Home บทความฟุตบอล 10 กุนซือ พรีเมียร์ ที่อัตราเฉลี่ยเก็บแต้มต่อเกมสูงสุด ตอนจบ

10 กุนซือ พรีเมียร์ ที่อัตราเฉลี่ยเก็บแต้มต่อเกมสูงสุด ตอนจบ

0
10 กุนซือ พรีเมียร์ ที่อัตราเฉลี่ยเก็บแต้มต่อเกมสูงสุด ตอนจบ

เข้าสู่ตอนปิดท้ายของซีรีส์ 10 ผู้จัดการทีมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มีอัตราการเก็บแต้มเฉลี่ยต่อเกมสูงสุด ซึ่งแฟนๆ หลายคนคงได้เห้นกันไปแล้วว่า มีชื่อของเทรนเนอร์หลายรายที่เซอไพรส์เข้ามาติดโผ บางสโมสรที่มีผลงานระดับต้นๆ ของตาราง ยังไม่มีโผล่ติดเข้ามา เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งบ่อยครั้ง

บอร์ดบริหารของแต่ละทีม ย่อมมีการวัดผลงานที่แตกต่างกันออกไป เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ก็แตกต่างกันตามงบประมาณการทำทีม แต่ที่เหมือนกันก็คือ ไม่มีใครอยากเสียงานไปแน่ๆ เพราะการถูกไล่ออกจากตำแหน่งหนึ่งรอบ ย่อมไม่ต่างกับการโดนตีตราว่าฝีมือไม่ถึง กว่าจะได้รับโอกาสครั้งใหม่ ต้องไปเบียดแย่งกับกุนซือหน้าใหม่ๆ ที่แจ้งเกิดกันไม่ว่างเว้น

แน่นอนว่าโฟกัสของแฟนๆ ในสกู๊ปนี้ คงหนีไม่พ้นยอดตัวท็อปของลีกอย่าง เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ เทรนเนอร์แพสชั่นสูงชาวเยอรมัน และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือมากฝีมือชาวสเปน ที่ขับเคี่ยวแย่งชิงความเป็นหนึ่งในลีกแดนผู้ดี แบบทิ้งห่างทีมอื่นๆ แทบไม่เห็นฝุ่น เปลี่ยนโฉมหน้าของแชมป์พรีเมียร์ ไม่ใช่ว่าเก้บแต้มได้ระดับ 90 แล้วจะไปถึงฝันแบบนิ่มๆ เหมือนยุคก่อน

กลายเป็นว่ายุคนี้แทบจะต้องมีคะแนนเฉียดๆ ร้อยแต้ม ถึงจะกล้ามองถึงการชูถ้วย นั่นหมายความว่า จำนวนเกมที่ทำแต้มหล่นได้แทบไม่ถึง 10 นัด หากทีมไหนพลาดแพ้เกิน 4-5 เกม กาชื่อทิ้งจากทีมแคนดิเดตลุ้นแชมป์ไปได้เลยทันที เพราะมาตรฐานของสองทีมนี้นั้นสูงเอามากๆ วัดกันเกมต่อเกม ไม่เพียงแค่เรื่องการเก็บชัย แต่ต้องมองไกลไปถึงลูกได้-เสีย อีกด้วย

บทความนี้ พร้อมนำเสนอคอนเทนต์เดิมแบบต่อเนื่องไม่ให้ขาดตอน ซึ่งคลิปนี้จะเข้าสู่ตำแหน่งท็ปไฟว์กันที่อันดับ 5 ไล่เรียงไปถึง 1 ตามลำดับ มองจากรายชื่อผ่านๆ แล้ว ล้วนเป็นผู้จัดการทีมระดับตัวท็อปจากทีมชั้นนำทั้งสิ้น อัตราเฉลี่ยการคว้าแต้มต่อเกม เบียดกันมาแบบเฉือนกันที่หลักทศนิยม

อันเป็นการการันตีได้เลยว่าลีกฟุตบอลแดนผู้ดี มีมาตรฐานการแข่งขันที่สูงเอามากๆ ทั้งที่คู่แข่งแต่ละทีมล้วนไม่ใช่งานง่ายที่จะคว้าสามแต้มมาครองได้สบายๆ มาลุ้นกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า ตัวเลือกที่แฟนๆ คาดเดาไว้ในใจ จะติดอันดับมาตามคาดหรือไม่? ค่าเฉลี่ยแต้มต่อเกมนั้นสูงขนาดไหน?

เปิดหัวกันที่อันดับที่ 5 เป็นกุนซือที่เพิ่งจะได้รับงานคุมทีมเต็มตัวครั้งแรก ก็รับงานยากด้วยการคุมทัพ อาร์เซน่อล ทันที หลังเก็บประสบการณ์ในการเป็นผู้ช่วยของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จนสุกงอม นั่นก็คือ มิเกล อาร์เตต้า ที่กำลังพยายามสร้างทีมปืนใหญ่ในแบบเฉพาะตัว แล้วกำลังเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ

โชคดีหน่อยตรงที่ เดอะ กันเนอร์ ยุคนี้ เจ้าของทีมอย่างตระกูล โครเอนเก้ หยอดงบประมาณเสริมทัพต่อปีให้มากเป็นเท่าตัว เป้าหมายที่เล็งเอาไว้พร้อมจ่ายค่าตัวแบบไม่มีขี้เเหนียว อย่างไรก็ตามผลงานของทีมฤดูกาลก่อนที่จบแค่อันดับที่ 5 ไม่ได้ไปเล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ก็แก้ตัวให้แฟนบอลถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ชื่นใจด้วยการนำเป็นจ่าฝูงอยู่ในตอนนี้ ค่าเฉลี่ยที่เก็บแต้มต่อเกมที่ระดับ 1.84 ถือว่าเปิดตัวในวงการได้แรงเลยทีเดียว

ถัดมาที่อันดับที่ 4 เป็นเทรนเเนอร์สไตล์มือปืนรับจ้างชาวอิตาลี ที่ผลงานที่ผ่านมาของเขาการันตีแชมป์ได้แทบทุกครั้ง ไปอยู่กับทีมไหนก็ยกระดับทีมได้ดด้วยการใช้เวลาไม่นานหากแต่การควบคุมให้ อันโตนิโอ คอนเต้ ไม่ไปท้าไฟว้กับบอร์ดบริหาร คงต้องป้องกันและตามใจเขาเอาไว้แต่เนิ่นๆ ไม่เช่นนั้นพร้อมสละเรือได้ทุกเมื่อ

แถมค่าชดเชยแต่ละครั้งถ้าโดนไล่ออก ก็มีตัวเลขที่สูงเอาเรื่อง หลังจากเข้ามารับงานคุมทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็ปรับจูนทัพ ไก่เดือยทอง ให้น่ากลัวขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่ใช่ทีมที่จะต่อกรได้ง่ายๆ เติมความเขี้ยวให้แบบเต็มพิกัด ค่าเฉลี่ยการเก็บแต้มต่อเกมของ คอนเต้ นั้นอยู่ที่ราว 2.05 ถือว่าสูงเอาเรื่องเลยทีเดียว ซึ่งถ้ารักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้แบบนี้ งานต่อๆ ไปยังไงก็ได้ข้อเสนอระดับทีมหัวตารางล้วนๆ แน่ๆ

ต่อเนื่องกันที่อันดับที่ 3 เป้นผู้จัดการทีมที่รักยิ่งของเหล่าแฟนบอล เดอะ ค็อปส์ ที่นับตั้งแต่ได้ตัว เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ เข้ามารับงานในถิ่น แอนฟิลด์ ถ้วยแชมป์ที่ห่างหายไปนานแต่ละรายการ ก็กลายเป็นว่าไล่เก็บมาได้ทีละถ้วยสองถ้วย แทบไม่เคยว่างเว้นจากความสำเร็จ ยกระดับให้ ลิเวอร์พูล ไม่ใช่แค่เพียงทีมหัวแถวในลีก แต่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในระดับทวีป ที่ไม่ว่าทีมไหนก็ไม่อยากเจอ

แม้ว่าจะใช้เเวลาปรับปรุงเเปลี่ยนแปลงแต่ละส่วนอยู่นานพอสมควร แต่เมื่อเจอจุดที่ลงตัว ปลูกฝังแนวทางการเล่นให้ลูกทีมเข้าใจอย่างถ่องแท้ ฉายา เครื่องจักรสีแดง สามารถยกกลับมาใช้ได้แบบไม่อายปาก เพราะเดินหน้าไล่ถล่มคู่แข่งแต่ละเกมแบบไม่มียั้งมือ อัตราเฉลี่ยแต้มต่อเกมของ คล็อปป์ ที่ระดับ 2.09 อาจดูไม่ทิ้งห่างคนอื่นมากนัก อย่างไรก็ตามหากมองเรื่องการเล่นของทีมรวมๆ ถือว่า ทำทีมมาไกลจากจุดเริ่มเอามากๆ

เข้าสู่ตำแหน่งรองท็อปกันที่กุนซือสัญชาติเยอรมันอีกหนึ่งรายอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล ที่ตั้งแต่เข้ามารับงานที่สโมสร เชลซี ก็พาทีมกลับเข้าฝั่งได้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่ไม่ได้มีการปรับขุมกำลังของทีมมากนัก การปรับระบบมาใช้กองหลังตัวกลางสามคน เปลี่ยนสไตล์การเล่นของทีมไปโดยสิ้นเชิง จากเกมรับที่เคยยุ่ยเสียประตูยับเยิน คืนชีพให้ดาวเตะที่หมดอนาคตไปหลายคน กลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง

เกมรุกใช้จังหวะไม่เปลือง มีการโจมตีจากตัวริมเส้นที่หลากหลาย เสียเพียงอย่างเดียว คือ ยังไม่มีกองหน้าตัวจบสกอร์ที่เคมีเข้ากันสักที ไม่เช่นนั้นเกมบุกจะน่ากลัวมากกว่านี้อีกมากอัตราเฉลี่ยแต้มต่อเกมระดับ 2.12 ถือว่าฝีมือของ ทูเคิ่ล นับเเป็นตัวท็อปของลีก หลายสโมสรอยากได้ตัวเขาไปสานงานต่อ ซึ่งพอเจ้าของทีม สิงโตน้ำเงินคราม คนใหม่เข้ามา แล้วฟอร์มของทีมไม่เป็นไปตามเป้า เลยปลดเขาออกไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่เห็นว่าทีมจะดีกว่าเดิมตรงไหน

ปิดท้ายกันที่เบอร์หนึ่งของลีก คงไม่มีทางเป็นใครอื่นไปได้นอกจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่นับตั้งแต่ย้ายมาคุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็พาทีมกวาดแชมป์ลีกอย่างต่อเนื่อง พัฒนาการเล่นของทีมไปอีกขั้น พอได้แรงสนับสนุนจากเจ้าของทีมที่อัดฉีดเงินเสริมทัพแบบไม่อั้น ขุมกำลังในมือของเขามีตัวเลือกฝีเท้าดีพอๆ กัน ให้ใช้งานได้ถึงสองชุด เป๊ป ปลูกฝังสไตล์การเล่นครองบอล ต่อบอล ให้กับลูกทีม

จนเวลาเจอกับคู่แข่งแต่ละทีม รูปเกมเหนือกว่าแบบคนละชั้น ยกระดับทีมเป็นตัวเต็งแชมป์แทบทุกรายการที่ลงแข่ง หาคู่ต่อกรที่สู้กับพวกเขาได้ยากเต็มทน หากไม่เล่นพลาดหลุดฟอร์มกันเอง อัตราเฉลี่ยการเก็บแต้มระดับ 2.33 ต่อหนึ่งเกม นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงเอามากๆ พิสูจน์แล้วว่าฝีมือของเขานั้นเป็นของจริง ถ้าในอนาคต เรือใบสีฟ้า ต้องเสียเขาออกไป คงหาตัวแทนที่ใกล้เคียงกันมาอุดรอยรั่วได้ยาก

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้