Home บทความฟุตบอล เลขนี้มีอาถรรพ์! รวมนักเตะเบอร์ 9 ผลงานสุดพังของ เชลซี

เลขนี้มีอาถรรพ์! รวมนักเตะเบอร์ 9 ผลงานสุดพังของ เชลซี

0
เลขนี้มีอาถรรพ์! รวมนักเตะเบอร์ 9 ผลงานสุดพังของ เชลซี

จิมมี ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ คือกองหน้าผู้สวมเสื้อหมายเลข 9 คนเดียวของสโมสร เชลซี ที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโวมาครองได้ หลังจากยุคของเขาทีมยักษ์ใหญ่ย่านลอนดอนทุ่มเงินไปมากกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาทเพื่อหากองหน้ามาช่วยยืนประจำการล่าตาข่ายให้กับทีม แต่จนแล้นจนรอดมาถึงปัจจุบันพวกเขาก็ยังตามหาแข้งคนนั้นไม่เจอ ไม่ว่าจะทุ่มเงิน พยายามปลุกปั้น หรือทดลองยืมตัว นักเตะคนใดที่มาสวมเบอร์ 9 มีอันต้องฟอร์มรูดอย่างน่าประหลาดใจ และวันนี้ 168kick จะพาเพื่อนๆไปพบกับบรรดานักเตะฟอร์มพังเหล่านั้น…

สตีฟ ซิดเวลล์ (2007-08)

ก่อนหน้าจะย้ายมาค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ กองกลางชาวอังกฤษรายนี้ค้าแข้งกับสโมสร เรดดิ้ง นานถึง 4 ปี เป็นผู้เล่นชุดหลักลงสนามในลีกไปถึง 168 เกม ช่วยทีมพังไป 29 ประตู

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2007 เชลซี คว้าแข้งรายนี้มางงๆแบบไม่มีค่าตัว เท่านั้นไม่พอยังมอบหมายเสื้อหมายเลข 9 ให้กับกองกลางรายนี้อีกด้วย โดย สตีฟ ซิดเวลล์ มีโอกาสอยู่กับ เชลซี เพียงแค่หนึ่งฤดูกาลครึ่ง ได้ลงเล่นในลีกเพียง 15 เกม ยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว ก่อนที่จะย้ายออกไปอยู่กับ แอสตัน วิลล่า เพื่อหาโอกาสลงสนาม

ฟรังโก้ ดิ ซานโต้ (2008-10)

กองหน้าชาวอาร์เจนติน่า โด่งดังขึ้นมากับสโมสร ออดักซ์ อิตาเลียโน ในลีกชิลี เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีก เห็นแววความเป็นยอดกองหน้าจึงยื่นเงินจำนวน 4.3 ล้านปอนด์ คว้าตัวกองหน้าดาวรุ่งมาร่วมทัพ เมื่อเดือนมกราคม ปี 2008

ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของฤดูกาล 2007-08 ฟรังโก้ ดิ ซานโต้ โดนส่งลงไปเล่นในทีมชุดสำรองของ เชลซี โดยเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ซัดไปถึง 12 ประตูจาก 8 เกม

ฤดูกาล 2008-09 ดาวยิงอนาคตไกลจึงโดนดันขึ้นมาเล่นกับชุดใหญ่ สวมเสื้อหมายเลข 9 พร้อมความหวังผลิตสกอร์ที่ฝากเอาไว้ แต่เส้นทางของเขาก็ดับวูบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อแทบจะไม่มีโอกาสลงสนามกับทีม ตลอดทั้งฤดูกาลลงเล่นไป 16 เกมรวมทุกรายการ ยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว ฤดูกาลต่อมาจึงโดนส่งไปให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ยืมตัว ก่อนที่ วีแกน จะซื้อขาดไปเมื่อปี 2010

เฟร์นานโด ตอร์เรส (2011-15)

“เอล นินโญ่” เจ้าหนูมหัศจรรย์จากประเทศสเปน เป็นหนึ่งในกองหน้าที่อันตรายที่สุดของยุโรปในสีเสิ้อแดงของ ลิเวอร์พูล และเป็นกองหน้าคนโปรดของ โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมเชลซี ณ เวลานั้น

ทีมดังของลอนดอน ทุ่มเงินหมาศาลถึง 50 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดของพรีเมียร์ลีกเวลานั้น เพื่อสู่ขอกองหน้าชาวสเปนมาจาก ลิเวอร์พูล เมื่อวันสุดท้ายของตลาดหน้าหนาวปี 2011 อย่างไรก็ตามผลงานของเขาในสีเสื้อใหม่ไม่ปังเหมือนที่หลายคนคาดคิด เขามีช่วงเวลาที่ยิงประตูไม่ได้ยาวนานถึง 5 เดือน

แม้เขาจะประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เมื่อปี 2012 แต่จากค่าตัวที่เสียไปตัวเลขยิงประตูเพียงหลักหน่วยในลีกต่อฤดูกาลช่างน่าผิดหวังสุดๆ ตลอด 2 ฤดูกาลครึ่ง ลงเล่นในพรีเมียร์ 110 นัด ยิงไป 20 ประตู ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับ เอซี มิลาน เมื่อปี 2015

ราดาเมล ฟัลเกา (2015-16)

ดาวยิงชาวโคลอมเบีย มีช่วงเวลาที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดแห่งยุโรป หลังทำผลงานซัลโวไป 41 ประตูจาก 52 เกม, 52 ประตูจาก 68 เกม และ 65 ประตูจาก 108 ในเสื้อของ ปอร์โต้, แอตเลติโก มาดริด, โมนาโก ตามลำดับ แต่เขาก็มาพังพินาศที่พรีมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืมตัวหัวหอกรายนี่มาล่าตาข่าย เขาทำไปได้เพียง 4 ประตูจาก 25 นัด

ฤดูกาลต่อมา(2015-16) เชลซี ที่กำลังมองหาคมมาช่วยยิงประตูอยากลองของยืมตัว ฟัลเกา มาช่วยทีมบ้าง ซึ่งผลงานของดาวยิงหมายเลข 9 ของทีม ยังคงน่าผิดหวังแทบไม่มีโอกาสลงสนามกับทีม ลงเล่นทุกรายการ 12 เกม(ตัวจริง 2 เกม) ยิงไปเพียง 1 ประตูถ้วน แน่นอนว่าหลังจากจบฤดูกาลนั้น ราดาเมล ฟัลเกา ไม่เหยียบเท้ามาที่เกาะอังกฤษอีกเลย

อัลบาโร โมราต้า (2017-2020)

เชลซี จ่ายเงินค่าตัวให้กับ เรอัล มาดริด สูงถึง 60 ล้านปอนด์ เพื่อดึงตัวกองหน้าทีมชาติสเปนมาล่าตาข่ายในถิ่น “สแตมฟอร์ด บริดจ์” เมื่อตลาดหน้าร้อนปี 2017 โดยเขาเป็นนักเตะที่ทำให้หมายเลข 9 เกือบจะถูกลบล้างอาภรรพ์ หลังออกสตาร์ทได้อย่างร้อนแรงทำไปถึง 8 ประตูจาก 11 เกมแรกในเวทีพนีเมียร์ลีก ทว่าหลังจากนั้นอีก 20 เกม เขากลับยิงเพิ่มได้เพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าเขาเริ่มโดนกองหลังในพรีเมียร์ลีกจับทางได้ ร่างกายไม่ไหวโดนปะทะนิดหน่อยก็กระเด็นกระดอน และเมื่อมีโอกาสก็ทำหมูหกบ่อยครั้ง

ฤดูกาลต่อมาความมั่นใจของ โมราต้า ไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้ยิงคงพลาดง่ายๆเช่นเคย ครึ่งฤดูกาลหลังจึงโดนปล่อยไปให้ แอตเลติโก มาดริด ยืมตัว หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้กลับมาสวมชุดแข่งให้กับ เชลซี อีกเลย สถิติลงสนามกับสโมสรของศูนย์หน้าค่าตัวกว่าสามพันล้านเล่นไป 72 เกมรวมทุกราย ยิงไปทั้งสิ้น 24 ประตู

กอนซาโล่ อิกวาอิน (2019)

กองหน้าชาวอาเจนติน่า ย้ายมาร่วมทีมเชลซีด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของฤดูกาล 2018-19 มีสถิติลงเล่น 19 นัดรวมทุกรายการ ทำไป 5 ประตู หลังจากจบฤดูกาล เชลซี ยังไม่พอใจฟอร์มการเล่นโดยรวมจึงตัดสินใจไม่เซ็นสัญญาดาวยิงรายนี้มาร่วมทีม

แทมมี่ อับราฮัม (2016-21)

แทมมี่ เป็นเด็กปั้นจากอคเดมี่ของสโมสร เชลซี เขาเคยขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ๋เมื่อปี 2016 ก่อนจะโดนปล่อยตัวไปหาประสบการณ์กับ บริสตอล ซิตี้, สวอนซี ซิตี้ และแอสตัน วิลล่า เป็นเวลารวม 3 ฤดูกาล

จนกระทั่งฤดูกาล 2019-20 กองหน้าสัญชาติอังกฤษ โดนเรียกตัวกลับมารับใช้ต้นสังกัด พร้อมได้รับมอบหมายให้สวมเสื้อหมายเลข 9 ซึ่งฤดูกาลแรกแบบเต็มๆกับเชลซี แทมมี่ โชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล จบฤดูกาลดังกล่างเขาลงเล่นในลีกไปถึง 34 เกม ทำไป 15 ประตู

อย่างไรก็ตามช่วงท้ายฤดูกาลฟอร์มการเล่นดาวยิงรายนี้เริ่มลดดีกรีความร้อนแรงลง และฤดูกาลต่อมาเริ่มมีโอกาสลงสนามน้อยลง หลังไม่ได้ลงเล่นต่อเนื่อง ผลงานของเขาก็ต่อไม่ติด ตลอดทั้งฤดูกาล 2020-21 ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 22 เกม ทำไปเพียง 6 ประตู หลังจากเห็นว่าไม่มีอนาคตในถ้ำสิงห์ เขาจึงโดนชายไปให้กับ โรม่า ทีมดังจากกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อฤดูกาล 2021-22

โรเมลู ลูกากู (2021-)

กองหน้าชาวเบลเยี่ยม ย้ายมาอยู่กับ เชลซี ตั้งแต่สมัยดาวรุ่ง แต่ช่วงนั้นเขาไม่มีโอกาสลงเล่นกับทีมมากนัก จึงโดนปล่อยยืมตัว และขายออกไปในที่สุดเมื่อปี 2014 หลังจากหัวหอกรายนี้โดนปล่อยตัวออกไปจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาก็เริ่มผเนจรไปร่วมกับหลายสโมสร เริ่มจากสร้างชื่อกับ เอฟเวอร์ตัน ย้ายไปดับกับ แมนเชสเตอรื ยูไนเต็ด ก่อนที่จะมาระเบิดฟอร์มโหดกับ อินเตอร์ มิลาน

ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น และฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นตลอด 2 ฤดูกาลกับทีม “งูใหญ่” ในปี 2021 ที่ผ่านมา ทางสโมสร เชลซี ที่กำลังขาดคนยิงประตู จึงยื่นเงินมหาศาลถึง 97.5 ล้านปอนด์(ค่าตัวสถิติสโมสร) เพื่อนำตัว ลูกากู กลับมาช่วยทีมยิงประตูอีกครั้ง และรอบนี้กองหน้าค่าตัวแพงยังได้สวมเสื้อหมายเลข 9 เบอร์เก่งของกองหน้าทั่วโลกอีกด้วย

รอบนี้ ลูกากู เปิดตัวได้สวยงานช่วยทีมยิง 3 ประตูจาก 4 เกมแรกที่ลงเล่นในทุกรายการ แต่ช่วงฮันนีมูนช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นฟอร์มการถล่มตาข่ายของกองหน้าร่างใหญ่ก็หายไป เห็นได้ชัดว่ายิ่งเล่นเขายิ่งปรับตัวกับแผนการเล่นของ เชลซี ในยุคของ โทมัส ทูเคิ่ล ไม่ได้ ทำให้เขาเริ่มโดนดรอปเป็นตัวสำรองมากขึ้น เกมไหนที่ลงเล่นก็แทบไม่มีผลงานที่น่าประทับใจ

หลังโดนดองบ่อยครั้งขึ้น ลูกากู ออกมาให้สัมภาษณ์โทษแผนของกุนซือ ทูเคิ่ล ทำให้เขาโชว์ฟอร์มเก่งไม่ออก และเริ่มไม่มีความสุขกับทีม การออกมาสัมภาษณ์ครั้งนั้นเหมือนทิ้งระเบิดลูกใหญ่ให้กับกุนซือสุดเนี้ยบชาวเยอรมัน หลังจากนั้นกองหน้าค่าตัวสถิติสโมสรเชลซีแทบไม่มีโอกาสลงสัมผัสผืนหญ้าอีกเลย และล่าสุดในตลอดฤดูร้อนปี 2022 เขาก็โดนปล่อยตัวกลับไปให้ อินเตอร์ มิลาน ยืมตัวไปใช้งานอีกครั้ง ส่อแววที่เงินกว่า 4,500 ล้านบาท ที่จ่ายไปให้กับกองหน้าหมายเลข 9 ของทีมจะสูญเปล่าอีกครั้ง

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้