอบครัวของผมมาก เราใช้ชีวิตในคืนมหัศจรรย์ด้วยกันมาหลายคืนแล้ว”
“ผมบอกคุณอย่างหนึ่งว่า อนาคตของ มาดริด นั้น กำลังไปได้ด้วยดีมาก ๆ และสำหรับนักเตะดาวรุ่ง ของเรา พวกเขายอดเยี่ยมมาก ฮาลา มาดริด!” กองหลังชาวบราซิล กล่าว
สุดยอดแบ็คซ้ายแห่งยุค และผู้สืบทอดตำแหน่ง โรแบร์โต้ คาร์ลอส
รามอน กัลเดรอน อดีตประธานสโมสร มาดริด เป็นคนที่ดึงตัว มาร์เซโล่ เข้ามายังถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว และเคยกล่าวถึงดาวเตะแซมบ้าในวัย 19 ปี ว่า เป็นหนึ่งในเพชรเม็ดงามที่สุดของวงการฟุตบอลในเวลานั้น
ย้อนกลับไปในช่วงเวลาดังกล่าว คาร์ลอส อยู่ในช่วงปลายอาชีพกับ มาดริด แล้ว หลังจากเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็คซ้ายของทีมมานานกว่าทศวรรษ และการที่ มาร์เซโล่ เข้ามารับช่วงต่อนั้น มันก็เป็นความกดดันสำหรับเจ้าตัวอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม มาร์เซโล่ พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่า เขาสามารถเติมเต็มช่องว่างของ คาร์ลอส ได้เป็นอย่างดี และเขาก็มีรุ่นพี่ร่วมชาติเป็นไอดอลในการเล่นฟุตบอลมานานแล้ว โดยเล่าว่า “สำหรับผมแล้ว โรแบร์โต้ คาร์ลอส เพระเจ้า และการมาอยู่ในทีมเดียวกับเขา และเล่นตำแหน่งเดียวกันนั้น ผมไม่อยากเชื่อเลย”
ในวันแรกของ มาร์เซโล่ ที่ มาดริด นั้น คาร์ลอส เป็นผู้เล่นทีมชุดใหญ่คนแรกที่เดินเข้ามาหาเขา พร้อมกับให้เบอร์โทรศัพท์ และบอกว่า “ถ้านายต้องการอะไร นายโทรหาฉันได้เลยนะ”
หลัวจากนั้นในซัมเมอร์ คาร์ลอส ก็ตักสินใจอำลา มาดริด ย้ายไปเล่นกับ เฟเนร์บาห์เช่ ในลีกตุรกี และนับแต่นั้นมา มาร์เซโล่ ก็กลายเป็นแบ็คซ้ายตัวจริงของ มาดริด มานานเกินกว่าทศวรรษ และประสบความสำเร็จมากกว่า คาร์ลอส เสียอีก
ฟอร์มการเล่นที่สุดยอด และความสม่ำเสมอของ มาร์เซโล่ ตลอดหลายซีซ่นที่ผ่านมากับ มาดริด นั้น ทำให้เจ้าตัวได้รับคำชมอย่างมากจากไอดอลของเขาอย่าง คาร์ลอส และตำนานแบ็คซ้ายของโลกอย่าง เปาโล มัลดินี่ อดีตกัปตันทีม เอซี มิลาน
นอกจากนี้ เฟร์นานโด เอียร์โร่ อดีตปราการหลังทีมชาติสเปน และกัปตันทีมของ มาดริด ก็ยังกล่าวยกย่อง มาร์เซโล่ ว่า ยังเป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลสำคัญต่อ “ราชันชุดขาว” อย่างมหาศาล และสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้มากมาย
“มันเป็นเรื่องจริงที่ มาร์เซโล่ เป็นผู้เล่นที่จะเข้ามาแทนที่ โรแบร์โต้ คาร์ลอส ในช่วงนั้น ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และแน่นอนว่าวันนี้เขาเป็นนักเตะที่โด่งดังที่สุดของ เรอัล มาดริด ไปเรียบร้อยแล้ว”
“มาร์เซโล่ เป็นผู้เล่นที่พิเศษเสมอ เขานำความสุข ความคิดสร้างสรรค์มาสู่เกม และเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองมากๆ และเขาก็เป็นคนดีเช่นกัน เขาเป็นมิตรมาก และเป็นคนที่น่ารัก ผมดีใจจริงๆ ที่เขา เป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร”
คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลียนของ มาดริด กล่าวว่า “มาร์เซโล่ ตำนาน และเป็นเพื่อนที่ดีของผม”
ขณะที่ มาร์เซโล่ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมยังต้องทำอะไรบางอย่างกับสโมสรแห่งนี้ ผมจะกลับมา และวันหนึ่งผมจะกลับมาที่ เรอัล มาดริด”