นี่ก็เป็นเวลาที่ผ่านมา 5 ปีเข้าให้แล้ว สำหรับ ทีมชาติอังกฤษ ชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี รุ้นที่ก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ยูโรในปี 2017 ที่ทำผลงานได้อย่างน่าจับตามองตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป บี ที่เอาชนะสามทีมแกร่งทั้ง เนเธอร์แลนด์, เยอรมัน และ บัลแกเรีย ได้ทั้งหมด แล้วต่อยอดความร้อนแรงดด้วยการผ่าน สาธารณรัฐเช็ก ก่อนจะเข้าไปเอาชนะ โปรตุเกส ในนัดชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 2-1 ที่ประเทศจอร์เจีย แน่นอนว่าแฟนบอลหลายคนคงคิดว่า ผู้เล่นชุดนั้นคงจะมีอนาคตการค้าแข้งที่สดใสรอยู่ แต่ใช่ว่าทุกรายจะมีเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป

วันนี้เว็บไซต์ 168Kick พร้อมอัพเดตสถานการณ์ล่าสุดของทัพ สิงโตน้อย ชุดดังกล่าว ที่เเข้าสู่วัยเติบใหญ่ หลุดพ้นจากคำว่า นักเตะดาวรุ่ง ไปเรียบร้อยแล้ว มาดูกันไปพร้อมๆ กันทีละตำแหน่งเลยว่า ปัจจุบันอนาคตของพวกเขาเหล่านั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง? ก้าวไปในทิศทางที่ถูกที่ควรหรือไม่?

เริ่มต้นกันที่ผู้รักษาประตูอย่าง อารอน แรมสเดล ที่ในปี 2017 อยู่กับ บอร์นมัธ แต่ยังไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามเป็นตัวจริง เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ เลยถูกปล่อยให้ทีมในระดับลีก ทู อย่าง เชสเตอร์ ฟิลด์ ยืมตัวไปใช้งานในปี 2018 เมื่อพิสูจน์ตัวเองไดด้ในระดับหนึ่ง จนกลายเป็นตัวหลักของ เดอะ เชอร์รี่ส์ ก็ถูกขายขาดไปให้กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก่อนอนาคตจะก้าวกระโดดมาอยู่กับ อาร์เซน่อล เพราะฝีมือการเซฟนั้นพัฒนาไปไกล จนทุกวันนี้กลายเป็นตัวเลือกมือหนึ่งของทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว

ต่อกันที่ตำแหน่งนายทวารอีกหนึ่งรายอย่าง นาธาน ทร็อตต์ ที่ปัจจุบันอายุเข้าวัย 23 ปี เข้าให้แล้ว จอมหนึบรายนี้ยังคงไม่เปลี่ยนต้นสังกัด มีสัญญากับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อยู่เหมือนเดิม แต่ได้รับโอกาสให้ลงเฝ้าเสาให้กับ ขุนค้อน ไปเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น นับตั้งแต่วันที่ได้แชมป์ยุโรป เมื่อฤดูกาลก่อน ทร็อตต์ เพิ่งจะถูกปล่อยให้กับ น็องซี่ ทีมในศึก ลีก เดอซ์ ยืมตัวไปใช้งาน ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่า ซีซั่นที่จะมาถึงอนาคตของเขาจะเป็นอย่างไร?

มาถึงตำแหน่งกองหลังรายแรกอย่าง เทรเวอห์ ชาโลบาห์ ที่ยังคงฝากอนาคตไว้กับต้นสังกัดเดิมอย่าง เชลซี ผ่านการถูกปล่อยให้ทีมอื่นๆ ยืมตัวไปใช้งานมาอย่างโชกโชน อาทิ เช่น อิปสวิช, ฮัดเดอร์สฟิลด์ และ ลอริยองต์ เติมความเก๋ามาพอได้ที่ แล้วเพิ่งจะได้รับโอกาสจากเทรนเนอร์ โธมัส ทูเคิ่ล ให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่เมื่อปีก่อน รับบทบาทเป็นอะไหล่ชิ้นสำคัญในแผงหลัง ทำผลงานได้ค่อนข้างเข้าตาเลยทีเดียว ทำประตูไปได้มากถึง 4 ลูก ซึ่งปีหน้าคงได้รับโอาสให้พิสูจน์ตัวเองมากกว่าเดิม

ถัดมาในรายของ เจย์ ดาซิลวา ที่เป็นกองหลังเด็กปั้นจาก เชลซี อีกหนึ่งราย หลังจากถูกปล่อยให้กับสโมสร บริสตอล ซิตี้ ทีมในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ยืมตัวไปใช้งาน แล้วปรากฏว่า ทำผลงานได้เข้าตาสุดๆ เมื่อต้นสังกัดไตร่ตรองแล้วว่า อนาคตของเขาในการสอดแทรกขึ้นชุดใหญ่คงเป็นไปได้ยาก เลยขาดขาดไปให้กับ บริสตอล ซิตี้ ซึ่งในปัจจุบันเขากลายเป็นตัวหลักให้กับทีมไปเรียบร้อยแล้ว ลงเล่นให้กับทีมใหม่ไปแล้วถึง 106 นัด หวังว่าสักวันคงพาทีมไต่ขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดได้

ต่อเนื่องกันที่กองหลังอีกรายอย่าง ทาโย เอดัน ที่เคยอยู่กับ ฟูแล่ม แล้วได้ลงเล่นไปแบบจำกัดจำเขี่ยแค่ 7 นัด เลยตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ ลินคอล์น ซิตี้ เพื่อโอกาสลงสนามที่มากขึ้น ปัจจุบัน เอดัน ขยับสเต็ปขึ้นมาอยู่กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทีมในกลุ่มลุ้นเลื่อนชั้นเมื่อปีก่อน แต่ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงแบบถาวรได้เสียที

ถัดมาในรายของ ดูจอน สเตอร์ลิ่ง เด็กปั้นในตำแหน่งกองหลังจาก เชลซี อีกหนึ่งราย ที่ยังคงทนรอโอกาสจากต้นสังกัดนับตั้งแต่จบทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว แม้ว่าโอกาสขึ้นชุดใหญ่จะยังดูริบหรี่ เพิ่งจะถูกปล่อยให้ แบล็คพูล ยืมตัวไปใช้งาน แต่ดูท่าว่าเขาคงอยากจะกัดฟันสู้ต่อไปแบบไม่มีย่อท้อ

ต่อเนื่องกันที่แนวรับอย่าง ดาร์เนลล์ จอห์นสัน อดีตเด็กปั้นของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กลับมาพร้อมตำแหน่งแชมป์ก็จริง แต่ไม่สารถทะลุขึ้นไปเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ได้ เมื่อถูกสตาฟฟ์โค้ชตัดเกรดฝีเท้าแล้วว่า ไม่ผ่าน เลยถูกเลหลังขายออกไปให้ ฟลีตวู้ด เมื่อปีก่อน แล้วได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัดใหม่ไปเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น

ต่อเนื่องกันที่ เอซาห์ ซูลิมาน อดีตกองหลังเด็กปั้นจาก แอสตัน วิลล่า ถูกเลหลังขายออกไปให้กับ วิตอเรีย กีมาไรส์ ทีมในลีกโปรตุเกส เมื่อปี 2020 หลังขึ้นชุดใหญ่ไม่สำเร็จปัจจุบันเขายังไม่ดีพอจะเป็นตัวจริงให้กับทีมใหม่ แล้วเพิ่งจะถูกปล่อยให้ นาซิอองนาล ทีมในลีกรองแดดนฝอยทองยืมตัวไปใช้งานในซีซั่น 2021/22

มาถึงในรายของ รีซ เจมส์ แบ็คขวาฟอร์มแรงของ เชลซี ที่ทะลุขึ้นไปเป็นตัวหลักให้กับชุดใหญ่ได้สำเร็จ กลายเป็นตัวเลือกเบอร์หนึ่งของต้นสังกัดในตำแหน่งดดังกล่าว ก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ยุโรปและแชมป์สโมสรโลกมาแล้ว หากร่างกายของเขาสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ น่าจะมีลุ้นติดทีมชาติชุดใหญ่ไปลุยบอลโลกช่วงปลายปีแน่นอน

ปิดท้ายตำแหน่งกองหลังกันที่แบ็คซ้ายอย่าง ไรอัน เซสเซยง ที่สร้างชื่อตั้งแต่สมัยอยู่กับ ฟูแล่ม ด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ที่ยิงประตูได้ในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยวัยแค่ 16 ปี กับ 91 วัน ก่อนจะถูกดึงตัวมาอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แล้วทำได้แค่รอโอกาสลงเล่นอยู่หลายปี แต่ฤดูกาลก่อน อันโตนิโอ คอนเต้ เริ่มให้เขาลงเล่นเพื่อพิสูจน์ตัวเองมากขึ้น หลังสามารถสลัดอาการบาดเจ็บเรื้อรัง ที่รบกวนเขามาตลอดจนหายเป็นปลิดทิ้ง ต้องมาดูกันต่อไปว่า ซีซั่นหน้าเขาจะเอาชนะใจบอสชาวอิตาเลี่ยนได้หมือนเดิมหรือไม่?

เข้าสู่ตำแหน่งกองกลางกันที่ อันเดร ดอซเซลล์ อดีตกองกลางของ อิปสวิช ทาวน์ ที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ไปมากถึง 93 นัด ก่อนจะถูกขายไปให้กับ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส ในปี 2021 แม้ว่าเขาจะได้โอกาสลงสนามกับ ทหารเสือราชินี เมื่อปีก่อนไปถึง 33 เกม แต่กลับไม่สามารถยิงประตูได้เลยแม้แต่ลูกเดียว อนาคตยังลูกผีลูกคนต้องลุ้นกันต่อไป

ต่อกันที่รายของ จาค็อบ แมดด็อกซ์ อดีตเด็กปั้นของ เชลซี ที่ไม่สามารถทะลุขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ได้ แม้ว่าจะกลับมาสู่ทีมด้วยตำแหน่งแชมป์ยุโรป ก่อนจะถูกปล่อยไปให้กับ วิตอเรีย กีมาไรส์ ในปี 2020 แต่ฝีเท้าของเขาก็ยังไม่เข้าตาต้นสังกัดใหม่ เหมือนว่าประสบการณ์ยังเก็บเลเวลมาไม่มากพอ เลยถูกปล่อยให้ เบอร์ตัน อัลเบี้ยน ยืมตัวมาใช้งานในฤดูกาลก่อน แล้วต้องมาลุ้นกันใหม่ในปีนี้

ถัดมาในรายของจอมทัพอย่าง เมสัน เมาท์ กองกลางสาระพัดประโยชน์ของ เชลซี ที่เป็นเด็กปั้นในแนวรุกเพียงไม่กี่ราย ที่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงท่ามกลางเหล่าซูเปอร์สตาร์ได้สำเร็จ เขากลายเป็นคีย์แมนในแนวรุกของ โธมัส ทูเคิ่ล ระเบิดฟอร์มยิงไปถึง 11 ประตูในซีซั่นก่อน ดด้วยอายุเพียงแค่ 23 ปี เมาท์ ติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ไปแล้วถึง 31 นัด

ปิดท้ายตำแหน่งกองกลางกันที่ปีกความเร็วสูงอย่าง มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส ที่เคยเป็นเด็กปั้นของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แต่ไม่ได้รับโอกาสให้พิสูจน์ตัวเองกับทีมชุดใหญ่ เพราะปัญหาเรื่องทัศนคติการเล่น กลายเป็นว่า ไก่ดือยทอง ปล่อยให้หลายทีมยืมตัวไปลองใช้งาน แล้วผลงานก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน จนต้องยอมปล่อยทิ้งออกไปแบบฟรีๆ แล้วเป็นทาง วิตอเรีย กีมาไรส์ ที่เซ็นต์ไปเลี้ยงดูต่อ ปรากฏว่า เอ็ดเวิร์ดส ระเบิดฟอร์มยิงไป 20 ประตู จากการลงเล่น 85 เกม เพิ่งจะถูก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซื้อไปร่วมทีมหมาดๆ เมื่อตลาดเดือนมกราคม ยังมีแววเกิดใหม่ได้อยู่

เข้าสู่ตำแหน่งกองหน้ากันที่ เบน เบเรตัน ดิอาซ ที่เคยเป็นอดีตผู้เล่นของ น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรสต์ ที่ย้ายมาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในฤดูกาลก่อน ด้วยการยิงไปถึง 22 ประตู เล่นได้อย่างแข็งแกร่งดุดันตามแบบฉบับตัวเป้าโบราณ ล่าสุด เบเรตัน ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับทีมชาติชิลีชุดใหญ่ ติดธงไปแล้ว 15 นัด ยิงไปแล้ว 4 ประตูด้วยกัน

ต่อเนื่องกันที่ อิซาค บัคลี่ย์ ริคเก็ตส์ อดีตดาวรุ่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อนาคตดูจะมืดมนที่สุด เพราะถูกตีค่าว่า ฝีเท้าดีไม่พอจะเล่นฟุตบอลในระดดับอาชีพ ต้องลดระดับไปอยู่กับทีมสมัครเล่นอย่าง สเตทฟอร์ท แพดด็อค ปัจจุบันเขาย้ายมาอยู่กับ เซาท์พอร์ท ทีมในศึก เนชั่นแนล ลีก นอร์ท ใช้ชีวิตแตกต่างกับอดีตเพื่อนร่วมทีมคนอื่นแบบลิบลับ

ถัดมาที่รายของ จอช ดาซิลวา อดีตเด็กปั้นของ อาร์เซน่อล ที่ย้ายมาอยู่กับ เบรนท์ฟอร์ด แล้วเป็นคีย์แมนสำคัญในแดนหน้าในฤดูกาล 2020/21 พาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามปีก่อน ดาซิลวา เจออาการบาดเจ็บสะโพกเล่นงาน ได้ลงสนามรวมไปเพียงแค่ 10 เกมเท่านั้น ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่า ซีซั่นหน้าเขาจะอยู่ในแผนการทำทีมหรือไม่?

ปิดท้ายคลิปนี้กันที่ ลูคัส เอ็นเมช่า แนวรุกฟอร์มแรงอดีตเด็กปั้นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่รอโอกาสขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ไม่ไหว เลยย้ายไปพิสูจน์ตัวเองกับ โวล์ฟสบวร์ก ในศึก บุนเดาลลีก้า เยอรมันเพียงแค่ปีเดียว เอ็นเมช่า ก็แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว ด้วยการยิงประตูให้กับ หมาป่าเมืองเบียร์ ไปถึง 10 ลูก แล้วตัดสินใจเปลี่ยนสัญชาติไปรับใช้ เยอรมัน แทน ติดธงชุดใหญ่ไปแล้วทั้งสิ้น 6 ครั้ง