Home บทความฟุตบอล 7 ผู้เล่น ปีศาจแดง ที่อาจกลับมาเกิดใหม่ในยุคของ เอริก เทน ฮาก

7 ผู้เล่น ปีศาจแดง ที่อาจกลับมาเกิดใหม่ในยุคของ เอริก เทน ฮาก

0
7 ผู้เล่น ปีศาจแดง ที่อาจกลับมาเกิดใหม่ในยุคของ เอริก เทน ฮาก

แฟนบอลของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทบจะผ่านพ้นซีซั่นที่ผ่านมากันดด้วยความทุกข์ทรมานแสนสาหัส เพราะการลงสนามเจอกับใครในยุคของ ราล์ฟ รังก์นิก ก็พร้อมที่จะพ่ายได้ทุกทีม ฟอร์มส่วนตัวของนักเตะระดับสตาร์หลายรายออกทะเลไปไกล ไม่เหลือเค้าลางของผู้เล่นค่าตัวแพง ที่สโมสรอุตส่าห์ทุ่มทุนซื้อมา หวังจะเป็นความหวังในระยะยาว แถมบรรยากาศในห้องแต่งตัวยิ่งแย่ขึ้นทุกวัน เห็นได้จากคำสัมภาษณ์ของตัวผู้จัดการทีม รวมไปถึงการระบายความรู้สึกของนักเตะผ่านทางช่องทาง โซเชี่ยล มีเดีย ส่วนตัว ที่ล้วนไปในทิศทางลบทั้งหมด

แน่นอนว่าสิ่งที่แฟนบอลเฝ้ารอ คือ การมาของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง เอริก เทน ฮาก ที่หลังจากพา อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม คว้าแชมป์ลีกฮอลแลนด์ได้ แล้วใช้เวลาพักร้อนหลังจบภารกิจไปแค่ช่วงสั้นๆ กุนซือไฟแรง ก็เลือกที่จะบินตรงมายังอังกฤษทันที แล้วจะเข้าชมเกมนัดสุดท้ายที่จะพบกับ คริสตัล พาเลซ ณ สนาม เซลเฮิร์สท์ ปาร์ค โดยจะเข้ามาสังเกตุการณ์เท่านั้น ไม่ได้มีส่วนในการวางแทคติกส์แต่อย่างใด แล้วน่าจะมีการตัดเกรดผลงานของผู้เล่นแต่ละคนเอาไว้ในใจว่า คนไหนควรจะได้ไปต่อกับทีม? คนไหนที่สมควรโละออกไปเบื้องต้น ก่อนจะมีการตัดสินใจขั้นเด็ดขาดต่อไป ซึ่งการันตีได้เลยว่า เต็มที่คงมีงบให้เสริมทัพนักเตะหน้าใหม่แค่ 2-3 รายเท่านั้น แกนหลักจะยังคงเป็นตัวเดิมจากซีซั่นนี้ เนื่องจากไม่มีสโโฒสรไหนบนโลก ที่สามารถเปลี่ยนทีมทั้งชุดเพื่อเทรนเนอร์คนใหม่ในตลาดรอบเดียวได้ แต่ก็เจอต้อนรับด้วยผลงานสุดงามหน้า บุกพ่าย ปราสาทเรือนแก้ว แบบน่าอาย 0-1

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า ปีศาจแดง จะมีข่าวพัวพันกับซูเปอร์สตาร์คนไหน? ก็มีทีท่าว่าจะกิน “แห้ว” แทบทุกราย อันเป็นผลงานกันสุดห่วยแตกของทีมซื้อ-ขาย ที่ปิดดีลใครไม่ลงสักที แล้วอาจส่งผลให้ เทน ฮาก จำเป็นต้องเข็นขุมกำลังเดิมเพื่อสู้ศึกในฤดูกาลหน้าต่อไปแบบเลี่ยงไม่ได้ ทีมงาน 168Kick เลยทำการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ออกมาในบทความนี้ว่า พอจะมีสตาร์รายใด? ที่มีสิทธิ์กลับฝั่งมาเป็นที่พึ่งให้กับ เทรนเนอร์ป้ายแดงชาวฮอลแลนด์กันบ้าง?

เริ่มต้นกันที่รายแรกเป็นจอมคอนเทนต์เบอร์หนึ่งของทีมในเวลานี้ เจ้าของปลอกแขนกัปตันทีมคนปัจจุบัน ไม่มีทางเป็นใครอื่นใดไปได้นอกจาก แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เซนเตอร์แบ็คดีกรีทีมชาติอังกฤษ สิ่งที่ขาดดหายไปของเขาไม่ใช่เรื่องของฝีเท้า แต่เป็นความมั่นใจล้วนๆ ที่ทำอะไรก็ผิดพลาดไปซะหมด ไม่ต่างกับนักมวยที่เมาหมัดแล้วเสียศูนย์ โอกาสที่ แม็คไกวร์ จะกลับมาเล่นดีได้นั้่นยังเปิดกว้าง เพราะก่อนหน้านี้เขาแสดงให้เห็นตอนที่ย้ายมาใหม่ๆ แล้วว่า เขาสามารถยกระดับแผงหลังของทีมได้ จุดเด่นเรื่องการเล่นลูกกลางอากาศ การสั่งการแผงหลัง หากทาง เทน ฮาก ปรับระบบให้เข้าที่เข้าทาง สามารถเซฟงบตำแหน่งนี้ไปโปะจุดอื่นได้เยอะ

ต่อกันที่รายที่สองยังคงอยู่กันในผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค เป็นปราการหลังตัวหลักทีมชาติสวีเดน ที่แฟนบอลส่วนใหญ่ยังไม่ถึงขนาดสิ้นศรัทธาในฝีเท้าของเขา นั่นก็คือ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ฟอร์มในการเล่นบนเเวทีระดับชาตินั้น เหนียว แน่น หนึบ กินเขาได้ยากจริงๆ แต่พอมาเล่นให้กับต้นสังกัดแล้ว ต่างกันไปเป็นคนละคน จริงอยู่ที่ ลินเดอเลิฟ มีจุดอ่อนอยู่ที่ลูกกลางอากาศ แต่เขาก็มีความเร็วเข้ามาทดแทน การอ่านเกม การสกัดบอลในพื้นที่สุดท้ายที่ไว้ใจได้ ที่สำคัญที่สุด คือ การขึ้นเกมจากแดนหลัง ซึ่งทางปราการหลังรายนี้มีสกิลการออกบอลที่ดี พาบอลขึ้นไปแดนหน้าด้วยตัวเองได้ ทุกองค์ประกอบช่างตรงสเปคกับแผนของ เทน ฮาก แบบพอดิบพอดี ไม่น่าเป็นเรื่องยากที่จะจูนกันติดอย่างรวดเร็ว

ถัดมาที่รายที่สามยังคงอยู่ในตำแหน่งแนวรับ แต่ขยับตำแหน่งมาเป็นฟูลแบ็คกันบ้าง เป็นรายของ ดิโอโก้ ดาโลท์ แบ็คสาระพัดประโยชน์ดีกรีทีมชาติโปรตุเกส ที่เล่นได้ทั้งสองฝั่งหลายๆ คนอาจไม่เห็นด้วย เพราะดาวเตะรายนี้อยู่ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาหลายปี แต่พัฒนาการเหมือนจะหยุดอยู่กับที่ ต่างกับตอนที่ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวให้กับ เอซี มิลาน ซึ่งถ้าวิเคราะห์กันตามตรง ปัจจัยต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับแทคติกส์ของโค้ชที่เอื้อให้นักเตะโชว์ศักยภาพออกมาเต็มเหนี่ยวด้วยเช่นกัน ระบบของ เทน ฮาก นั้นต้องการแบ็คที่เติมเกมรุกได้ดีมีการครอสบอล และ สอดขึ้นไปยิงประตูที่อันตราย จุดเด่นตรงนั้นทำให้ ดาโลท์ ดูมีภาษีเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง อารอน วาน บิสซาก้า แถมยังเล่นได้ทั้งสองฝั่งของสนามอีกด้วยอย่างน้อยถ้าเก็บไว้เป็นอะไหล่ในทีมชุดใหญ่ ก็ประหยัดงบในการอุดรูรั่วในตำแหน่งนี้ไปได้พอสมควร อายุการใช้งานยังเหลืออีกยาวๆ ให้โอกาสอีกสักปี-สองปี คงไม่ใช่เรื่องที่ให้กันไม่ได้

ต่อเนื่องกันที่รายที่ 4 เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง ที่นับตั้งแต่ย้ายมาด้วยค่าตัวมหาศาล ต่างโดนคำวิจารณ์และครหาเรื่องผลงานในสนามแบบไม่ว่างเว้น นั่นก็คือ เฟร็ด มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล ที่เริ่มจะฉายแววให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากที่ ราล์ฟ รังก์นิก จับเขาไปเล่นในเชิงรุกมากขึ้น ให้อิสระในการเติมขึ้นไปออกบอลในพื้นที่สุดท้าย ซึ่งเขาก็ได้โชว์ออกมาให้เห็นแล้วว่ามีของ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ถูกจับไปยืนในบทบาทที่ไม่ถนัดอย่างกองกลางตัวรับ เฟร็ด อาจมีจุดอ่อนเรื่องของส่วนสูง ความแข็งแกร่งในการเข้าปะทะ แต่เขามีความเร็ว ความขยัน ใจสู้ เล่นเกมรับได้พอใช้ หากทาง เทน ฮาก เลือกใช้งานเขาให้ถูกที่ถูกตำแหน่ง กำหนดหน้าที่ให้ชัดเจน ไม่มีการสั่งแบบจับฉ่ายเหมือนที่โดนมาก่อนหน้านี้ โอกาสที่เขาจะเป็นคีย์แมนคนสำคัญในแดนกลาง คงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน

มาถึงรายที่ 5 เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางอีกหนึ่งราย ที่นับตั้งแต่ถูกทาง โชเซ่ มูรินโญ่ ดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ สก็อตต์ แมคโทมิเนย์ มิดฟิลด์ทีมชาติสก็อตแลนด์ ก็ยังหาฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองไม่เจอ ถูกจับไปเล่นเป็นตัวตัดเกม ฟอร์มก็ขาดความคงเส้นคงวา เจอกับทีมเก่งก็เก่งตาม เจอกับทีมอ่อนก็อ่อนตาม ส่วนใหญ่แล้วทำได้แค่ไล่เตะคู่แข่ง แลกกับใบเหลืองใบแดงไปเกมต่อเกมเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แมคโทมิเนย์ เป็นนักเตะที่มีข้อดีหลายจุดด ไม่ว่าจะเป็น ส่วนสูง การเข้าตัดบอล ความขยัน ความกระหาย และ แพสชั่นร่วมกับเกม แถมยังสอดขึ้นไปยิงประตูได้ หาก เทน ฮาก ขัดเกลาจุดบอดเรื่องความเข้าใจเกม เลือกใช้เขาให้ถูกบทบาท นี่คือตัวหมากที่ใช้งานได้หลากหลายเอามากๆ ในแดนกลาง แถมยังเป็นนักเตะลูกหม้อของทีมอีกด้วย

เข้าสู่ผู้เล่นคนรองสุดท้ายเป็นแนวรุกดีกรีทีมขาติอังกฤษ ที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาร่วมทีมได้เพียงแค่ฤดูกาลเดียว เจอกับความกดดันเรื่องค่าตัวที่มหาศาล จนขาดความมั่นใจไปในช่วงแรกแต่พอเข้าสู่ยุคของ ราล์ฟ รังก์นิก ที่เข้ามาปรับตำแหน่งการเล่น ให้อิสระในการเคลื่อนที่ รวมไปถึงการสร้างสรรค์เกมรุกแบบเต็มตัว เจดอน ซานโช่ ยังมีแววที่จะเป็นดีลที่คุ้มค่าอยู่ซานโช่ มีความเร็วอยู่ในระดับที่ใช้ได้ การยิงประตูที่ได้ลุ้นเสมอ แต่ทีเด็ดที่สุดเป็นเรื่องของการจ่ายบอล รวมไปถึงการเลี้ยงกินตัวที่คล่องแคล่วจับทางได้ยาก แถมผลงานในช่วงหลังก็ยังไม่ออกทะเลไปไกลเหมือนคนอื่นๆ ตอนนี้แค่รอดูว่า เทน ฮาก จะใช้งานปีกรายนี้ในบทบาทหน้าที่ไหนเท่านั้น เพราะคุณภาพฝีเท้าที่แสดงออกมาให้แฟนบอลได้เห็น การันตีได้เลยว่าเด็กคนนี้มีของที่รอปล่อยออกมาแบบเต็มร้อย

ปิดท้ายกันที่ผู้เล่นในตำแหน่งแนวรุก ที่เชื่อว่าแฟนบอล เร้ด เดวิลส์ หลายต่อหลายคน อยากเห็นเขากลับมาคืนฟอร์มมากที่สุด เพราะเป็นนักเตะที่มีองค์ประกอบที่แสนเพียบพร้อมนั่นก็คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด อดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ที่ฟอร์มหายเข้ากลีบเมฆแบบไร้วี่แววจะกลับมา ภาษากายของเขาที่แสดงออกมาในสนาม เหมือนคนที่ไม่อยากเล่นฟุตบอลขาดความมุ่งมั่น แววตาเลื่อนลอยไร้จุดหมาย เหมือนสนใจเรื่องนอกสนามมากกว่า อย่างไรก็ตามคุณสมบัติที่ แรชฟอร์ด มีอยู่ในตัวทั้ง ความเร็ว การเลี้ยงกินตัว การจบสกอร์ ที่เฉียบคม

หากทาง เทน ฮาก ปลุกชีพดาวเตะรายนี้ให้กลับมามีกับความสุขกับการเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง รับรองได้เลยว่า ไม่ต้องไปหาแนวรุกราคาแพงๆ ในตำแหน่งตัวริมเส้นมาเสริมทัพให้เปลืองงบสู้เก็บเงินในส่วนนี้ไว้ แล้วหันไปซื้อผู้เล่นในตำแหน่งที่จำเป็นส่วนอื่นๆ ไม่ว่า ยกตัวอย่างเช่น มิดฟิลด์ตัวรับ แล้วทุ่มไปเลยหนักๆ ปังๆ คงพอจะแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่ได้ชัดเจนมากขึ้นแน่นอน

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้