นักเตะจากแดนละตินทวีปอเมริกาใต้ กลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดนักเตะตอนนี้ หลังจากดาวเตะรุ่นพี่ ย้ายมาสร้างฐานแฟนบอลในยุโรป จากลีลาการเล่นที่มีความแตกต่าง อาศัยเรื่องของจินตนาการและอิสะในการเล่นที่สร้างสรรค์ ฉีกกรอบการเล่นเดิมๆ ที่ต้องทำตามแทคติกส์อย่างเคร่งครัด
แนวรุกบางรายสามารถชงเองกินเองได้ ไม่ต้องรอตัวป้อนเพื่อจบสกอร์ ทำให้ราคาค่างวดของพวกเขาทุกวันนี้ พุ่งไปไกลกว่าตอนที่ยังไม่ได้รับความนิยมแบบคนละชั้น ข้อเสียเพียงอย่างเดียว คือ ต้องเสียโควต้านักเตะต่างชาติในการเล่นบางลีก
หากเป็นลีก ลาลีก้า สเปน ยักษ์ใหญ่ระดับลุ้นแชมป์แทบจะต้องกันโควต้านักเตะนอกยุโรปเอาไว้เผื่อ การจะเลือกให้นักเตะคนใดใช้พื้นที่ดังกล่าวต้องคิดคำนวณมาอย่างดีแล้ว ส่วนการย้ายมาเเล่นในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องมีการขอใบอนุญาติการทำงาน ซึ่งไม่ใช่เเอกสารที่ออกกันง่ายๆ ต้องเป็นผู้เล่นที่อยู่กับชาติชั้นนำ ติดทีมชาติชุดใหญ่ต่อเนื่อง ตามจำนวนที่กำหนดถึงจะผ่านเกณฑ์
ทำให้หลายสโมสรหัวหมอ พยายามส่งแมวมองไปส่องฟอร์มดาวรุ่งตั้งแต่อายุยังน้อย บางทีมเสนอให้บ้านที่อยู่จะได้ย้ายมาทั้งครอบครัว เพราะกฏบางประเทศในแถบนั้นอย่างเช่น บราซิล ต้องรอให้อายุถึงเกณฑ์ที่กำหนด ถึงจะสามารถย้ายออกมาทำงานต่างแดนได้ นับเป็นการเสียเวลาไปเปล่าๆ แบบไร้ความจำเป็น
บทความนี้ พร้อมนำเสนอคอนเทนต์เดิมแบบต่อเนื่องไม่ให้ขาดตอน ในหัวข้อ 10 นักเตะจากแถบอเมริกาใต้ ที่ได้รับการยกย่องว่ามีฝีเเท้าดีที่สุดตอนนี้ ซึ่งตอนนี้จะเข้มข้นกว่าตอนแรก เพราะเข้าสู่ตำแหน่งท็อปไฟว์กันแล้ว ขอย้ำอีกครั้งว่าข้อมูลต่างๆ เป็นความคิดเห็นจากสื่อต่างประเทศที่เชื่อถือได้ อาจมีการเห็นแย้งเห้นต่างกันได้ตามปกติ เนื่องจากแต่ละคนย่อมมีมุมมองต่อการเล่นของนักเตะต่างกันออกไป มาลุ้นกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า จะมีสตาร์รายใดติดโผเข้ามาบ้าง? พวกเขาสังกัดสโมสรใด? ตำแหน่งที่ได้รับนั้นเหมาะสมแล้วหรือไม่?
เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 5 เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ อดีตหนึ่งในสามประสานแดนกลางชั้นยอดจากสโมสร เรอัล มาดริด จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก คาเซมิโร่ มิดฟิลด์ร่างป้อมทีมชาติบราซิล ที่ยืนปักหลักทำหน้าที่ปัดกวาดอยู่หน้าแผงหลังของ ราชันชุดขาว มาอย่างยาวนาน พาทีมกวาดแชมป์ต่างๆ มามากมายจนลุ้นตู้ ก่อนจะย้ายมาเผชิญความท้าทายใหม่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หน้าที่ของเขาอาจดูเป็นบทบาทที่ไม่มีใครอยากทำเท่าไหร่นัก ต้องคอยเล่นตุกติก กวนคู่แข่งไม่ให้เล่นง่าย ตัดเกมหนักๆ เสี่ยงต่อการโดนคาโทษใบเหลืองใบแดง อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นในระดับสโมสรหรือทีมชาติ ล้วนหาตัวเลือกที่เป็นคู่แข่งที่มีฝีเท้าใกล้เคียงกับ คาเซมิโร่ ได้ยากเต็มที ลองขาดหายไปสักเกมรับรองผลงานดร็อปแบบไม่ต้องสืบ
ต่อกันที่อันดับที่ 4 เป็นกองกลางตัวเก่งทีมชาติอุรุกวัย วัย 23 ปี ที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาฝีเท้า ก้าวข้าวจากดาวรุ่งมาเป็นผู้เล่นลุ้นเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงของ เรอัล มาดริด นั่นก็คือ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ดาวเตะสาระพัดประโยชน์ ที่รับหน้าที่ได้หลายบทบาทเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็น กองกลางตัวตัดเกม, ปีกขวา หรือแม้แต่แบ็คขวา ล้วนเล่นให้แฟนๆ เห็นกันมาแล้วทั้งหมด
อย่างไรก็ตามการจะเบียดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงในทีม ราชันชุดขาว หากต้องไปลุ้นกับสองยอดกองกลางแห่งยุคคงเป็นเรื่องยาก เลยทำให้ บัลเบร์เด้ ต้องรอโอกาสอย่างอดทน เพราะเชื่อว่าต้นสังกัดคงวางตัวเขาเอาไว้รอรับไม้ต่อจากรุ่นพี่ หากมีใครสักรายปลดเกษียณไปจากทีม หากไม่สำคัญจริง มาดริด คงไม่มีทางกันท่าใส่ค่าฉีกสัญญาราคาแสนโอเวอร์เอาไว้แน่ๆ
ถัดมาที่ลำดับที่ 3 น่าแปลกใจไม่น้อยที่ชื่อของ ลิโอเนล เมสซี่ แนวรุกตัวเก่งจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง โผล่ออกมาเร็วขนาดนี้ ทั้งที่เป็นเจ้าของรางวัล บัลลงก์ ดอร์ ถึง 7 สมัย จะยกให้เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในยุคนี้ก็ไม่ผิดนัก
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า แล้วต้องมาร่วมงานกับเพื่อนใหม่ โค้ชใหม่ และ แทคติกส์ใหม่ๆ ความสำคัญของเขาต่อทีมก็ลดน้อยลงไป ไม่ใช่ตัวแบกทีมเบอร์หนึ่งเหมือนแต่ก่อน ฟอร์มของเขาก็เริ่มดร็อปลงตามอายุอานามที่มากขึ้น บทบาทช่วงหลังไม่ใช่นักล่าสกอร์เหมือนตอนวัยรุ่น ปรับสไตล์การเล่นมาเป็นตัวสร้างสรรค์เกมเสียมากกว่า ต้องมารอดูกันว่า เมสซี่ จะเรียกร่างสุดยอดกลับมาได้หรือไม่? แล้วจะพาทีมกวาดแชมป์อะไรเพิ่มเติมได้บ้าง ทั้งในระดับชาติและสโมสร
ต่อกันที่ตำแหน่งรองท็อปจากความคิดเห็นของสื่อต่างประเทศ ที่มองว่าตอนนี้ อลิซอน เบ็คเกอร์ นายทวารมือหนึ่งของสโมสร ลิเวอร์พูล คือ นักเตะที่เก่งเป็นหมายเลขสองในทวีปอเมริกาใต้ นับเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก ที่ทาง เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ กล้าทุ่มข้อเสนอก้อนโต เพื่อดึงตัวเขามาเฝ้าเสาจาก โรม่า ทั้งที่ชื่อเสียงตอนนั้นยังไม่ได้เป็นระดับซูเปอร์สตาร์ด้วยซ้ำ แต่พอนานวันเข้า อลิซอน ช่วยให้แผงแนวรับของ หงส์แดง มีความมั่นในยามเขาลงเฝ้าเสา จังหวะการเซฟที่เข้าตาหลายต่อหลายครั้ง ช่วยให้ทีมรอดพ้นการเสียประตู ไล่เก็บแต้มได้นับไม่ถ้วน ตอนนี้ไม่มีถ้วยแชมป์ระดับสโมสรที่เขายังไม่ได้กับ ลิเวอร์พูล แม้แต่รายการเดียว รอขึ้นแท่นเป็นตำนานของทีมแบบไม่ต้องสงสัย
ปิดท้ายกันที่ตัวตำแหน่งเบอ์หนึ่งจากทวีปอเมริกาใต้นาทีนี้ สื่อต่างประเทศนั้นยกให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ปีกตัวจี๊ดวัยแค่ 21 ปีของ เรอัล มาดริด แซงหน้ารุ่นพี่ตัวเก๋าไปหลายช่วงตัว หลังจากระเบิดฟอร์มร่างทองพาทัพ เรอัล มาดริด เถลิงดับเบิ้ลแชมป์ได้ในปีก่อน ยกระดับตัวเองจากตัวริมเส้นที่ยิงประตูไม่เอาไหน กลายเป็นนักจบสกอร์ชั้นยอด อาวุธเดิมที่มีอยู่อย่างเรื่องของความสามารถเฉพาะตัวในการเลี้ยงกันตัว ยังพัฒนาให้มีความจัดจ้านมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่านาทีนี้ดวลกันตัวต่อตัวหาคนหยุดเขาได้ยากเต็มที ต้องมาลุ้นกันว่าฤดูกาลหน้า วินี่ จะรักษามาตรฐานการเล่นของเขาได้หรือไม่? แล้วผลงานในเวทีที่ใหญ่ที่สุดอย่างฟุตบอลโลกเขาจะช่วยทีมได้แค่ไหน?