Home บทความฟุตบอล สถานีต่อไปของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม

สถานีต่อไปของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม

0
สถานีต่อไปของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม
liverpool

จู๊ด เบลลิ่งแฮม มิดฟิลด์วันเดอร์คิดชาวอังกฤษ ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรดังแห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน เป็นหนึ่งในชื่อที่ติดปากของแฟนบอลทุกคนหากถูกถามว่า ใครเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ดีที่สุดในวงการฟุตบอลยุคปัจจุบัน

ในวัยเพียง 19 ปี เบลลิ่งแฮม กลายเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของ ดอร์ทมุนด์ ไปเรียบร้อยแล้ว หลังย้ายจาก เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ไปเล่นกับพลพรรค “เสือเหลือง” เมื่อซัมเมอร์ปี 2020 ด้วยค่าตัวประมาณ 30 ล้านปอนด์

หลายทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ต่างจับตามองสถานการณ์ของ เบลลิ่งแฮม อย่างใกล้ชิด ซึ่งมีรายงานข่าวระบุว่า ค่าตัวที่ ดอร์ทมุนด์ ตั้งเอาไว้นั้น คงไม่น่าต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว และนี่คือ สโมสรที่มีโอกาสมากที่สุดจะได้ตัว มิดฟิลด์อนาคตไกลเลือดผู้ดีรายนี้ไปเสริมทัพในอนาคต

1. ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน วางโครงการเสริมทัพด้วยผู้เล่นตำแหน่งกองกลางระดับคุณภาพเข้ามาร่วมทีมในซัมเมอร์หน้า และต้องเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สามารถใช้งานได้อีกหลายปี ซึ่ง เบลลิ่งแฮม ก็เป็นเป้าหมายลำดับต้นๆของ “หงส์แดง” มาสักระยะแล้ว

เมื่อมองไปที่แผงมิดฟิลด์ชุดปัจจุบันของ ลิเวอร์พูล นั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นจุดที่ควรปรับปรุงมากที่สุด โดย นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนเรื้อรัง และเหลือสัญญาเพียงปีเดียวทั้งคู่

ขณะที่ เคอร์ติส โจนส์, ฟาบิโอ คาวัลโญ่ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียต์ ก็เป็นเพียงนักเตะดาวรุ่งที่ยังไม่สามารถยืนเป็นตัวหลักได้ในทันที ส่วน เจมส์ มิลเนอร์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รวมถึง ติอาโก้ อัลกันตาร่า ก็เริ่มอายุมากขึ้น และสภาพร่างกายคงกรำศึกหนักไม่ได้ตลอดทั้งซีซั่น

ลิเวอร์พูล กำลังมีปัญหาอย่างหนักกับแผงมิดฟิลด์ และ เบลลิ่งแฮม ก็จะเป็นคำตอบของพวกเขา โดยอดีตเด็กปั้น เบอร์มิงแฮม มีฝีเท้า และประสบการณ์เกินอายุตัวเองไปแล้ว นอกจากนี้ ยังสามารถเล่นได้หลายบทบาทอีกด้วย

2. แมนเชสเตอร์ ซิตี้

กองกลางของ แมนฯ ซิตี้ อาจดูเหมือนไม่มีอะไรน่ากังวล แต่มันก็ยังมีเหตุผลหลายๆอย่างที่มีรายงานว่า พวกเขากำลังให้สนใจใน เบลลิ่งแฮม เช่นกัน แม้จะมีนักเตะระดับโลกในตำแหน่งดังกล่าวมากมายหลายคนแล้วก็ตาม

เบลลิ่งแฮม เป็นนักเตะชางอังกฤษที่จะเข้ามาเพิ่มโควตาโฮมกราวด์ให้กับ แมนฯ ซิตี้ ได้ และยังสามารถทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ชาววสเปนของ “เรือใบสีฟ้า” มีทางเลือกที่หลากหลาย และมีโอกาสสับเปลี่ยนผู้เล่นเพื่อรักษาสภาพความฟิตมากขึ้น

ขณะเดียวกัน การที่อนาคตของ แบร์นาร์โด ซิลวา เพลย์เมคเกอร์ชาวโปรตุเกส ยังคงไม่นานอน หลังได้รับความสนใจจากทั้ง บาร์เซโลน่า และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง นั้น อาจกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ต้องมองหามิดฟิลด์คนใหม่เข้ามาทดแทน

สำหรับ เบลลิ่งแฮม ก็มีความสนิทสนมกับ ฟิล โฟเด้น ตัวรุกดาวรุ่ง แมนฯ ซิตี้ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษอยู่แล้ว รวมถึงเคยเล่นกับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หัวหอกชาวนอร์เวย์ ที่ ดอร์ทมุนด์ มาแล้วด้วย และการย้ายไปยัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ก็ทำให้เขาแทบไม่ต้องรับตัวเลย

3. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ในทีมที่ขาดพลังงาน และมิดฟิลด์สไตล์ บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ที่จะวิ่งทะลุทะลวงแนวรับฝ่ายตรงข้ามนั้น เบลลิ่งแฮม สามารถเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวฮอลแลนด์ ได้อย่างแน่นอน

ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้เวลาเนิ่นนานในการคว้าตัว แฟรงค์กี้ เดอ ยอง ห้องเครื่องชาวดัตช์ ของ บาร์เซโลน่า ไปเสริมทัพ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และบางทีพวกเขาก็ต้องการกองกลางระดับคุรภาพอีกรายเข้ามาร่วมทีม

นอกจากจะเป็นตัวขับเคลื่อนเกมแล้ว เบลลิ่งแฮม ยังสามารถยืนปักหลักคอยสร้างสรรค์เกมจากแนวลึกได้ด้วย ซึ่งหน้าที่คนเชื่อมเกมเป็นสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มองหามาอย่างยาวนานแม้จะมี คริสเตียน อิริคเซ่น ดาวเตะชาวเดนมาร์ก อยู่แล้วก็ตาม เฟร็ด, สก็อต แมคโทมิเนย์ และ ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค เป็น 3 กองกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มการเล่นไม่สม่ำเสมอเลย ดังนั้น การเซ็นสัญญากับ เบลลิ่งแฮม ก็จะเป็นดีลที่สำคัญที่สุดของ “ปีศาจแดง” แน่นอน

4. เรอัล มาดริด

แม้ว่าจะมีตัวเลือกมากมายในตำแหน่งกองกลางกลาง แต่ มาดริด ยังให้ความสนใจ เบลลิ่งแฮม อย่างใกล้ชิด และ “ราชันชุดขาว” ก็พร้อมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลตามที่ ดอร์ทมุนด์ ต้องการเพื่อคว้าตัวแข้งดาวรุ่งชาวอังกฤษไปเสริมทัพ

ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, เอดูอาร์โด้ กามาแวงก้า และ ออโรเรียง ชูอาเมนี่ ต่างต้องแย่งชิงตำแหน่งกัน ซึ่งมันเกิดคำถามว่า มาดริด จะจัดการอย่างไรกับแผงมิดฟิลด์ชุดนี้ แต่การที่พวกเขาปล่อย คาเซมิโร่ ไปให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ก็ทำให้มีโควตาเพิ่มขึ้นอีก

ขณะเดียวกัน ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ เบลลิ่งแฮม จะได้โอกาสลงสนามกับ มาดริด เมื่อมองไปที่ โมดริช ก็อายุมากถึง 37 ปีแล้ว ส่วน โครส ก็อายุ 32 ปี และทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงท้ายอาชีพกับพลพรรค “ราชันชุดขาว” แล้ว

5. เชลซี

เชลซี มีเงินพอที่จะต่อสู้เพื่อแย่งลายเซ็นของ เบลลิ่งแฮม แต่ความสนใจของพวกเขาอาจขึ้นอยู่กับว่า เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส และ จอร์จินโญ่ ห้องเครื่องทีมชาติอิตาลี จะยังค้าแข้งอยู่ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในปีหน้าต่อไปหรือไม่

เกรแฮม พอตเตอร์ เทรนเนอร์คนใหม่ชาวอังกฤษของ เชลซี กำลังวางแผนสร้างทีมสายเลือดใหม่เพื่อปูทางไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว และบางที ก็องเต้ วัย 31 ปี และ จอร์จินโญ่ วัย 30 ปี อาจต้องถูกปล่อยตัวออกไปเพื่อหลีกทางให้กับกองกลางที่อายุน้อยกว่า

เบลลิ่งแฮม จะทำให้ เชลซี มีแผงมิดฟิลด์ที่สดใหม่กว่าเดิม และการที่เขาเป็นคนอังกฤษเหมือนกับ พอตเตอร์ ก็ยิ่งเป็นเรื่องง่ายในการที่ทั้งคคู่จะทำงานร่วมกันในทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม”

6. โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

แน่นอนว่า ดอร์ทมุนด์ ยังถือไพ่เหนือกว่าสโมสรอื่นๆ เนื่องจาก เบลลิ่งแฮม ยังมีสัญญาผูกพันกับพวกเขายาวจนถึงปี 2025 และ “เสือเหลือง” ก็ไม่ได้ใส่ค่าฉีกสัญญาของ ดาวเตะวัย 19 ปี ซึ่งซัดไปแล้ว 13 ประตูกับ 18 แอสซิสต์ จาก 100 เกมที่ลงสนามเอาไว้

ดอร์ทมุนด์ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขาย เบลลิ่งแฮม ออกไปหากไม่ได้ค่าตัวตามที่พวกเขาต้องการ และตัว อดีตเด็กปั้น เบอร์มิงแฮม เอง ก็ไม่เคยออกมาเรียกร้องขอย้ายสังกัดเลย ซึ่งเจ้าตัวก็เคารพสัญญาที่มีกับ “เสือเหลือง” อยู่มากทีเดียว

เบลลิ่งแฮม เพิ่งอายุเพียง 19 ปี ดังนั้น เขายังมีเวลาเหลือเฟือที่จะพิจารณาว่าอนาคตระยะยาวของตัวเองว่าจะเดินไปทางไหนต่อไป

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้