สถานการณ์ตลาดซื้อ-ขายนักเตะในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเปิดทำการรอบใดก็ตาม แฟนบอลมักจะได้เห็นดีลที่น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ ยิ่งถ้าโฟกัสลงไปเฉพาะในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงเอามากๆ อันเป็นผลมาจากการได้รับความนิยมอย่างสูงจากทั่วโลก มีแฟนบอลติดตามทีมรักทีมเชียร์มากมายล้นหลาม ทำให้แต่ละสโมสรจำเป็นต้องควักเงินลงทุน เพื่อหานักเตะชื่อดังเข้ามาสังกัดแบบเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากจะมีผลประโยชน์ต่อทีมทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นผลงานในสนาม รวมไปถึงการขยายฐานแฟนบอลเพิ่มเติมในอนาคต

ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักที่ทีมระดับหัวตาราง ที่มีฐานแฟนบอลติดตามมหาศาล จำเป็นต้องควักกระเป๋าจ่ายหนักมากกว่าทีมระดับกลางทั่วไป เพราะเป้าหมายที่พวกเขาเล็งเอาไว้ จะมองแค่นักเตะดาดๆ ทั่วไปไม่ได้ ต้องมีชื่อเสียงการรันตีฝีเท้าระดับหนึ่งในวงการ ไม่เช่นนั้นอาจไม่ได้รับความนิมยมจาแฟนบอลเท่าที่ควร แล้วจะมีคำถามตามมาว่าทำไม่ถึงไม่ซื้อคนนั้นคนนี้ ใช้เงินให้สมกับฐานะของสโมสร จึงเป็นที่มาของดีลระดับร้อยล้านยูโร ที่กลายเป็นการจ่ายเงินทั่วๆ ไปสำหรับยักษ์ใหญ่แต่ละลีกไปแล้ว แต่ด้วยราคานักเตะที่พุ่งกระฉูดอันยากที่จะควบคุม นั้นมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยที่ต้องนำมาคิดคำนวณเช่นกัน รวมไปถึงอัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกทั่วทุกวงการที่มองข้ามไม่ได้

บทความนี้เว็บไซต์ 168Kick พร้อมนำเสนอสกู๊ปที่น่าสนใจอันอ้างอิงมาจากสื่อชื่อดังอย่าง ดิ แอธเลติกส์ ที่จัดอันดับการย้ายทีมของนักเตะใน พรีเมียร์ลีก ที่แพงที่สุด 10 อันดับขึ้นมา โดยอ้างอิงจากอัตราเงินเฟ้อในยุคปัจจุบันที่พุ่งสูงขึ้นแบบไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ซึ่งเป็นการศึกษาและวิจัยจาก เคียแรน แม็คไกวร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจากมหาวิทยาลัย ลิเวอร์พูล ที่ร่วมงานกับเพื่อนของเขาอย่าง เจสัน ลอว์ส เพื่อคิดคำนวณอัตราค่าตัวที่เหมาะสมที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด ด้วยการนำองค์ประกอบหลายปัจจัยมาเป็นชุดข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ จนได้สุดยอดดีลที่แพงที่สุดออกมา แต่จะมีนักเตะคนใดกันบ้างที่ติดโผเข้ามา? แล้วเป็นการย้ายที่เกิดขึ้นช่วงไหนระหว่างสโมสรใด? 5 คนแรกที่มาเปิดหัวในตอนแรกจะเป็นใครกันบ้าง? ติดตามได้ในบทความนี้

เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 10 เป็นการย้ายตัวที่แฟนบอล เดอะ ค็อปส์ ของสโมสร ลิเวอร์พูล เคืองนักเตะแรงที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์สโมสร เมื่อทาง เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าแก้มแดงชาวสเปน ตัดสินใจขอแจ้งย้ายไปอยู่กับ เชลซี ก่อนตลาดนักเตะจะปิดตัวลงแค่ไม่นาน นับว่าเป็นการยื่นหอกให้คู่แข่งแบบไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่สามารถห้ามความต้องการของนักเตะได้ โดยถ้าหากคำนวณเป็นค่าเงินในปัจจุบัน การย้ายครั้งดังกล่าวของ ตอร์เรส จะมีมูลค่าสูงถึง 112.3 ล้านปอนด์เลยทีเดียว แต่เมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นในปี 2011 จำนวนตัวเลขเลยไม่อลังการเท่านี้

ต่อกันที่อันดับที่ 9 ดีลนี้เป็นการนำเข้านักเตะจากลีก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ที่เป็นการดำเนินงานของสโมสร อาร์เซน่อล ในปี 1995 ที่ตัดสินใจทุ่มซื้อตัวดาวยิงเชิงสูงอย่าง เดนนิส เบิร์กแคมป์ ให้ย้ายมาเล่นในถิ่น ไฮบิวรี่ ด้วยความหวังจะชุบชีวิตให้ ไอซ์เบิร์ก กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง หลังย้ายไปเล่นในแดนรองเท้าบู๊ทแล้วไม่ปัง ซึ่งสุดท้ายแล้วก็เป็นการเล็งเป้าที่ถูกต้องและคุ้มค่าที่สุดดีลหนึ่งของสโมสร เพราะเหมือนได้ทั้งกองหน้าและเพลย์เมคเกอร์ชั้นยอด แบบมัดรวมมาในผู้เล่นคนเดียว โดยถ้าหากตีค่าตัวของ เบิร์กแคมป์ เป็นค่าเงินในปัจจุบันแล้ว การย้ายครั้งนั้นจะมีมูลค่าสูงถึง 117.3 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

ถัดมาที่อันดับที่ 8 เป็นดีลเซอร์ไพรส์หนึ่งดีลของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เกิดขึ้นในปี 1998 เป็นต้นกำเนิดของตำนานคู่หูนิลกาฬ ที่เลือกนำเข้า ดไวท์ ยอร์ค กองหน้าทีมชาติตรินิแดด แอนด์ โตเบโก จากสโมสร แอสตัน วิลล่า ไปจับคู่กับ แอนดี้ โคล จนทำผลงานสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ ยอร์ค เป็นศูนย์หน้าที่มีเอลกลักษณ์ในการเล่นที่เต็มไปด้วยเทคนิค จังหวะการลากเลื้อยที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงจำภาพหน้าเปื้อนยิ้มของเขาได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าดีลดังกล่าวเกิดขึ้นด้วยอัตราค่าเงินในยุคนี้ มูลค่าจะพุ่งทะยานไปสูงถึง 118.2 ล้านปอนด์ อันเป็นตัวเลขที่สูงเอาเรื่องเลยทีเดียว

ข้ามมาที่อันดับที่ 7 ยังคงเป็นดีลของสโมสร ปีศาจแดง ยอดทีมนักช็อปปิ้ง ที่ใช้เงินเป็นว่าเล่น ในการดึงตัวนักเตะฝีเท้าดีมาเสริมทัพในแต่ละฤดดูกาล แต่การซื้อครั้งนี้นับว่าคุ้มค่า เพราะการได้ตัว เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงวันเดอร์คิดฟอร์มแรงมาจาก เอฟเวอร์ตัน ในปี 2004 กลายเป็นตำนานบทใหม่ของสโมสร ที่ทำให้ รูน กลายเป็นขวัญใจระดับตำนานในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยการครองสถิติเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีม อยู่กับสโมสรนานเป็นสิบปี ใช้งานจนหมดสภาพคุ้มค่าทุกสตางค์ที่จ่ายไป ซึ่งถ้าเทียบเป็นค่าเงินยุคปัจจุบัน การย้ายครั้งนั้นของเขาจะมีมูลค่าสูงถึง 118.6 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

ปิดท้ายกันที่อันดับที่ 6 เป็นการซื้อของสโมสรที่เคยยิ่งใหญ่ในช่วงยุค 2000 เป็นช่วงเวลาสั้นอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่กำลังต้องการเสริมแกร่ง เพื่อพาตัวเองไปมีลุ้นในการเป็นแชมป์รายการต่างๆ โดยอาศัยจุดขายเป็นทีมพลังหนุ่มในยุคนั้น แล้วดึงตัวเอา ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์แบ็คเชิงดีมาจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด หวังนำมาเป็นคู่ขาของ ลูคัส ราเดเบ้ ปราการหลังทีมชาติแอฟริกาใต้ในปี 2000 ซึ่งผลงานของ ริโอ ก็ทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยถ้าเทียบกับเม็ดเงินในยุคปัจจุบันแล้ว ยูงทอง ทุบคลังเป็นมูลค่าสูงถึง 124.9 ล้านปอนด์เลยทีเดียว