Home บทความฟุตบอล 10 กฏการแบน สิ่งของ และ พฤติกรรม สุดแปลกของกุนซือชื่อดังในดลกฟุตบอล ตอนแรก

10 กฏการแบน สิ่งของ และ พฤติกรรม สุดแปลกของกุนซือชื่อดังในดลกฟุตบอล ตอนแรก

0
10 กฏการแบน สิ่งของ และ พฤติกรรม สุดแปลกของกุนซือชื่อดังในดลกฟุตบอล ตอนแรก

เทรนเนอร์ชื่อก้องโลกหลายราย หากตัดสินใจเลือกรับงานคุมทีมสโมสรใดสโมสรหนึ่ง ไม่ต่างกับเอาชื่อของตนเองเป็นประกัน ยิ่งงานใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ ความกดดันย่อมมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้หลายต่อหลายคนพยายามสร้างคาแรกเตอร์ ในการคลุกคลีกับลูกทีมแตกต่างกันออกไป บางคนเลือกที่จะเปิดใจเหมือนเพื่อน คลุกคลีพูดคุยได้ทุกเรื่องอย่างเปิดเผย บางกลุ่มเลือกที่จะทำตัวแบ่งแยกหน้าที่การงานชัดเจน วางตัวเป็นนาย แล้วให้ลูกทีมเป็นบ่าว คอยรับคำสั่งอย่างเคร่งครัด

ถึงจะมีโมเมนต์ที่สามารถทำตัวแบบเป็นกันเองได้อยู่บ้าง แต่ยามที่โค้ชทุกคนบนโลกใบนี้ต้องการผลงานอย่างจริงจัง ย่อมต้องมีการออกกฏเหล็กบางข้อ เพื่อพาทีมไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ หากสิ่งที่บัญญัติขึ้นมามันดูเข้าที่เข้าทาง ย่อมไม่มีทางที่ลูกทีมจะต่อต้านหรือคัดค้านแน่ๆ อย่างไรก็ตามหากมันเป็นเรื่องที่แปลกแหวกแนว แล้วไม่รู้ว่าทำแล้วจะเกี่ยวกับผลงานของทีมอย่างไร? ยิ่งอยู่ในยุคสมัยนี้ การออกคำสั่งใดๆ ต้องคิดคำนึงถึงผลกระทบรอบดด้านให้ดีๆ เพราะสื่อต่างๆ จ้องที่จะนำเรื่องราวภายในแคมป์ มาจุดเป็นประเด็นให้ไฟลุกได้อยู่เสมอ

บทความนี้ พร้อมนำเสนอคอนเทนต์ในหัวข้อของ 10 กฏการแบนสิ่งของและพฤติกรรมสุดแปลกของผู้จัดการทีมชื่อดัง นับตั้งแต่อดีตยามมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะขอแบ่งเป็นสองตอน เพื่อการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเช่นเคย แต่ไม่ได้มีการจัดอันดับว่าใครแปลกกว่าใคร? เน้นการนำเสนอเพื่อความบันเทิง หวังต่อยอดให้แฟนๆ ไปคิดวิเคราะห์กันในภายหลังว่า คำสั่งเหล่านั้นมันสมเหตุสมผลหรือไม่? ประหลาดเกินไปหรือเปล่า? มาดูกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า 5 คนแรกที่ติดโผเข้ามาจะมีใครกันบ้าง?

เริ่มต้นกันที่รายแรก เป็นบิ๊กบอสป้ายแดงชาวฮอลแลนด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เปิดตัวในการคุมทัพแบบสุดห้าว นั่นก็คือ เอริก เทน ฮาก ที่หลังจากทำงานได้ไม่ทันไร ก็มีการประกาศกฏเหล็กให้ลูกทีมประพฤติปฏิบัติตามทันที ไม่ว่าจะเป็นการห้ามมาซ้อมสาย ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างสัปดาห์แข่งขัน และ ต้องกินอาหารจากเชฟของสโมสรเท่านั้น ซึ่งทุกข้อที่ยกตัวอย่างเข้ามาล้วนเข้าใจได้หมด อย่างไรก็ตามทฤษฎีสุดแปลกที่ เทน ฮาก ห้ามให้นักเตะพกโทรศัพท์ติดตัว ระหว่างร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนร่วมทีม เพื่อให้เกิดความกลมเกลียวและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น น่าจะแปลกและเข้มงวดไปหน่อยกับสังคมยุคนี้ เนื่องจากนักเตะบางรายต้องมีการโปรโมทตัวเองผ่านโซเชี่ยล หรือติดต่อคนใกล้ชิดที่อาจมีเหตุด่วนเกิดขึ้น แล้วเชื่อว่าช่วงเวลาที่กำลังทานอาหาร คงไม่ใช่มารยาทที่ดีเท่าไหร่ หากจะกินไปคุยไป

ต่อกันที่อดีตนายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกหนึ่งรายอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ออกกฏสุดแปลกขึ้นมาในปี 2016 กุนซือชาวโปรตุเกสไม่ได้มีการห้ามใช้โทรศัพท์ อย่างไรก็ตามเขาเป็นห่วงเกี่ยวกับการติดเกมของเหล่าผู้เล่นเสียมากกว่า เลยสั่้งแบนห้ามเล่นเกม โปเกม่อน โก ซึ่งเป็นอนิเมชั่นสุดฮิตที่โด่งดังในช่วงปลายยุค 90 ยาวมาจนถึง 2000 เนื่องจากต้องการให้มีสมาธิกับการซ้อมและทำความเข้าใจแทคติกส์ของเขาและทีมสตาฟฟ์ให้ชัดเจน ดังนั้นเหล่าผู้เล่นในทีมของเขาต้องห้ามเล่นเกมดังกล่าวก่อนแข่งอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพราะเขาเป็นกังวลว่าจะหลุดโฟกัส ไปให้ความใส่ใจกับเรื่องอื่นมากกว่า โดยตัวของ เดอะ สเปเชี่ยล วัน เคยออกมายืนยันผ่านสื่อของสโมสรว่า เขากังวลเกียวกับเรื่องนี้จริง

ถัดมาที่รายต่อมาเป็นผู้จัดการทีมชาวสเปนมือฉมัง ได้รับการยิมรับเรื่องฝีมือไปทั่วทั้งวงการ ไม่ว่าสโมสรไหนก็ต้องการตัวเขาไปคุมทัพแทบทั้งสิ้น จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือคนปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เรื่องราวการแบนแปลกๆ ของเขา ต้องย้อนกลับไปที่ในสมัยยังคุมทัพ บาร์เซโลน่า ทีมแรกที่เขาสร้างชื่อเสียงขึ้นมาในวงการ

โดยกฏเหล็กที่เขาสั่งห้ามลูกทีมทำ คือ ห้ามขับรถสปอร์ตมายังสนามซ้อมของสโมสร เพราะเขาต้องการให้บรรยากาศรอบๆ สโมสร หมุนรอบไปด้วยฟุตบอลเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่การใช้ชีวิตที่หรูหรา แต่แล้วก็มีคนที่แหวกกฏแบบไม่มีใครคิดเพราะมองว่า ไม่ใช่กงการอะไรของผู้จัดการทีม ที่จะมาจุ้นว่าเขาขับรถอะไร? ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ขับ เฟอร์รารี่ มาท้าทายอำนาจ

ต่อเนื่องกันที่กรณีถัดมาเป็นเคสของอดีตกุนซือชื่อดังชาวเวลส์อย่าง จอห์น โตแช็ค ที่สร้างตำนานการกินอาหารแบบใหม่ในแคมป์ทีมชาติ ด้วยการแบนน้ำซอสเกรวี่ รวมไปถึงซอสอื่นๆ ที่นำไว้ใช้จิ้มกับอาหาร ทั้งที่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าว สามารถทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ต่างกับอาการจำพวก เฟร้นซฟราย หรือ เบอร์เกอร์ หนึ่งในนักเตะที่ได้รับประสบการนั้นคือ ร็อบบี้ ซาเวจ กองกลางจอมขยัน ที่เล่าว่า บรรยากาศตรงโต๊ะในช่วงระหว่างรับประทานอาหารนั้นสยดสยองสุดๆ เพราะมีการเสิร์ฟแค่เพียง อกไก่อบแห้ง, กล้วยอบกรอบ, บร็อคโคลี่, ข้าว หรือ สปาเก็ตตี้ แบบไม่มีซอสใดๆ ให้กินแกล้มด้วย ทำเอานักเตะภายในทีมอยากออกตัวเพื่อประท้วงกว่าค่อนทีม

ปิดท้ายกันที่เคสของ แจ็คกี้ แม็คนามาร่า อดีตผู้เล่นชื่อดังของ เซลติก ที่พอแขวนสตั๊ดแล้ว ยังคงเลือกทำงานด้านฟุตบอลด้วยการเป็นผู้จัดการทีมต่อ ซึ่งหนึ่งในเคสสุดประหลาดของเขาที่แบนบางอย่าง นั้นเกิดขึ้นตอนที่รับงานคุมทีม ดันดี ยูไนเต็ด เป็นการเปลี่ยนเมนูมื้ออาหารของเหล่าลูกทีม ให้ตัด ขนมปั่งปิ้ง ออกไป อาจจะมองว่าเป็นเรื่องแปลกหรือไม่แปลกก็ได้ หากคำนึงถึงด้านโภชนาการเพราะ แม็คนามาร่า ใส่เอา โจ๊ก และ ซีเรียล เข้ามาอุดสารอาหารในหมวด คาร์โบไฮเดรต ทดแทน

แต่สำหรับนักเตะชาวสก็อตแลนด์และประชาชนทั่วไป ที่กินแซนวิชและขนมปังหลายประเภทเป็นอาหารหลักแล้วอยู่ท้อง ต่อให้เอาเมนูอื่นมาให้ทาน คงจะรู้สึกแปลกไปไม่น้อยทีเดียว

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้