ในช่วงฤดูร้อนนี้มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับอนาคตของ แกเร็ธ เบล ปีกทีมชาติเวลส์ของ เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน หลังจากที่เจ้าตัวหมดสัญญากับพลพรรค “ราชันชุดขาว” และจะสามารถย้ายทีมได้แบบไร้ค่าตัว

ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา มิดฟิลด์วัย 32 ปี ประสบความสำเร็จอย่างมากกับ มาดริด ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา ได้ถึง 3 สมัย แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 5 สมัย ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ 2 สมัย และแชมป์สโมสรโลก 3 สมัย

ในช่วง 2-3 ปี หลัง อดีตปีก เซาธ์แฮมป์ตัน และ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่บ่อยครั้ง และฟอร์มก็ไม่ดีเหมือนเก่า ซึ่งทำให้แฟนบอล มาดริด และสื่อในเดนกระทิงดุ เริ่มโจมตี เบล อย่างหนัก

กองกลางชาวเวลส์ รับค่าเหนื่อยกับ มาดริด อยู่ที่ 600,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวลือว่า เอเย่นต์ของเขากำลังทำงานอย่างหนักในการเจราจากับอดีตทีมเก่าอย่าง สเปอร์ส และ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เบล ได้สโมสรใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วคือ ลอสแอนเจลิส เอฟซี ในศึกเมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ สหรัฐฯ และบางทีนี่อาจจะเป็นทีมท้ายในอาชีพของกัปตันทัพ “มังกรแดง” ก็เป็นได้

แกเร็ธ เบล ย้ายสู่สหรัฐฯ

การย้ายไปยัง ลอสแองเจลิส นั้น มีข้อดีหลายอย่าง เบล จะได้ใช้ชีวิตตามแบบที่เขาต้องการ โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่า สนุกกับการใช้เวลาอยู่ที่ชายฝั่งตะวันตกของอเมริกาหลังเคยไปฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นกับ มาดริด และมักจะไปพักร้อนกับครอบครัวอยู่เสมอ  

ย้อนกลับไปในปี 2019 มันเป็นช่วเวลาที่ เบล เกือบจะย้ายออกจาก มาดริด เป็นหนแรก ซึ่งในเวลานั้น เขาได้รับข้อเสนอมากายจากทั่วทุกมุมโลก และที่ใกล้เคียงสุดๆคือการโยกไปเล่นกับ เจียงซูซูหนิง ในไชนีสซุเปอร์ลีก ประเทศจีน แต่ข้อตกลงล้มเหลวในท้ายที่สุด

ในเวลานี้ อดีตเด็กปั้น เซาธ์แฮมป์ตัน อาจไม่ใช่ปีกที่มีความเร็วจัดอีกต่อไป หลังจากช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เขาใช้สปีดที่จัดจ้านทำลายแนวรับคู่แข่ง แต่ตอนนี้ เบล เป็นตัวรุกที่มีประสบการณ์โชกโชน และสร้างประโยชน์กับทีมได้อย่างมหาศาล

เบล พิสูจน์ให้ทุกคนห็นแล้วว่า เขายังคงมีอิทธิพลเชิงบวกกับทีมหลังจากซัด 2 ประตู พา เวลส์ เอาชนะ ออสเตรีย ในเกมเพลย์ออฟ โซนยุโรป รอบรองชนะเลิศ และซัด 1 ประตูพาทีมเอาชนะ ยูเครน ในนัดชิงฯ ผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ในซีซ่นที่ผ่านมา เบล ทำแทบไม่ได้ลงเล่นให้ มาดริด เลย โดยลงเล่นไปรวมทุกรายการเพียง 7 เกม ยิง 1 ประตู ซึ่งการลงสนามอย่างม่ำเสมอในระดับสโมสรนั้น เป็นสิ่งที่เจ้าตัวต้องการเนื่องจากรักษาสภาพร่างกายในการพา เวลส์ ไปลุยฟุตบอลโลกปลายปีนี้

ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับ เบล มากไปกว่าการได้เป็นตัวแทนประเทศเวลส์ และหลังจากประสบความสำเร็จทุกอย่างกับ มาดริด แล้ว และนำพลพรรค “มังกรแดง” ไปสู่การแข่งขันรายการใหญ่ได้แล้ว เขาก็ตั้งเป้าหมายจะกลายเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของบ้านเกิด

การรอคอย 64 ปี ในการไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกของ เวลส์ จะสิ้นสุดลงเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับ สหรัฐอเมริกา ในเกมแรกของการแข่งขันฟุตบอลโลกในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ดังนั้น จนกว่าถึงเวลานั้น เบล ก็ต้องรักษาสภาพร่างกายของตัวเองให้ดีที่สุด

ทั้งหมดที่กล่าวมา นั่นคือเหตุผลที่ ลอสแองเจลิส ดูจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ เบล โดยฤดูกาลปกติของ MLS เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคม ตามด้วยการแข่งขันเพลย์ออฟ และ MLS Cup รอบชิงชนะเลิศในวันที่ 5 พฤศจิกายน

ลอสแองเจลิส เป็นทีมระดับท็อปของลีก และมีโอกาสผ่านเข้าไปเล่นในรอบลึกๆ ซึ่ง เบล จะได้ลงเล่นในรายการสำคัญ แถมยังได้พักอีกเกือบ 3 สัปดาห์ก่อนที่ฟุตบอลโลกช่วงปลายปีนี้ที่ประเทศกาตาร์จะเริ่มขึ้น และเขาจะไปช่วย เวลส์ ด้วยความฟิตเต็มที่

คนสำคัญของ เวลส์ ที่มีต่อ เบล

ฟุตบอลโลกกำลังใกล้เข้ามาอย่างมากสำหรับ เบล และเจ้าตัวก็มีความกระตือรือร้นอย่างมากที่จะมีส่วนร่วมในรายการใหญ่แบบนี้ โดยก่อนหน้านี้ มีการคาดเดากันว่า อดีตปีก มาดริด จะประกาศอำลาทีมชาติหากไม่ผ่านไปเล่นที่กาตาร์

ขณะที่ เบล เองก็ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะหันหลังให้ เวลส์ หลังจบศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งแน่นนอนว่า มันเป็นข่าวที่แฟนบอล “มังกรแดง” ไม่อยากจะได้ยิน

เบล เป็นสัญลักษณ์แห่งยุคทองของ เวลส์ จากเดิมพวกเขาอยู่อันดับต่ำสุดตลอดกาลที่ 117 ในการจัดอันดับโลกเมื่อ 11 ปีที่แล้ว สู่การสร้างประวัติศาสตร์เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูโร 2016 และตอนนี้พวกเขาผ่านเข้ารอบทัวร์นาเมนต์ใหญ่ 3 จาก 4 รายการ

ฟุตบอลโลก 2022 อาจดูเหมือนเป็นการแข่งขันรายการใหญ่ครั้งสุดท้ายของ เวลส์ แต่การีท่เขาเซ็นสัญญากับ ลอสแองเจลิส เป็นเวลา 1 ปี บวกออฟชั่นเสริม 1 ปี ก็อาจทำให้เราได้เห็นเจ้าตัวลงเล่นในศึกยูโร 2024 ที่เยอรมันอีกก็เป็นได้

สำหรับตอนนี้ที่ เบล และ เวลส์ โฟกัสไปที่การแข่งขันฟุตบอลโลกปลายปีนี้เป็นอันดับแรก และเขาก็มีโปรแกรมสำคัญเร็วๆนี้รออยู่คือการพา ทีมใหม่อย่าง ลอสแองเจลิส ทำศึกดาร์บี้แมตช์กับ แอลเอ แกแล็กซี่ ในในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้