Home บทความฟุตบอล 10 พ่อค้าแข้งที่ทำประตูได้มากที่สุด ในช่วงอายุก่อน 21 ปี ตอนจบ

10 พ่อค้าแข้งที่ทำประตูได้มากที่สุด ในช่วงอายุก่อน 21 ปี ตอนจบ

0
10 พ่อค้าแข้งที่ทำประตูได้มากที่สุด ในช่วงอายุก่อน 21 ปี ตอนจบ

ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วในเรื่อง 10 พ่อค้าแข้งที่ทำประตูได้มากที่สุด ก่อนอายุเกิน 21 ปี ที่รายชื่อของพ่อค้าแข้งที่ติดมาแต่ละราย ล้วนเป็นตัวท็อปฝีเท้าระดับโลกของวงการทั้งหมด แต่ด้วยช่วงเวลาที่แจ้งเกิดต่างยุคต่างสมัยกัน ทำให้สถิติต่างๆ เลยดูน้อยว่าที่ควรจะเป็น รวมไปถึงเรื่องของแทคติกส์การเล่น การวางแผน ที่ไม่ได้เอนเตอร์เทนแฟนบอลดด้วยเกมรุกแบบทุกวันนี้ ที่ต้องนำมาคิดคำนวณด้วยเช่นกัน ไม่นับรวมเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่ช่วยพัฒนาเรื่องร่างกายและอุปกรณ์ ที่อาจไม่ไฮเทคเท่ากับที่เห็นในยุคนี้ อันเป็นปัจจัยที่ต้องนำมาคิดคำนวณด้วยทั้งหมด

ในยุค โมเดิร์นฟุตบอล แบบทุกวันนี้ กลายเป็นว่า นักเตะที่อายุยังน้อย กลับได้รับโอกาสให้ลงสนามมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเทียบกับยุคก่อน เนื่องจากได้รับการดูแลฝึกสอนแบบถูกทิศถูกทาง เสริมสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็นจนเติบโตมีพัฒนาการได้เร็วกว่าเดิมเอามากๆ แล้วยิ่งได้รับการเสริมกระดูกให้แข็งแกร่งด้วยเกมการแข่งขันจริง ยิ่งทำให้พรสวรรค์ของพวกเขาโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ จนได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเริ่มต้นออกสตาร์ทในจุดที่ได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ ย่อมส่งผลดีต่ออาชีพในระยะยาว ไม่ต่างกับการมีทางลัดไปสู่ความสำเร็จที่สะดวกสบายมากขึ้น

บทความนี้เว็บไซต์ 168Kick พร้อมนำเสนอบทความตอนปิดท้ายในซีรีส์นี้ ที่จะรวบรวมผู้ครองสถิติในตำแหน่งท็อปไฟว์มาให้ได้รับชมกันอีกเช่นเคย แต่จะมีดาวเตะคนไหนที่มีชื่อติดโผเข้ามาบ้าง? จำนวนประตูที่พวกเขาทำได้จะมากกว่าคนอื่นๆ มากแค่ไหน? ใครจะอยู่ในอันดับใดกันบ้าง? แล้วจะมีนักเตะที่แฟนๆ คิดเอาไว้อยู่ในใจมีชื่ออยู่ในลิสต์หรือไม่? ทุกคำตอบอยู่ด้านล่างนี้เรียบร้อยแล้ว เชิญติดตามกันได้เลย

เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 5 เป็นดาวยิงดีกรีทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่เพิ่งจะแขวนสตั๊ดไปหมาดๆ ในช่วงต้นซีซั่นนี้ จากปัญหาเรื่องโรคหัวใจ ศูนย์หน้าร่างเล็กรายนี้ เป็นเจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำผลงานได้อย่างเป็นตำนาน จนสโมสรต้องทำรูปปั้นไว้เพื่อเป็นการยกย่อง จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ลูกเขยของ ดิเอโก้ มาราโดน่า ที่ช่วงอายุตอนไม่เกิน 21 ปี เอล กุน กดประตูไปได้มากถึง 84 ลูก จากการลงสนามมากถึง 213 นัด ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักที่ร่างกายของเขาจะพังไว อันเป็นผลมาจากการโดนใช้งานอย่างหนักแบบต่อเนื่องในช่วงเริ่มต้นอาชีพ จนสะสมอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

ต่อกันที่อันดับที่ 4 ดาวยิงรายนี้แทบไม่มีอะไรให้ต้องพิสูจน์อีกต่อไป หลังจากพาทีมชาติฝรั่งเศส ก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกได้เต็มภาคภูมิในปี 2018 ทั้งที่ตัวเองเป็นดาวรุ่งที่กลับแบกผลงานที่เกินตัว พารุ่นพี่หลายรายที่เล่นไม่ออกไปถึงเป้าหมายได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นั่นก็คือ คีเลียน เอ็มบัปเป้ กองหน้าจอมมั่นจากสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่เพิ่งต่อสัญญารับค่าเหนื่อยก้อนโตไปหมาดๆ ที่มีองค์ประกอบครบทุกอย่างแบบที่กองหน้าที่ดดีควรมี โดยช่วงอายุที่ยังไม่เกิน 21 ปี เอ็มบัปเป้ กดประตูไปได้มากถึง 116 ประตู จากการลงเล่น 199 นัดอย่างเป็นทางการ นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงเอามากๆ สำหรับดาวรุ่ง

ถัดมาที่อันดับที่ 3 ดาวยิงรายนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่เนื้อหอมที่สุดในวงการฟุตบอล ที่เพิ่งจะย้ายไปจอยทัพ เรือใบสีฟ้า แฟนบอลต่างรอคอยเกมประเดิมสนามของเขา ด้วยผลงานอันร้อนแรงเกินวัย ยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง มีทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง ความดุดันในการเล่น รวมไปถึงจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคม นั่นก็คือ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ ที่แจ้งเกิดกับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ที่หากเขาไม่เจออาการบาดเจ็บรบกวนในช่วงหลัง คงพาต้นสังกัดไปไกลได้มากกว่านี้ ในช่วงอายุที่ไม่เกิน 21 ปี ฮาลันด์ กดประตูไปได้มากถึง 118 ลูก จากการลงเล่นในเกมอย่างเป็นทางการจำนวน 168 นัด อันเป็นตัวเลขที่น่าเหลือเชื่อเอามากๆ

เข้าสู่อันดับที่สอง ผู้เล่นคนนี้คือเจ้าของสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกคนปัจจุบัน ซึ่งในเวลานั้นไม่มีใครคาดคิดว่า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จะยอมจ่ายค่าฉีกสัญญา เพื่อคว้าตัว เนย์มาร์ มาจาก บาร์เซโลน่า ให้ย้ายมาเล่นในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส พร้อมเปย์ค่าเหนื่อยให้แบบมหาศาล ด้วยศักยภาพของศูนย์หน้าชาวบราซิล ที่มีลีลาการเล่นอันน่าตื่นตาตื่นใจ มีทักษะส่วนตัวที่สูงแบบหาตัวจับได้ยากแบบชาวแซมบ้าแท้ๆ ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่สมัยค้าแข้งอยู่ในบ้านเกิด ซึ่งในช่วงวัยที่อายุยังไม่เกิน 21 ปี เนย์มาร์ ทำประตูไปได้มากถึง 140 ลูก จากการลงสนาม 220 นัด ช่างต่างกับฟอร์มในสนามทุกวันนี้ราวฟ้ากับเหว เพราะถ้าแฟนบอลไดด้ติดตามชมผลงานของ เปแอสเช ในช่วงหลัง คงมีแต่อยากได้ เนย์มาร์ ร่างวัยรุ่นมาเล่นให้กับทีมมากกว่าอย่างแน่นอน

ปิดท้ายกันที่อันดับที่หนึ่งประจำบทความนี้ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย แฟนบอลและสื่อในวงการต่างๆ ยังคงยกย่องให้เขาคือกองหน้าที่ดีที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา แม้ว่าจะเล่นด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เต็มร้อย แต่ผลงานในสนามก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเหลือเชื่อ นั่นก็คือ โรนัลโด้ หลุยส์ นาซาริโอ เดอ ลิม่า หรือในชื่อที่คุ้นหูกันอย่าง โรนัลโด้ อาร์ไนน์, โด้อ้วน และ โล้นทองคำ ที่กวาดรางวัลส่วนตัวมาครองมากมายหลายสาขา เคยค้าแข้งอยู่กับยอดทีมระดับท็อปทั้ง บาร์เซโลน่า, อินเตอร์ มิลาน และ เรอัล มาดริด เป็นต้น การย้ายทีมของเขาในช่วงพีค สโมสรที่อยากได้ตัวต้องยอมทุ่งเงินระดับสถิติโลกในเวลานั้น เพราะผลงานการถล่มประตูของเขานั้นเป็นตัวเลขที่หาคนเทียบได้ยากยิ่ง ซึ่งในช่วงเวลาที่ อาร์ไนน์ ยังอายุไม่เกิน 21 ปี เขายิงไปได้มากถึง 167 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 185 นัดเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่จึงจะมีผู้มาทำลายตัวเลขนี้ของ โอ ฟีโนมีน่อน ลงได้ในอนาคต

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้