Home บทความฟุตบอล 13 สตาร์ลูกหนัง ที่เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของ เซาแธมป์ตัน ตอนจบ

13 สตาร์ลูกหนัง ที่เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของ เซาแธมป์ตัน ตอนจบ

0
13 สตาร์ลูกหนัง ที่เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของ เซาแธมป์ตัน ตอนจบ

ต่อเนื่องจากอีพีที่แล้วในคอนเทนต์ 13 สตาร์ลูกหนัง ที่เป็นผลผลิตชั้นยอดจากอะคาเดมี่ของ เซาแธมป์ตัน แฟนๆ คงได้เห็นกันไปแล้วว่า ด้วยวัฏจักรของฟุตบอลที่หมุนไปตามวังวนด้านเศรษฐกิจ ทำให้ทีมระดับกลางและล่างลงไปในลีกชั้นนำ ไม่สามารถต่อสู้กับอำนาจเงินจากทีมยักษ์ใหญ่ได้ เพราะแม้แต่สโมสรระดับ เซาแธมป์ตัน ที่ปั้นนักเตะฝีเท้าดีเข้าสู่ตลาดมากมาย สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ยังวนอยู่ที่จุดเดิมไม่ก้าวไปไหน เนื่องจากสุดท้ายแล้วพอผู้เล่นเริ่มถูกสื่อจับตามอง ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มีข่าวกับทีมที่ใหญ่กว่า แทบทุกเคสลงเอยด้วยการย้ายออกไปแทบทั้งสิ้น

หากคิดกันเล่นๆ ว่า นักบุญ สามารถเก็บนักเตะของพวกเขาที่ปั้นขึ้นมา อยู่กับทีมได้ทั้งหมด มีเจ้าของทีมที่คอยสนับสนุนด้านการเงินแบบเต็มที่ มุ่งเป้าไปที่การไปเล่นฟุตบอลยุโรป ศักยภาพทีมของพวกเขานั้นน่าจะมีลุ้นได้แบบสบายๆ เพียงแต่การขับเคลื่อนด้านบริหารที่ต้องมองเรื่องกำไรเป็นหลัก ทำให้ทีมงานซื้อ-ขาย เบื้องบน แทบไม่เคยบอกปัดข้อเสนอการขายสตาร์ออกไปจากทีมเลยแม้แต่เคสเดียว พอเสียนักเตะคุณภาพออกไปแล้วต้องไปหาตัวแทน ก็มีทั้งเคสที่พอไปรอด และ เคสที่ลงเอยอย่างย่ำแย่ ทำผลงานได้ไม่เทียบเท่ากับตัวเดิมที่เคยมีอยู่ ทุกวันนี้ยังวนเวียนอยู่ในกลุ่มท้ายตาราง เอาตัดรอดจากการหนีตกชั้นแบบลุ้นหนักทุกปี

ตอนปิดนี้จะเป็นการรวบรวมรายชื่อเหล่าสตาร์อีก 6 รายด้วยกัน ที่เป็นผลผลิตการปั้นจากอะคาเดมี่ของทีม นักบุญแดนใต้ มีทั้งกลุ่มที่ย้ายออกไปแล้ว กับบางรายที่ยังเลือกฝากอนาคตไว้กับทีมอยู่จนถึงตอนนี้ ปะปนกันไปหลากหลายตำแหน่งเหมือนเคย ซึ่งนับว่าทุกเคสล้วนเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขาได้หมด เพราะใช่ว่าสายตาของโค้ชทีมเยาวชน จะดันเด็กขึ้นไปอยู่กับทีมชุดใหญ่แล้วประสบความสำเร็จทุกรายไป มีหลายตัวอย่างที่ต้องลงเอยด้วยการย้ายไปเล่นลีกระดับล่าง หากแต่ เดอะ เซ้นต์ ถือว่ามีทีมงานคุณภาพที่เชื่อถือได้พอสมควร เลยมีผู้เล่นดีๆ ป้อนเข้าสู่ตลาดนักเตะได้แบบไม่ขาดตอน มาดูไปพร้อมๆ กันเลยว่า พวกเขาเหล่านั้นมีใครกันบ้าง?

เปิดหัวกันที่รายแรก เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง ที่หลายสื่อคาดหมายไว้ว่า เบน ไวท์ จะพัฒนาศักยภาพฝีเท้าไปได้อีกไกล แม้ว่าจะมีรูปร่างที่เป็นรองคนอื่นๆ แต่เรื่องของทักษะการออกบอล การอ่านเกมที่เยือกเย็น รวมไปถึงความสาราะพัดประโยชน์ โยกออกไปเล่นแบ็คขวาก็ได้ ดันขึ้นไปยืนกลางรับก็ผ่านมาแล้ว กลายเป็นจุดขายที่ทำให้ อาร์เซน่อล ตัดสินใจซื้อเขาไปจาก ไบรท์ตัน ด้วยค่าตัวมหาศาล ซึ่งก่อนหน้านี้ ไวท์ เป็นนักเตะเยาวชนของ นักบุญ มาก่อน แล้วก่อนจะเซ็นต์สัญญาอาชีพกัน เจ้านกนางนวล ก็เดินเข้ามาพร้อมข้อเสนอที่เย้ายวนใจนักเตะมากกว่า เลยทำให้เลือกย้ายสังกัดไปแจ้งเกิดกับทีมอื่นแทน

ต่อกันที่แบ็คซ้ายดีกรีทีมชาติอังกฤษ ที่แจ้งเกิดกับ เซาแธมป์ตัน ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 18 ปีเศษ แล้วปรากฏว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจอมหว่านเงิน กล้าที่จะทุ่มข้อเสนอซื้อตัว ลุค ชอว์ ไปร่วมทีมดด้วยราคาระดับรวมๆ 30 ล้านปอนด์ เพราะมองจากระดับฝีเท้าตอนเป็นดาวรุ่งแล้ว นี่คือ วันเดอร์ คิดส์ ที่หาได้ยากในวงการ แม้ว่าช่วงแรก ชอว์ จะต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาลจากโค้ชและแฟนบอล แต่เขาก็พยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยความทุ่มเทเกินร้อยเสมอ ผ่านช่วงเวลาย่ำแย่ที่เจอกับอาการขาหัก กลับมาแล้วดดีกว่าเดิมหลายเท่าตัว ทุกวันนี้ ชอว์ กลายเป็นแบ็คที่มีทักษะฟุตบอลสูงเป็นเบอร์ต้นๆ ของลีก เล่นได้ทั้งรุกและรับอย่างสมดุลย์ รอวันที่จะล่าความสำเร็จเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ถัดมาเป็นคิวของกองกลางพันธุ์ดุไซส์จิ๋วแต่ใจใหญ่เกินตัวอย่าง เดนนิส ไวส์ ที่ก่อนที่เขาจะย้ายไปสร้างชื่อเสียง จนขึ้นแท่นเป็นกัปตันทีมของ เชลซี คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า คัพ อย่างยิ่งใหญ่ ไวส์ เป็นผลผลิตที่น่าภาคถูมิใจอีกหนึ่งเคสของ นักบุญ ที่เคมได้อย่างเต็มปาก แม้ว่าภาพของเขาจะเลือนลาง เพราะกว่าจะมีชื่อเสียงเป็นที่พูดถึง ต้องรอกันจนถึงช่วงที่ย้ายไปเล่นให้กับ วิมเบิลดัน อย่างไรก็ตามโรงเรียนลูกหนังเจ้าแรก ที่ทำให้ ไวส์ มีการเล่นอันทรงประสิทธิภาพ เรียบง่ายแต่ดุดัน ก็ยังคงเป็นโค้ชจากทีม เดอะ เซ้นต์ ที่ฝึกฝนศาสตร์ลูกหนังอันเป็นพื้นฐานให้ใช้งานได้จนจบอาชีพการค้าแข้ง

ต่อมาเป็นดาวเตะอีกหนึ่งราย ที่เคยย้ายทีมด้วยค่าตัวระดับสถิติโลกเช่นกัน แม้ว่าผลงานในช่วงแรกของ แกเร็ธ เบล กับสโมสร เซาแธมป์ตัน จะไม่เข้าตามากนัก เพราะถูกจับไปเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย แต่ต้องชื่นชมทีมงานแมวมอง ที่เห็นศักยภาพของ เบล ว่าวันหนึ่งจะก้าวขึ้นไปเป็นสตาร์ในวงการลูกหนังได้อย่างยิ่งใหญ่ จุดขายของ เบล ที่แฟนบอลต่างทราบกันดี คือ เรื่องของความเร็วอันจัดจ้าน แต่ด้วยการเล่นเกมรับที่ไม่ใช่ของถนัด เลยทำให้ช่วงเวลากับ เดอะ เซนต์ ไม่ค่อยมีอะไรให้จดจำมากนัก ทุกวันนี้ เบล เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จเป็นแชมป์ทุกรายการในระดับสโมสร หลังจากย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ซึ่งตอนนี้แยกทางกันแล้วเป้าหมายต่อไปเป็นการโกยเงินที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแทน

เข้าสู่รายรองสุดท้าย เป็นผู้เล่นสาระพัดประดญชน์ในแนวรับ แม้ว่าชื่อของ คาลัม แชมเบอร์ส อาจไม่สามารถนำไปเทียบชั้นกับผู้เล่นรายอื่นๆ ก่อนหน้านี้ได้ แต่การได้ย้ายไปสังกัดทีมอย่าง อาร์เซน่อล แล้วมีถ้วย เอฟเอ คัพ ติดไม้ติดมือประดับเกียรติประวัติ ถือว่าเป็นนักเตะที่มีคุณภาพดีพอจะเล่นบนลีกสูงสุดแดนผู้ดีได้สบายๆ แม้ว่า แชมเบอร์ส จะมีการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้า สปีดความเร็ววัดกับแนวรุกคู่แข่งได้ยาก แต่เรื่องของการอ่านเกม การออกบอล การตัดบอล ยังเชื่อมือได้ระดับหนึ่ง ปัจจุบันการย้ายไปอยู่กับ แอสตัน วิลล่า เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจสำหรับเจ้าตัว เพราะการเล่นได้หลายตำแหน่งทั้ง กองหลัง และ กองกลาง คงทำให้เขาได้รับการลงสนามมากขึ้น

ปิดท้ายกันที่ขวัญใจคนล่าสุดในถิ่น เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม ที่แม้ว่าจะมีข่าวเชื่อมโยงกับยักษ์ใหญ่หัวตารางหลายทีม แต่ทุกวันนี้ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ยังไม่เลือกทิ้งทีมไปไหน ด้วยศักยภาพรวมๆ ของ วอร์ด พราวส์ ไม่แปลกใจที่ทีมระดับ บิ๊กซิกซ์ จะวนเวียนมาจีบกันจนหัวกระไดไม่แห้ง เพราะมีการเล่นที่หลากหลาย ยืนมิดฟิลด์ตัวกลางได้ ออกบอลระยะสั้นและยาวได้เม่นยำ มีทีเด็ดจากลูกยิงไกล และ ฟรีคิก ที่อันตรายไม่แพ้กัน แฟนบอลนักบุญต่างได้แต่หวังว่า กัปตันทีมรายนี้จะเลือกฝากอนาคตไว้กับทีมแบบยาวๆ แล้วอยู่เป็นตำนานของทีมเหมือน แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ แต่ด้วยความผันผวนของตลาดนักเตะที่คาดเดาอะไรไม่ได้ หากมีข้อเสนอก้อนโตเข้ามา อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอในอนาคต

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้