ผ่านไปแล้วในตอนแรกกับบทความ 10 กองกลางที่ค่าตัวสูงสุดในตลาดนักเตะปัจจุบัน ซึ่งแฟนๆ คงได้เห็นกันไปแล้วว่า ราคาค่าตัวของนักฟุตบอลสมัยนี้ โอเวอร์และแพงขนาดไหน เพราะการเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคม ที่ไม่ได้มองว่าพวกเขาเป็นแค่นักเตะ แต่กลายเป็นสินค้าที่สามารถสร้างรายได้ให้กับสโมสรได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลทางโซเชี่ยลมีเดีย ที่สามารถเพิ่มฐานแฟนบอลทั่้วโลกได้ รวมไปถึงการนำไปต่อรองกับสปอนเซอร์ที่เข้ามาสนับสนุนทีมด้วยเม็ดเงินมหาศาล หากทีมใดมีสตาร์อยู่ในทีมเยอะก็เรียกตัวเลขได้สูงเป็นพิเศษ

ปฏิเสธได้ยากว่าผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง เป็นเหมือนหัวใจของทีมฟุตบอล ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเกม มีบทบาททั้งเกมรุกและเกมรับ ใช่ว่าจะหาผู้เล่นดีๆ ในราคาถูกมาบ่มเพาะฝีเท้าแล้วประสบความมสำเร็จได้เสมอไป เพราะบางทีมไม่สามารถใช้เวลาได้มากขนาดนั้น แล้วไม่สามารถรับความเสี่ยงที่จะตามมา หากเป็นการซื้อที่ผิดพลาดได้ เนื่องจากดีลนักเตะระดับกลางๆ ทุกวันนี้ก็ปาเข้าไป 30-40 ล้านยูโรเข้าไปแล้ว ดังนั้นถ้าหากต้องการของแท้แบบไม่มีเสี่ยง ย่อมต้องจ่ายแพงเป็นพิเศษ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดีลกับคู่ค้าที่ไม่ต้องการเสียตัวหลักออกไป โดยที่พวกเขาต้องมาเป็นฝ่ายรับความเสี่ยงในการหาจอมทัพคนใหม่ ที่อาจกลายเป็นว่าไม่ดีพอ แล้วส่งผลให้ทีมเสียสมดุลย์ไปทั้งระบบ

บทความนี้เว็บไซต์ 168Kick พร้อมปิดท้ายคอนเทนต์นี้ ซึ่งจะเป็นการนำเสนอผู้เล่นในตำแหน่งท็อปไฟว์ ที่ทางสื่อในต่างประเทศมองว่า พวกเขาเหล่านี้ คือ ตัวท็อปในแดนกลางที่มีมูลค่าสูงสุด ด้วยการนำองค์ประกอบหลายปัจจัยมาเป็นการคิดคำนวณ บนพื้นฐานของราคาในตลาดกลาง แล้วเสริมด้วยเรื่องของอายุ, ต้นสังกัด, ฟอร์มการเล่น และ สภาพร่างกาย เป็นต้น มาลุ้นไปพร้อมๆ กันเลยว่า จะมีนักเตะที่แฟนๆ คาดเดาเอาไว้ มีชื่อติดมาในสกู๊ปนี้หรือไม่? ราคาค่าตัวของพวกเขาพุ่งไปแรงขนาดไหน? ทุกคำตอบมีอยู่ในคลิปนี้เรียบร้อยแล้ว

เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 5 เป็นกองกลางดีกรีแชมป์ยุโรปกับทีมชาติอิตาลี วัย 25 ปี แถมยังมีดีกรีแชมป์ศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ติดไม้ติดมืออยู่ด้วย นับวันชื่อของ นิโคโล่ บาเรลล่า กลายเป็นผู้เล่นที่เนื้อหอมมากขึ้นทุกตลาด เพียงแต่ต้นสังกัดอย่าง อินเตอร์ มิลาน ยังคงออกท่าทีหวงก้าง ไม่ยอมเปิดการเจรจากับทีมใดทั้งนั้น เพราะมองว่า บาเรลล่า คือ จอมทัพ และ อนาคตของทีม ที่หากเสียไปคงหาตัวแทนได้ยากยิ่ง จุดเด่นของ บาเรลล่า เป็นเรื่องของความขยัน เล่นได้ดีทั้งเกมรุกและเกมรับ เชื่อมเกมก็ได้ ตัดเกมก็ดี แถมช่วงหลังยังเติมขึ้นไปยิงประตูสำคัญได้บ่อย ไม่แปลกใจเลยที่มูลค่าของเขาจะพุ่งขึ้นไปสูงถึง 70 ล้านยูโร ที่อาจจะไม่หยุดแค่นี้ก็เป็นได้

ต่อกันที่อันดับที่ 4 เป็นกองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่อยู่ในชุดเด็กนรกของ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม มีเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง มัทไธส์ เดอ ลิกท์ และ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค แต่ดูท่าว่า เฟรงกี้ เดอ ยอง ที่ย้ายมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า จะมีอนาคตที่ดูสดใสมากที่สุด หลังจากได้กุนซือที่มีคู่มือการใช้งานเขาอย่างถูกต้องแบบ ชาบี เอร์นานเดซ เข้ามาคุมทีม เดอ ยอง เป็นกองกลางเชิงสูง ที่มีทักษะฟุตบอลที่แน่นปึ้ก เล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม มีการอ่านเกมที่แม่นยำ บวกกับความขยันวิ่งได้ตลอด 90 นาทีไม่มีหมดเป็นจุดขาย การที่เขาได้เล่นร่วมกับมิดฟิลด์รุ่นพี่อย่าง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ช่วยให้เขามีการพัฒนาฝีเท้ามากขึ้นเรื่อยๆ ในวัยแค่ 24 ปี ยังมีเวลาให้เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกมาก ปัจจุบัน เดอ ยอง ถูกตีมูลค่าออกมาที่ 70 ล้านยูโร แต่ดูแล้วอาจพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ หากโชว์ฟอร์มได้ดีในศึก ฟุตบอลโลก

ถัดมาที่อันดับที่ 3 เป็นกองกลางวัยแค่ 18 ปี จากสโมสร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกลายเป็นความหวังใหม่ของทัพสิงโตคำราม ที่นับวันฝีเท้ามีแต่พัฒนาการไปทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก จู้ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์จอมห้าว ที่สามารถเล่นได้ทั้งบทบาท บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ และ ตัวสร้างสรรค์เกม เบลลิงแฮม เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่เลือกย้ายออกไปสร้างชื่อเสียงนอกประเทศ เพราะมองว่ามีโอกาสได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องมากกว่าอยู่กับยักษ์ใหญ่แดนผู้ดี เขามีจุดแข็งอยุ่ที่ความขยัน เซ้นส์บอลที่เกินอายุ และการตัดบอลที่เด็ดขาด ตรงสเปคกับกองกลางที่ ลิเวอร์พูล สโมสรชื่อดังในอังกฤษ กำลังตามหาแบบพอดิบพอดี มูลค่าปัจจุบันของ เบลลิงแฮม อยู่ที่ราว 75 ล้านยูโร แต่เชื่อว่าถ้าจะมีการซื้อ-ขายกันจริง ราคานี้คงเอาไม่อยู่แน่ๆ

ข้ามมาที่อันดับที่ 2 เป็นกองกลางดีกรีทีมชาติสเปน เจ้าของรางวัล โกลเด้น บอย คนล่าสุด ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นให้กับ บาร์เซโลน่า และ ทีมชาติสเปน โดนหอบหิ้วไปเล่นหลายรายการติดต่อกันแบบแทบไม่ได้พัก นั้นก็คือ เปดรี มิดฟิลด์จอมขยัน ที่นับวันพัฒนาการด้านฝีเท้ามีแต่กราฟที่พุ่งขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ เปดรี สามารถรับบทบาทได้ทั้งมิดฟิลด์แบบ บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์, ตัวสร้างสรรค์เกม และ ถ่างออกไปเล่นริมเส้นก็ได้เช่นกัน จุดเด่นของเขาอยู่ที่วิสัยทัศน์การเล่นที่เกินอายุ มีการเล่นที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ จ่ายบอลแม่น แก้ไขสถานการณ์ยามคับขันได้ดี หลังๆ มีการเพิ่มทักษะเรื่องการยิงประตูที่ดีขึ้นอีกต่างหาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะถูกตีมูลค่าไว้สูงถึง 80 ล้านยูโร ซึ่งไม่แน่ใจว่าต่อให้ได้เงินมากกว่านี้สองเท่า เจ้าบุญทุ่ม จะยอมขายเขาออกไปหรือไม่?

ปิดท้ายกันที่อันดับที่หนึ่งประจำสกู๊ปนี้ อาจเป็นตัวเลือกที่ดูเซอร์ไพรส์สำหรับแฟนบอลไปสักหน่อย ที่ตำแหน่งนี้ตกเป็นของดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ วัย 21 ปี สังกัดสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่าง ฟิล โฟเด้น ที่แค่เรื่องของการลงสนามของเขา ยังต้องรอลุ้นการโรเตชั่นของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ว่าต้องการเกมแบบไหน แล้วส่วนใหญ่มักจะใช้ โฟเด้น ลงเล่นในตำแหน่งตัวริมเส้น และ ฟอลส์ ไนน์ เป็นหลัก แต่ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เจอกับ แอตเลติโก มาดริด ที่ทาง เรือใบสีฟ้า เอาชนะไปได้ 1-0 เป๊ป จับเอา โฟเด้น ไปเล่นในตำแหน่งตัวสร้างสรรค์เกมบางจังหวะ สลับตำแหน่งกับ เควิน เดอ บรอยน์ แล้วแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างโดดเด่น ทำให้เห็นว่าเขาเล่นได้สาระพัดประโยชน์ ขึ้นอยู่กับว่ากุนซือเลือกจะใช้เขาในบทบาทไหน จุดเด่นในเรื่องของเบสิคฟุตบอล ความคล่องตัวในการเลี้ยงผ่านคู่แข่ง รวมไปถึงการยิงประตูล้วนเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ โฟเด้น เป็นนักเตะที่ครบเครื่อง มูลค่าในตลาดกลางของเขาตกอยู่ที่ 90 ล้านยูโร ซึ่งต่อให้มีข้อเสนอระดับนี้เข้ามาจริง เรือใบสีฟ้า ก็คงไม่มีทางปล่อยเม็ดงามรายนี้ออกไปจากทีมอย่างแน่นอน