Home บทความฟุตบอล จัดทีมดาวรุ่ง พรีเมียร์ลีก ที่น่าจับตามองจากสโมสรต่างๆ

จัดทีมดาวรุ่ง พรีเมียร์ลีก ที่น่าจับตามองจากสโมสรต่างๆ

0
จัดทีมดาวรุ่ง พรีเมียร์ลีก ที่น่าจับตามองจากสโมสรต่างๆ

หลังจากที่ ลิเวอร์พูล เดินเครื่องเสริมทัพล่วงหน้าด้วยการกำลังจะปิดดีล ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ แนวรุกฟอร์มแรกมาจาก ฟูแล่ม ย่อมทำให้ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลหน้า มีแนวโน้มที่น่าจับตามองมากขึ้น หากโฟกัสไปที่นักเตะคลื่นลูกใหม่ของแต่ละทีม ที่แฟนบอลเริ่มได้เห็นบางรายมีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่กันบ้างแล้ว ซึ่งพวกเขาเหล่านี้อาจกลายเป็นคีย์แมนคนสำคัญของสโมสรได้ในอนาคตอันใกล้ ด้วยศักยภาพฝีเท้าที่สื่อต่างๆ ล้วนมองข้ามไม่ได้ เพราะมีการเล่นที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย จ่อคิวเตรียมแจ้งเกิดแบบเต็มตัวได้ในอีกไม่นาน

วันนี้เว็บไซต์ 168Kick ได้รวบรวมเอารายชื่อของเหล่าดดาวรุ่งจากทีมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ถูกคาดการณ์จากสื่อว่า มีโอกาสที่จะเป็นดาวดวงใหม่ในวงการ มาจัดทีมในระบบ 4-3-3 แผนยอดนิยม มานำเสนอให้กับแฟนบอลรับชมกันแบบสนุกๆ ด้วยการคัดเลือกมาเฉพาะผู้เล่นที่มีอายุไม่เกิน 19 ปี ก่อนวันที่ 8 เมษายน เป็นเกณฑ์การตัดสินมาดูกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า จะมีดาวเตะจากทีมใดติดทีมมาในตำแหน่งไหนกันบ้าง? แล้วจะตรงใจผู้อ่านกันบ้างหรือไม่?

เริ่มต้นกันที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู ขอจิ้มไปที่นายทวารสัญชาติอังกฤษอย่าง เจมส์ แทรฟฟอร์ด จากสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ถูกปล่อยตัวออกไปให้กับ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ทีมในศึก ลีก วัน ยืมตัวไปใช้งานอยู่ในตอนนี้ แล้วทำผลงานได้อย่างน่าจับตามอง จุดเด่นของเขาคือรูปร่างที่สูงใหญ่ถึง 192 เซนติเมตร ระยะการเซฟย่อมไม่ธรรมดา เหลือเพียงแค่การเก็บประสบการณ์ความเก๋าให้สุกงอมเท่านั้น

ต่อกันที่ตำแหน่งแบ็คขวาขอเลือกไปที่ ติโน่ ลิฟราเมนโต้ ฟูลแบ็คตัวเก่งจากสโมสร เซาแธมป์ตัน ที่นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เชลซี แบบถาวร ด้วยค่าตัวแค่ราว 5.9 ล้านยูโร ก็ทำผลงานให้กับต้นสังกัดได้อย่างคุ้มค่า มีจุดเด่นอยู่ที่การเติมเกมรุกที่อันตราย กล้าลุย กล้าเลี้ยง เพิ่มมิติในการเล่นให้กับทีมจากการบุกริมเส้นได้ดีเอามากๆ อาจจะมีปัญหาเรื่องเกมรับที่ต้องปรับจูนต่อไป แต่ด้วยอายุที่ยังไม่ถึง 20 ปี นักบุญ คงแอบกลัวที่จะมีทีมใหญ่มาฉกตัวไปร่วมทีมบ้างแล้ว เพราะฟอร์มของเจ้าหนูรายนี้โดดเด่นขึ้นทุกวัน

ถัดมาในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ครายแรก ขอเลือกไปที่ แอนดรูว์ โอโมบามิเดเล่ กองหลังร่างโย่งจาก นอริช ซิตี้ ที่ได้ลงเล่นในเกมลีกไปแล้ว 5 นัด แถมยังยิงประตูใส่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้อีกด้วย ส่งผลให้เขามีชื่อไปติดทีมชาติไอร์แลนด์ชุดใหญ่ ลงเล่นไปแล้ว 5 เกมเช่นกัน โอโมบามิเดเล่ เป็นปราการหลังที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี มีความเร็วที่ใช้ได้ คงน่าเสียดายไม่น้อยถ้าอนาคตของเขาในปีหน้าต้องไปเริ่มต้นที่ศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ

สำหรับคู่ขาในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คอีกราย ขอเลือกไปที่ ลีไว โควิลล์ กองหลังจากสโมสร เชลซี ที่ถูกปล่อยให้ทาง ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ ทีมในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ยืมตัวไปใช้งานอยู่ในตอนนี้ ซึ่งถือว่าโชว์ฟอร์มออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ลงสนามในเกมลีกไปกมากกว่า 25 นัด ยิงไปได้ 2 ประตู และทำอีก 1 แอสซิสต์ มีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็ว ถนัดเท้าซ้าย และสามารถขึ้นเกมจากแนวรับได้ดีอีกด้วย

ส่วนตำแหน่งแผงหลังรายสุดท้ายอย่างแบ็คซ้าย ขอเลือกไปที่ จาร์ราด แบรนด์เวธ ดาวรุ่งจากสโมสร เอฟเวอร์ตัน ที่เพิ่งกลับมาจากการยืมตัว ให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส มาหมาดๆ หลังทำผลงานได้น่าประทับใจ ช่วยให้ กุหลาบไฟ มีลุ้นในการเลื่อนชั้นยาวมาจนถึงช่วงปลายซีซั่น เขาเป็นนักเตะที่ถนัดซ้ายธรรมชาติ มีสมาธิในเกมรับที่ยอดเยี่ยม แถมยังหุบเข้ามายืนเป็นเซนเตอร์แบ็คยามจำเป็นได้อีกด้วย

เข้าสู่แผงกองกลางรายแรกขอเลือกไปที่ ฮันนิบาล เมจบรี้ มิดฟิลด์ทีมชาติตูนิเซีย ที่ทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมทุ่มเงินถึง 10 ล้านยูโร ซื้อตัวเขามาจาก โมนาโก ตอนอายุแค่ราว 16 ย่าง 17 ปีเท่านั้น ในปี 2019 ซึ่งฝีเท้าของเขาเมื่อเทียบกับผู้เล่นรุ่นราวคราวเดียวกัน ถือว่านำหน้าไปไกล แถมยังมีรูปร่างที่สูงใหญ่ ความสามารถเฉพาะตัวการเอาตัวรอด พลิกบอล จ่ายบอลที่ไม่ธรรมดา คล้ายคลึงกับ ปอล ป็อกบา อย่างไรก็ตามดูท่าว่า เมจบรี้ ที่ถูกดันขึ้นมาอยู่กับทีมชุดใหญ่ของ ปีศาจแดง ต้องรอลุ้นว่าผู้จัดดการทีมคนใหม่จะตัดเกรดเขาออกมาเป็นแบบไหน

ต่อกันที่ดาวรุ่งจากทีมเพื่อนบ้านน่ารำคาญ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี โคล พาลเมอร์ กองกลางสัญชาติอังกฤษ เป็นตัวชูโรงของทีมในยุคใหม่ สามารถสอดดแทรกขึ้นมาอยู่ในทีม เรือใบสีฟ้า ที่เต็มไปด้วยสตาร์ฝีเท้าระดับโลกได้อย่างน่าทึ่ง มีโอกาสลงสนามให้กับต้นสังกัดรวมไปมากกว่า 10 นัด เซ้นส์ฟุตบอลของเจ้าหนูรายนี้ไม่ธรรมดา ทั้งการจ่ายและการยิง รวมไปถึงการเลือกช็อตการเล่นที่เกินวัย ขนาดที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังเอ่ยปากชมผ่านสื่ออยู่เป็นประจำ

ปิดท้ายตำแหน่งกองกลางกันที่ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ แนวรุกตัวใหม่ถอดด้ามของ ลิเวอร์พูล ที่คว้าตัวมาจาก ฟูแล่ม จ่าฝูงฟอร์มแรงแห่งศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ที่สามารถเล่นได้อย่างสาระพัดประโยชน์ในแนวรุก ไม่ว่าจะเป็นเพลย์เมคเกอร์ หรือ ขยับถ่างออกไปยืนริมเส้น มีความเร็วความคล่องตัวเป็นจุดเด่น สามารถฉีกแนวรับคู่แข่งได้แบบสบายๆ กล้าเล่น กล้าลุย เกินวัย บวกกับลูกขยันที่เต็มไปด้วยแพสชั่น อันตรงสเปคแบบที่ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ ต้องการพอดิบพอดี

ถัดมาที่ตำแหน่งปีกขวาแน่นอนว่า ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เจ้าจุกขวัญใจแฟนบอล เดอะ ค็อปส์ คว้าสัมปทานไปครองแบบไร้คู่แข่ง หากไม่เจออาการบาดเจ็บหนักเล่นงาน รับรองได้เลยว่า เอลเลียตต์ จะถูก คล็อปป์ ใช้งานมากกว่าที่เห็นเป็นเท่าตัว เพราะมีการเล่นที่โดดเด่นเกินอายุ กล้าลุย กล้าลาก เต็มไปด้วยแพสชั่นในการลงสนาม จังหวะการครองบอลแล้วพาบอลไปด้วยตัวเองของ เอลเลียตต์ เป็นไม้ตายที่ปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งมานักต่อนัก แถมหลังจากหายเจ็บจังหวะการยิงประตูของเจ้าหนูรายนี้ ดูเหมือนจะเพิ่มความเฉียบคมขึ้นไม่น้อย แล้วเริ่มเรียนรู้ถึงการเล่นแบบเซฟตัวเองไม่ให้เสี่ยงโดนเตะมากขึ้นด้วย

ขยับมาที่ตำแหน่งปีกซ้าย ขอชี้เป้าไปที่ดาวรุ่งขวัญใจอดีตกุนซือปีศาจแดงอย่าง ราล์ฟ รังก์นิก ที่ปั้นจนติดทีมชาติสวีเดนชุดใหญ่ไปแล้วอย่าง แอนโทนี่ อีลังก้า ที่เป็นผลงานการปั้นจากอะคาเดมี่ของทีม ที่สามารถทะลุขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชุดใหญ่ แล้วลงโชว์ฝีเท้าไปแล้วตั้งแต่ซีซั่นก่อน อีลังก้า เป็นผู้เล่นริมเส้นที่มีความเร็วจัดจ้าน พาบอลเข้าสู่พื้นที่อันตรายได้ดี มีความขยันและกระหายในการลงสนาม พร้อมวิ่งไล่บอลแบบไม่มีหมด แต่มองโดยภาพรวมแล้วต้องขัดเกลาจังหวะการเล่นอีกไม่น้อย เพราะลูกไม้เดิมๆ ของเขาใช้กับนักเตะระดับซีเนียร์ ไม่ค่อยจะได้ผลมากนัก ถูกอ่านทางและจับจังหวะได้ง่าย แต่ยังดีที่มีทักษะการหาพื้นที่ว่างเก่ง พาตัวเองเข้าไปอยู่ในพื้นที่อันตรายเพื่อรอจบสกอร์ได้บ่อยเป็นไม้ตาย

ปิดท้ายกันที่ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า เป็นนักเตะดีกรีทีมชาติโปรตุเกสชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี มีฝีเท้าที่โดดเด่นและได้รับการจับตามองจากสื่อตั้งแต่อายุยังน้อย ถูกคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ในอนาคตระดับ วันเดอร์ คิดส์ นั่นก็คือ ฟาบิโอ ซิลวา ที่ทาง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ตัดสินใจทุ่มเงินราว 40 ล้านยูโร ดึงตัวมาร่วมทีมตั้งแต่ฤดูกาลก่อนจาก เอฟซี ปอร์โต้ แต่ดูเหมือนจะยังปรับตัวเข้ากับความเร็วในลีกอังกฤษไม่ได้มากนัก แม้ว่าจะถูกส่งลงสนามบ่อยครั้ง แต่ดูเหมือนเจ้าหนูรายนี้ยังขาดความมั่นใจในจังหวะจบสกอร์ เหลือเพียงแค่ประตูปลดล็อคแบบต่อเนื่อง คงทำให้ฟอร์มของเขาดีขึ้นทีละเล็กละน้อย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้