ตลาดนักเตะในซัมเมอร์ที่ผ่านมาเรียกได้ว่า คึกคักพอสมควรเลยทีเดียว โดยบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปต่างเดินหน้าเสริมทัพกันอย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อปรับปรุงความแข็งแกร่งของขุมกำลัง และเดินหน้าไล่ลล่าถ้วยแชมป์มาประดับตู้โชว์ของทีม

รายงานข่าววระบุว่า สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใช้เงินลงทุนไปกับการคว้านักเตะใหม่รวมกันมากวกว่า 2 พันล้านปอนด์ ซึ่งมีบิ๊กดีลอาทิ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัว แอนโธนี่ จาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในราคา 85 ล้านปอนด์ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็ได้ตัว ดาร์วิน นูเนซ มาจาก เบนฟิก้า ในราคาใกล้ๆกัน

ส่วนลีกดังในประเทศอื่นๆอย่าง บุนเดสลีกา เยอรมัน ใช้เงินรวมไปกว่า 450 ล้านปอนด์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ใช้เงินรวมไปกว่า 750 ล้านปอนด์ ลา ลีกา สเปน ใช้เงินรวมไปกว่า 500 ล้านปอนด์ และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ใช้เงินรวมไปกว่า 550 ล้านปอนด์เลยทีเดียว ขณะเดียวกัน ตลาดรอบล่าสุดนั้น ยังมีการย้ายทีมที่น่าสนใจอย่างมาก และสร้างความประหลาดใจให้กับคอบอลได้ไม่มากก็น้อย ยกตัวอย่างเช่น 5 ผู้เล่นเหล่านี้

1. มาร์ค กูกูเรย่า (ไบรท์ตัน ย้ายไป เชลซี ค่าตัว 55 ล้านปอนด์)

เชลซี ต้องเผชิญกับงานที่ยากลำบากในตลาดนักเตะรอบนี้ เนื่องจากการลงโทษจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่บังคับใช้กับ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของชาวรัสเซียคนก่อน ซึ่งทำให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” ไม่มีโอกาสได้ซื้อนักเตะใหม่จนถึงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา  

ทอดด์ โบห์ลีย์ เจ้าของสโมสรคนใหม่ เชลซี พยายามอย่างยิ่งในการเอาใจแฟนบอลด้วยการลงทุนคว้านักเตะใหม่หลายรายเข้ามาเล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขายอมควักเงินจำนวนถึง 55 ล้านปอนด์ บวกส่วนเสริมอีก 7 ล้านปอนด์ เพื่อเซ็นสัญญากับ กูกูเรย่า

แบ็คซ้ายชาวสเปนเป็นผู้เล่นที่ดี และมีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็อยากได้ตัวเขาเช่นกัน แต่การที่ ไบรท์ตัน เรียกค่าตัวมหาศาล นั้น ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ถอยหลังแทบไม่ทันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม กลายเป็น เชลซี ที่ยอมทุบคลังเพื่อคว้าตัว ดาวเตะวัย 24 ปี ไปร่วมสังกัด พร้อมกับปล่อย ลีไว โคลวิลล์ กองหลังดาวรุ่งให้ ไบรท์ตัน ยืมตัวไปใช้งานเป็นเวลา 1 ปี อีกด้วย

2. ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง (บาร์เซโลน่า ย้ายไป เชลซี ค่าตัว 10 ล้านปอนด์)

มันเป็นการทำธุรกิจที่ค่อนข้างแปลกอีกครั้งของ เชลซี ในยุคเจ้าของทีมคนใหม่อย่าง โบห์ลีย์ ซึ่งพวกเขาปล่อยหัวหอกอย่าง โรเมลู ลูกากู กลับไปยัง อินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี และขาย ติโม แวร์เนอร์ ให้กับทีมเก่าอย่าง แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัวราว 30 ล้านปอนด์

โธมัส ทูเคิ่ล อดีตโค้ช เชลซี เคยทำงานร่วมกับ โอบาเมยอง ที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในช่วงปี 2015-2017  จึงทำให้เขาอยากได้ตัวลูกน้องเก่ามาร่วมงานด้วย ถึงแม้จะรู้ว่า ดาวยิงวัย 33 ปี มีปัญหาเรื่องวินัย และพฤติกรรมนอกสนามก็ตาม

โอบาเมยอง เคยมีปัญหากับ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล มาแล้ว ซึ่งทำให้โดนยกเลิกสัญญากับเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะย้ายไปยัง บาร์เซโลน่า เป็นช่วงสั้นๆแบบฟรีๆ และโยกมาเล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อร่วมงานกับเจ้านายเก่าอย่าง ทูเคิ่ล อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม โอบาเมยอง ย้ายมา เชลซี ไม่ถึงสัปดาห์ ทูเคิ่ล ก็โดนตะเพิดไปแล้ว และตอนนี้ต้องรอดูว่า แกรแฮม พ็อตเตอร์ เทรนเนอร์คนใหม่ “สิงโตน้ำเงินคราม” จะใช้งานอดีตศูนย์หน้า อาร์เซน่อล และ บาร์เซโลน่า หรือไม่

3. คาร์ลอส โซแลร์ (บาเลนเซีย ย้ายไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ค่าตัว 16 ล้านปอนด์)

การที่ โซแลร์ ย้ายออกจาก บาเลนเซีย ในซัมเมอร์ที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หลังจาก “ไอ้ค้างคาว” มีปัญหาเรื่องสภาพการเงิน และมีความจำเป็นต้องปล่อยนักเตะคนสำคัญของพวกเขาออกไป 1-2 ราย เพื่อรักษาสมดุลด้านการเงิน

บาเลนเซีย ยอมขายคีย์แมนอย่าง กอนซาโล่ กูเอเดส ปีกชาวโปรตุเกส ให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ แต่พวกเขากลับขาย โซแลร์ ให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยค่าตัวต่ำกว่าเกือบครึ่งแม้นักเตะจะเหลือสัญญาเพียงปีเดียวก็ตาม

โซแลร์ เป็นลูกหม้อของ บาเลนเซีย เป็นกัปตันทีม และเป็นหัวใจในแดนกลางของทีมตลอดหลายซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งการที่เขาถูกปล่อยออกจากถิ่น เมสตาย่า สเตเดี้ยม ด้วยค่าตัวถูกแบบนี้ทำให้แฟนบอล “ไอ้ค้างคาว” โกรธบอร์ดบริหารอย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม บอร์ดบริหาร บาเลนเซีย คว้าตัว เอดิสัน คาวานี่ หัวหอกมากประสบการณ์ชาวอุรุกวัย เข้ามาเสริมทัพแบบฟรีๆเพื่อลดกระแสความกดดันจากแฟนบอลบ้าง แต่ดูเหมือนว่า มันจะไม่ได้ผลนัก เนื่องจากในวัย 35 ปี อดีตศูนย์หน้า นาโปลี, เปแอสเช และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บติดตัว และเลยจุดพีคมานานแล้ว

4. ราอูล เดอ โทมัส (เอสปันญ่อล ย้ายไป ราโย บาเยกาโน่ ค่าตัว 7 ล้านปอนด์)

เดอ โทมัส ระเบิดตาข่ายในศึกลา ลีกา ให้กับ เอสปันญ่อล ไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วด้วยจำนวน 17 ประตู ซึ่งมีเพียง ยาโก้ อัสปาส กองหน้าจอมเก๋าของ เซลต้า บีโก้ และ คาริม เบนเซม่า หัวหอกชาวฝรั่งเศสของ เรอัล มาดริด ที่ยิงได้มากกว่าที่จำนวน 18 และ 27 ประตู ตามลำดับ

ฟอร์มที่สุดยอดของ เดอ โทมัส ทำให้เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติสเปนไปแล้ว 4 เกม และในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบล่าสุดนั้น เจ้าตัวตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับสโมสรดังมากมายอาทิ แมนฯ ยูไนเต็ด, บาเยิร์น มิวนิค รวมถึง เซบีญ่า

อย่าไรก็ตาม ศูนย์หน้าวัย 27 ปี ตัดสินใจหวนกลับไปเล่นกับอดีตทีมเก่าอย่าง บาเยกาโน่ แบบไม่มีใครคาดคิด ทั้งที่หลายๆคนมองว่า เขาน่าจะได้ไปเล่นกับสโมสรใหญ่ ซึ่งถือได้ว่า เป็นดีลที่เซอร์ไพรส์ไม่น้อยเช่นเดียวกัน

5. โจ ไบรอัน (ฟูแล่ม ย้ายไป นีซ ยืมตัว)

แฟนบอล นีซ หลายคนตั้งคำถามว่า โจ ไบรอัน คือใคร และเขาจะย้ายมาในฐานะอะไรกับทีมที่ตั้งเป้าลุ้นแชมป์ลีก เอิง และได้เล่นในศึก ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ฤดูกาลนี้ ซึ่งดูเหมือนว่า มันจะเป็นการทำธุรกิจที่ผิดพลาด

 แบ็คซ้ายชาวอังกฤษวัย 28 ปี เคยเล่นให้กับทีมในลีกรองเมืองผู้ดีอย่าง บริสตอล ซิตี้, พลีมัธ และ บาธ ซึ่งมองดูแล้วมันไม่สมเหตุสมผลเลยสำหรับสโมสรอย่าง นีซ ที่จะคว้าตัว ไบรอัน เข้าไปเสริมทัพเพื่อพัมนาขุมกำลัง

ขณะเดียวกัน มันเป็นเรื่องแปลกมากที่สโมสรในลีกสุงสุดฝรั่งเศสจะเซ็นสัญญากับผู้เล่นชาวอังกฤษที่ไม่โด่งดังนัก และต้องดูว่า การเดิมพันครั้งนี้ของ นีซ จะได้ผลหรือไม่