Home บทความฟุตบอล 9 สตาร์ที่แยกทางกับ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ แล้วดับสนิท ตอนแรก

9 สตาร์ที่แยกทางกับ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ แล้วดับสนิท ตอนแรก

0
9 สตาร์ที่แยกทางกับ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ แล้วดับสนิท ตอนแรก

หากกล่าวถึง เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล ซึ่งพาทีมบินสูงอยู่ในขณะนี้ แฟนบอลย่อมรู้กันถึงฝีมืออันเยี่ยมยอด ในเรื่องของการใช้งานแผนการเล่น เกเก้น เพรสซิ่ง ที่จัดการคู่แข่งได้แบบอยู่หมัดมาแล้วหลายทีม ไม่จำเป็นต้องใช้สตาร์ดังเป็นแกนหลัก เพียงแต่ต้องมีผู้เล่นที่เข้าใจบทบาทและหน้าที่อย่างถ่องแท้ มีความฟิต ความทุ่มเท พร้อมวิ่งแบบลืมตาย จนคู่อริบางทีมล้อกันว่า “บอลวิ่งควาย” แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาปลายทาง คล็อปป์ ทำให้เห็นกันทั่วทั้งวงการลูกหนังแล้วว่า แนวทางการทำทีมของเขาสามารถพาทีมไปถึงจุดสุดยอดด้วยการเป็นแชมป์สโมสรโลกได้มาแล้ว

คล็อปป์ เป็นโค้ชที่ต้องผ่านการพิสูจน์ฝีมือจากทีมเล็กๆ ไต่เต้ามาเรื่อยๆ จนได้รับโอกาสให้คุมทีมใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไล่เรียงมาตั้งแต่ ไมนซ์ 05, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และปิดท้ายที่ หงส์แดง แน่นอนว่าช่วงก่อนหน้านี้ สโมสรแต่ละทีมย่อมมีงบประมาณให้เข้าเลือกใช้อย่างจำกัดจำเขี่ย จำเป็นต้องไปค้นหาชองดีราคาถูก มาปลุกปั้นจากดินให้เป็นดาว แต่ใช่ว่าเหล่าผู้เล่นกลุ่มนั้นจะพอใจกับการอยู่ภายใต้อาณัติของ คล็อปป์ เสมอไป

ความทะเยอทะยาน เงินตรา และเหตุผลส่วนตัว ทำให้หลายต่อหลายคนเลือกที่จะเดินออกจาอ้อมอกของเขาสำหรับคนที่ออกไปแล้วก้าวไปได้ไกล ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามบางส่วนก็ดับสนิทไปจากวงการอย่างน่าเสียดายฝีเท้า ทั้งที่กำลังอยู่ในจุดที่พัฒนาไปได้อีกไกล

เว็บไซต์ 168Kick พร้อมนำเสนอคอนเทนต์ในหัวข้อ 9 นักเตะที่แยกทางกับ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ แล้วดับสนิท เพื่อเป็นการย้อนรอยถึงเรื่องราวของอดีตสตาร์ชื่อดัง ที่ชะตากรรมพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไปอยู่กับหัวเรือพาเขาไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ซึ่งจะขอแบ่งเป็นสองตอน เพื่อการให้ข้อมูลที่ครบถ้วน โดยตอนแรกเรียกน้ำย่อยตัวนี้ จะขอกล่าวถึง ดาวเตะจำนวน 4 รายกันก่อน แต่จะมีผู้เล่นที่แฟนๆ คิดเอาไว้อยู่ในใจติดโผเข้ามาบ้างหรือไม่? เส้นทางของพวกเขาเหล่านั้นไปดับกับทีมใด? เหตุผลเบื้องลึกเบื้องหลังมีอะไรซ่อนอยู่ในดีลดังกล่าวจริงหรือไม่? ทุกคำตอบรวบรวมเอาไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว…เชิญไปรับชมพร้อมๆ กันได้เลย

เปิดหัวกันที่รายแรก เป็นอดีต วันเดอร์ คิดส์ ของวงการลูกหนังเยอรมันในยุค 2010 ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยศักยภาพอันยอดเยี่ยมในการเล่นเกมรุก สามารถยืนเป็นเพลย์เมคเกอร์ก็ได้ หรือ จะถ่างออกไปยืนริมเส้นก็ดดีไม่ต่างกัน นั่นก็คือ มาริโอ เกิตเซ่ ที่เลือกย้ายออกจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2013 แลกกับเงินก้อนโตให้กับต้นสังกัดราว 35 ล้านปอนด์

นับว่าเป็นตัวเลขที่สมน้ำสมเนื้อที่ทาง เสือใต้ จ่ายให้กับ เสือเหลือง อย่างไรก็ตามผลงานของ เกิตเซ่ ในถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคาดคิด เจออาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง พอกลับมาฟิตสมบูรณ์ก็ต้องรอต่อคิวเป็นตัวจริง ต่อจากผู้เล่นฟอร์มดีรายอื่นๆ หลายราย

เพราะทาง บาเยิร์น นั้นเป็นสโมสรที่ชอบดึงตัวผู้เล่นชั้นยอดไปกองรวมเอาไว้ แล้วค่อยมาเลือกใช้งานตามแทคติกส์โค้ช อันเป็นผลมาจากสถานะการเงินที่แข็งแกร่งเกินกว่าทีมอื่นๆ หลายเท่า แม้ว่าสุดท้ายแล้วสามปีต่อมา เกิตเซ่ จะย้ายกลับมาเล่นให้กับ ดอร์ทมุนด์ อีกครั้ง แต่สภาพร่างกายของเขากับความมั่นใจ ก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว

ต่อกันที่อดีตเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติบราซิลขวัญใจ เดอะ ค็อป อย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ซึ่งแม้ว่าคนที่ดึงตัวเขามายัง แอนฟิลด์ จะเป็น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ แต่คนที่ทำให้การเล่นของ คูตินโญ่ พัฒนาฝีเท้าให้เหนือขึ้นไปกว่าเดิม คือ คล็อปป์ ที่มอบบทบาท ไวด์ เพลย์เมคเกอร์ ให้กับเขา เป็นศูนย์กลางเกมรุกของทีมในช่วงแรก ด้วยฟอร์มพีคถึงขีดสุด

อย่างไรก็ตามเมื่อทาง บาร์เซโลน่า เดินเข้ามาสู่เกม เพื่อหาตัวแทนของ เนย์มาร์ แล้วชี้เป้ามาที่ คูตี้ กุนซือชาวเยอรมัน พยายามรั้งตัวเขาอย่างดีที่สุดแล้ว ด้วยการพูดดให้ไปคิดเองว่า

อยู่ที่นี่ต่อไป และพวกที่ชืนชมในตัวคุณจะสร้างรูปปั้นเป็นเกียรติให้ที่หน้าสนามเมื่อเลิกเล่น หรือเลือกจะย้ายไปสโมสรอื่นอย่าง บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค หรือ เรอัล มาดริด แล้วคุณจะกลายเป็นแค่ผู้เล่นคนหนึ่งเท่านั้น คุณมีความหายกับสโมสรแห่งนี้มากกว่านั้นเยอะ

แต่สุดท้ายแล้ววาจาสิทธิ์ของ คล็อปป์ เปลี่ยนใจ คูตี้ ไม่สำเร็จ แต่ทุกวันนี้คงทำให้เจ้าตัวต้องย้อนคิดและเสียใจกับการก้าวที่ผิดพลาดบ้าง ไม่มากก็น้อย

ถัดมาที่ในรายของกองกลางพรสวรรค์สูงดีกรีทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของ ลิเวอร์พูล ในพื้นที่ตรงกลางสนาม ซึ่งเป็นผู้เล่นที่ คล็อปป์ ชื่นชอบฝีเท้าเป็นการส่วนตั นั่นก็คือ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ที่เลือกย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หลังหมดสัญญากับต้นสังกัด

อันที่จริงแล้วเบื้องหลังของดีลนี้ ไม่ใช่ตัวนักเตะเองที่ผลักดันการย้ายทีม แต่เป็นทางบอร์ดบริหารของ หงส์แดง อย่าง เอฟเอสจี ที่ไม่กล้าจ่ายค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับใหม่ ตามที่ตัวนักเตะเรียกร้อง เพราะมองว่าเป็นตัวเลขค่าจ้างที่สูงเกินไป ทำให้ทางเลือกของ จินี่ ไม่ได้มีมากนัก นอกจากย้ายไปอยู่กับสโมสรที่พร้อมจ่ายแบบสมน้ำสมเนื้อ เพื่อแลกกับการใช้บริการเขาในสนาม

อย่างไรก็ตามชีวิตที่ เปแอสเช ไม่ได้โรยดด้วยกลีบกุหลาบแบบที่เขาหวังไว้ เมื่อเขาไม่ใช่นักเตะในประเภทที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ ชอบใช้งานตามแทคติกส์ เลยกลายเป็นว่า ทำได้แค่รอโอกาสอยู่ที่ม้านั่งข้างสนามเป็นส่วนใหญ่

ปิดท้ายกันที่ยอดมิดฟิลด์ความหวังใหม่ของทีมชาติตุรกีในยุค 2010 ที่เป็นคีย์แมนแดนกลางให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สามารถเล่นเกมรับ-เกมรุกได้อย่างสมดุลย์ มีการควบคุมจังหวะเกมที่ยอดเยี่ยม การจ่ายบอลที่แม่นยำ เฉียบคม ช่วยให้รูปเกมไหลลื่น นั่นก็คือ นูริ ซาฮิน กองกลางเชิงสูง ที่เลือกย้ายออกไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ในปี 2011 แล้วกลับได้ลงสนามรวมแค่ 10 เกมเท่านั้น

เนื่องจากเทรนเนอร์ในยุคนั้นของ ราชันชุดขาว มองไม่เห็นจุดเด่นที่จะใช้งาน ซาฮิน ในบทบาทที่ คล็อปป์ เคยมอบหมายให้ที่ เสือเหลือง แล้วการต้องเบียดแย่งตำแหน่งกับซูเปอร์สตาร์อีกหลายราย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะได้เป็นตัวจริงในถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว กลายเป็นว่าฟอร์มการเล่นที่เคยมั่นใจกลับหดหายไปหมด ไม่ต่างกับกองกลางดาดๆ ที่เอาใครลงสนามก็ไม่ต่างกัน

สุดท้ายแล้ว ซาฮิน ก็ต้องมาตายรังที่ ดอร์ทมุนด์ อีกรอบ หลังย้ายไป ลิเวอร์พูล ด้วยสัญญายืมตัวแล้วฟอร์มไม่ผ่านเกณฑ์ แต่ผลงานของเขาไม่สามารถเทียบกับช่วงที่แจ้งเกิดขึ้นมาได้เลย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้