Home บทความฟุตบอล 9 สตาร์ที่แยกทางกับ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ แล้วดับสนิท ตอนจบ

9 สตาร์ที่แยกทางกับ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ แล้วดับสนิท ตอนจบ

0
9 สตาร์ที่แยกทางกับ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ แล้วดับสนิท ตอนจบ

หลังจากที่ ซาดิโอ มาเน่ กองหน้ากึ่งปีกทีมชาติเซเนกัลของ ลิเวอร์พูล ที่เป็นตัวหมากสำคัญในแนวรุกของทีมมานานหลายปี ล่าความสำเร็จให้กับต้นสังกัดมาแล้วมากมาย เลือกที่จะประกาศอำลาทีมแบบกลางอากาศ ซึ่งความเป็นจริงแล้วมีสัญญาณเรื่องนี้มากลายๆ เนื่องจากการเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่ ไม่มีความคืบหน้าใดๆ มาหลายเดือน ทั้งบอร์ดบริหารและตัวนักเตะ ต่างดึงเชงกันทั้งสองฝ่าย

สุดท้ายแล้วเป็นทาง มาเน่ ที่กล้าเอ่ยปากอำลาออกมาก่อน แต่ยังไม่ได้บอกจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน ทำให้ย้อนนึกไปถึงสตาร์หลายรายก่อนหน้านี้ ที่พอออกจากอ้อมอกของ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ เมื่อได้รับการปั้นจนชื่อเสียงและฝีเท้าขึ้นไปอยู่ในระดับซูเปอร์สตาร์เรียบร้อยแล้ว แต่กลับลงเอยได้ไม่วยเท่าไหร่นัก

ข้อดีของ คล็อปป์ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่โค้ชที่มีการวางแทคติกส์เก่งเพียงอย่างเดียว แต่การดึงศักยภาพของลูกทีมออกมาได้เกินร้อย นั้นไม่ใช่ใครจะทำกันได้ง่ายๆ เขาต้องทำให้ลูกทีมมีความเชื่อมั่นว่า แนวทางการเล่นที่มอบหมายหน้าที่ให้ จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวนักเตะและทีมไปพร้อมๆ กัน ต่างฝ่ายต่างวินวินทั้งคู่

ยิ่งไปกว่านั้นดดาวเตะหลายคนที่มองดูว่ามีฝีเท้าใช้ได้ แต่ยังไม่ถึงขนาดจุติเป็นซูเปอร์สตาร์ หากตรงสเปคแล้วได้มาอยู่ในมือของโค้ชชาวเยอรมันรายนี้ มีโอกาสปลดล็อคได้ในเวลาไม่นาน หรือแม้แต่นักเตะฝีเท้าดาดๆ หากนำมาเสริมจุดด้อย เติมจุดเด่นที่มีเพียงแค่เขาที่มองออก ถึงศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ ก็ทำให้หลายต่อหลายคน ได้รับคำชื่นชมเรื่องฟอร์มการเล่น ที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือมาแล้วนักต่อนัก ยกตัวอย่างเช่น โจเอล มาติป ในซีซั่นก่อน

เว็บไซต์ 168Kick พร้อมนำเสนอคอนเทนต์ในหัวข้อ 9 นักเตะที่แยกทางกับ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ แล้วดับสนิท เป็นตอนปิดท้าย ซึ่งเหลือพ่อค้าแข้งทองอีก 5 รายด้วยกัน ที่เตรียมดาหน้ามีชื่อเข้ามาติดโผในบทความนี้ มาลุ้นกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า เบื้องลึกเบื้องหลังของดีลดังกล่าวจะมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง? ผู้เล่นที่แยกทางกันไปนั้นจุดมุ่งหมายปลายทางของพวกเขา คือ สโมสรใด? สาเหตุอะไรที่ทำให้เส้นทางการค้าแข้งของพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จดังคาด ทุกคำตอบรวบรวมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว…เชิญไปรับชมพร้อมๆ กันได้เลย

เปิดหัวกันที่เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่ยังคงเป็นตัวหลักและโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับชาติบ้านเกิด แต่น่าเสียดายที่เขามั่นใจในศักยภาพตัวเองเกินไป แล้วทัศนคติความคิดเห็นในช่วงหลัง ไม่ตรงกันกับ คล็อปป์ เพราะต้องการลงสนามมากกว่าที่เป็นอยู่ นั่นก็คือ เซอร์ดาน ชากิรี่ หรือ เจ้าแช็ค ฉายาที่แฟนบอล เดอะ ค็อปส์ เรียกกัน

ชากิรี่ เป็นตัวหมากที่สำคัญในการแก้เกมของ หงส์แดง ที่ไว้ใจได้เสมอยามถูกส่งลงสนาม ในเกมที่แนวรุกออกอาการตื้อๆ ตันๆ เนื่องจากเขามีศักยภาพในการทะลวงแนวรับคู่แข่งหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวิชั่นการจ่ายบอล การเลี้ยงตะลุยฝ่าแนวรับ หรือแม้แต่ทีเด็ดจากการยิงที่หนักแน่นแม่นยำ

อย่างไรก็ตามในปี 2021 เขาเลือกที่จะย้ายไปอยู่กับ โอลิมปิก ลียง ด้วยความหวังว่าจะได้เล่นอย่างต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่าอยู่กับต้นสังกัดใหม่ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ก็ต้องย้ายไปเล่นกับ ชิคาโก้ ไฟร์ ในศึก เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสไตล์ไม่เข้ากับทีม

ต่อกันที่อดีตสตาร์ดังทีมชาติญี่ปุ่น ที่เป็นเพลย์เมคเกอร์เชิงสูง ซึ่งทาง คล็อปป์ ไปเสาะหามาจากลีกรองแดดนปลาดิบ นำมาปลุกปั้นจนระเบิดฟอร์มไดด้ไม่แพ้ดาวดังในยุโรปราคาแพง ด้วยการเค้นศักยภาพสูงสุดของ ชินจิ คากาวะ ออกมาแบบที่ไม่มีใครทำได้เหมือนกับเขา แม้ว่าแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจมีข้อถกเถียงว่า คากาวะ มีช่วงที่เล่นได้ดี

ได้ลงสนามแบบต่อเนื่อง จนเป็นหนึ่งในขุนพลชุดแชมป์ พรีเมียร์ลีก 1 สมัย ก่อนที่ท่าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะอำลาทีมไป แล้วปล่อยให้ ชินจัง เกิดอาการค้างเติ่ง ไม่รู้จะเอาไงต่อกับชีวิต

แต่ถ้ามองผลงานในปีต่อมา คากาวะ แทบไม่เคยมีเกมที่น่าจดจำเลยสักเกมเดียว สุดท้ายต้องระหกระเหินกลับไปเล่นให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่เขาเคยสร้างชื่อจนลีกสะเทือน แต่ไม่เคยมีเกมไหนที่โชว์ฟอร์มได้ใกล้เคียงกับช่วงพีคอีกเลย สภาพร่างกายย่ำแย่ลงกว่าเดิม ความมั่นใจลดน้อยถอยลง แล้วชื่อของเขาก็เฟดออกจากวงการไปแบบเงียบๆ

ถัดมาเป็นดาวเตะสาระพัดประโยชน์ทีมชาติเยอรมัน ที่ไม่ว่าใครได้ร่วมงาน ก็ตกต้องให้กับมนต์เสน่ห์ของเขาแบบแปลกๆ ทั้งที่ผลงานแค่อยู่ในระดับไปวัดไปวาได้เท่านั้น นั่่นก็คือ เอมเร่ ชาน กองกลางทักษะสูง ที่ตัดสินใจย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล เพื่อเลือกไปพิสูจน์ตัวเองกับสโมสรยักษ์ใหญ่ในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อย่าง ยูเวนตุส แบบไม่มีค่าตัว

อย่างไรก็ตามการตัดสินใจครั้งนั้นของ ชาน ดูจะเป็นข้อผิดพลาดที่เขาอยากจะแก้ไขครั้งหนึ่ง เนื่องจากชีวิตของเขาในอิตาลี แทบจะเรียกได้ว่า แห้งเหี่ยวไร้ความสดชื่น ได้แต่นั่งรอคอยโอกาสลงสนามที่ม้านั่งข้างสนามเป็นส่วนใหญ่ ต่อคิวจากสตาร์ดังอีกหลายราย สุดท้ายก็เป็นทาง ดอร์ทมุนด์ ที่เลือกดึงกลับมาชุบชีวิตให้ดีขึ้นอีกครั้ง

แต่ถ้าลองมองในมุมกลับกัน ชาน เลือกค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ ต่อไป โดยได้รับโอกาสจาก คล็อปป์ ให้ลงสนามแบบพอเหมาะพอเจาะเหมือนในช่วงที่เขาโชว์ฟอร์มได้ดี ป่านนี้คงมีแชมป์ใหญ่ๆ ประดับตัวไปแล้ว

เข้าสู่รายรองสุดท้ายกันที่ผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คชาวบราซิล ที่แฟนบอลหลายต่อหลายคนอาจลืมชื่อเขาไปแล้ว แต่นี่คือหนึ่งในตัวโกงของเกมส์ ฟีฟ่า 13 เลยทีเดียว เพราะเป็นกองหลังที่มีรูปร่างสูงใหญ่ เข้าบอลแม่นยำ สปีดความเร็ววัดกันกองหน้าฝีเท้าจัดได้สบายๆ นั่นก็คือ เฟลิเป้ ซานตาน่า ที่เคยเล่นให้กับ ดอร์ทมุนด์ ในยุคของ คล็อปป์ กว่า 100 นัด

อย่าไรก็ตาม ซานตาน่า มองว่า คล็อปป์ ไม่ค่อยมอบโอกาสให้เขาลงเล่นเป็นตัวจริงแบบต่อเนื่องเท่าที่ควร เลยทำแสบด้วยการงอแงขอย้ายไปอยู่กับอริในลีกเยอรมันอย่าง ชาลเก้ 04 แน่นอนว่าโค้ชที่เด็ดขาด คงไม่มีทางปล่อยให้นักเตะใหญ่กว่าตัวเขา เลยทำตามที่นักเตะเรียกร้องแบบไม่มีรั้ง ซึ่งหลังจากนั้น ซานตาน่า ก็ไม่มีผลงานอะไรที่น่าจดจำบนโลกลูกหนังอีกเลย

ปิดท้ายกันที่ผู้เล่นตำแหน่งแบ็คขวาอดีตดีกรีทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นขุนพลคนสำคัญของ ดอร์ทมุนด์ ในยุคที่ คล็อปป์ เข้ามาทำทีมในช่วงแรกๆ นั่นก็คือ ฟิลิปป์ เดเก้น ที่เลือกย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2008 หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่น เป็นฟูลแบ็คที่ได้รับคำชมเบอร์ต้นๆ ของศึก บุนเดสลีก้า เยอรมัน มีความเร็วที่อยู่ในเกณฑ์ดี มีการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่นใช้ได้ เติมเกมรุกได้เมามัน มีลูกโยนเข้าสู่พื้นที่อันตรายที่ได้ลุ้นเสมอ

แต่ภาพจำเหล่านั้นกลับไม่เคยเกิดขึ้นที่อังกฤษ เมื่อทาง เดเก้น เล่นได้ไม่ต่างกับบ่อน้ำมัน ความเร็วของเขาเมื่อเทียบกับผู้เล่นแดนผู้ดี แทบจะเรียกได้ว่าช้ากว่ากันเป็นเท่าตัว การยืนตำแหน่งที่เป็นปัญหาเดิมอยู่แล้ว ยิ่งแสดงความผิดพลาดมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนาม สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นส่วนเกินของทีมไปในที่สุด แล้วลงเอยด้วยการถูก หงส์แดง ยกเลิกสัญญาไปในปี 2011

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้