5 ตัวเต็งกุนซือคนใหม่ “สิงโตคำราม”

ตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษคนต่อไปกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมาก หลังจาก 6 ปีที่ผ่านมา นายใหญ่ปัจจุบันอย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้เลยแม้แต่รายการเดียว และล่าสุดในศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ “สิงโตคำราม” ก็จอดป้ายแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

แม้เมื่อ วันที่ 18 ธันวาคม 2665 สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) เพิ่งตัดสินใจประกาศต่อสัญญากับ เซาธ์เกต ออกจนถึงเดือนธันวาคม ปี 2024 โดยมีภารกิจสำคัญอยู่ที่การลุยศึก ยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมัน นั้น แต่ก็ไม่มีใครกล้ารับประกันได้ว่า อนาคตของเจ้าตัวจะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์

เว็บพนันถูกกฎหมายในเมืองผู้ดี ต่างประโคมข่าวกันอย่างหนักถึงรายชื่อกุนซือคนใหม่ของอังกฤษ และนี่คือ 5 ตัวเต็งที่มีความเป็นไปได้มากๆหาก เซาธ์เกต กระเด็นตกเก้าอี้แบบฟ้าผ่า

1. เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

โปเช็ตติโน่ ปรากฏตัวในรายการ Monday Night Football ของช่อง Sky Sports เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2020 ซึ่งเจ้าตัวดูยิ้มแย้ม และพูดเยอะกว่าตอนที่คุม ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ โดยเวลานั้น หลายคนเข้าใจว่า เขากำลังจะไปรับงานที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และสุดท้ายก็ได้งานในฝรั่งเศสจริงๆ

ในทัวร์นาเมนท์ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ โค้ชชาวอาร์เจนไตน์ รับบทนักวิจารณ์อีกครั้งกับ “บีบีซี” ซึ่งทำให้ถูกเชื่อมโยงอีกครั้งว่า โปเช็ตติโน่ กำลังจะหวันกลับมาคุมทีมข้างสนามอีกหรือไม่ หลังเพิ่งแยกทางกับ เปแอสเช ไปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

โปเช็ตติโน่ ถูกจัดให้เป็นกุนซือลำดับต้นๆของโลกมานานแล้ว โดยก่อนหน้านี้ เจ้าตัวเคยพา สเปอร์ส เข้าถึงรอบชิงฯ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และพา เปแอสเช ประสบความสำเร็จมากาย โดยถึงขนาดถูกยกให้มีฝีมือเทียบเท่ากับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลยทีเดียว

ด้วยชื่อชั้น และฝีมือ บวกกับประสบการณ์เคยทำงานในเมืองผู้ดีมาหลายปี จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ โปเช็ตติโน่ จะกลายเป็นเต็ง 1 ที่จะเข้ามรรับงานต่อจาก เซาธ์เกต

2. โธมัส ทูเคิล

ทูเคิล ไม่มีปัญหาเมื่อพูดถึงการคุมทีมเล่นในฟุตบอลถ้วย โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวไม่เคยพาทีมแพ้ในรอบรองชนะเลิศเลยแม้แต่ครั้งเดียว และล่าสุดเขาเคย เชลซี คว้าแชมป์ยุโรปในปี 2021 มาแล้ว และก่อนหน้านั้น 1 ปี ก็พา เปแอสเช คว้ารองแชมป์ในรายการเดียวกัน

หลังโดน เชลซี ไล่ออกไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โค้ชชาวเยอรมัน ก็กลายเป็นคนว่างงาน และกำลังรอข้อเสนอที่เหมาะสม นอกจากนี้ การทำงานกับ เชลซี ในเมืองผู้ดีมานานกว่า 1 ปี ก็ทำให้เขาแทบไม่ต้องปรับตัวมากนัก

อดีตนายใหญ่ เปแอสเช มีประสบการณ์มากมายในการคุมทีมที่เต็มไปได้ซุเปอร์สตาร์ เขารับมือกับการจัดการทีมขนาดใหญ่ได้แบบสบาย และมีแท็คติคที่ยอดเยี่ยมเสมอในการพาทีมเล่นฟุตบอลถ้วย ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับอังกฤษอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามว่า ทูเคิล พร้อมที่จะอำลาการทำงานในระดับสโมสรที่ได้คุมทีมแข่งแทบทุกสัปดาห์ มาทำงานกับทีมชาติหรือไม่

3. เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

ด้วยรูปแบบการเล่นที่สวยงาม เน้นการครองบอล และสร้างสรรค์เกม รวมถึงด้วยประสบการณ์มากมายในการสร้างทีมจากระดับล่างไปถึงระดับใหญ่ ร็อดเจอร์ส ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับอังกฤษเช่นเดียวกัน

ผลงานของ โค้ชชาวไอร์แลนด์เหนือ กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในปีนี้อาจจะไม่ดีนัก แต่เจ้าตัวก็เคยพาพลพรรค “สุนัขจิ้งจอก” ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ มาแล้ว และเกือบพาทีมไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ

อดีตกุนซือ สวอนซี ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ กลาสโกว์ เซลติก เป็นคนชอบความท้าทายใหม่ๆอยู่เสมอ และด้วยการทำงานที่น่าระทับใจ ร็อดเจอร์ส ก็ปลายเป็นที่ชื่นชอบของสาวก “สิงโตคำราม” ได้ไม่ยาก

4. เอ็ดดี้ ฮาว

ในสมัยที่ยังทำงานกับ บอร์นมัธ นั้น ฮาว เคยได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษมาแล้ว แต่ด้วยประสบการณ์ในเวทีระดับนานาชาติยังไม่มากพอ ตำแหน่งดังกล่าวจึงตกเป็นของ เซาธ์เกต อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

ฮาว ทำทีมด้วยฟุตบอลเกมรุกเร้าใจ ทักษะการจัดการคนก็ยอดเยี่ยม และรับมือในการตอบคำถามกับสื่อได้เป็นอย่างดี เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีไหวพริบ และอย่างที่เห็นกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ตอนนี้ ซึ่งเจ้าตัวไม่จำเป็นต้องมีทีมที่มีสตาร์มากมายเพื่อทำผลงานที่น่าประทับใจ

ปัญหาเดียวคือ งานที่ นิวคาสเซิล ของ ฮาว ยังไม่สมบูรณ์ เจ้าตัวเคยล่าวไว้ในอดีตว่า ไม่อยากอำลาการทำงานแบบวันต่อวันในระดับสโมสรเพื่อไปคุมทีมระดับชาติ ซึ่งชัดเจนว่า เขายังไม่น่าย้ายออกจาก “สาลิกาดง” ในเร็วๆนี้

5. เกรแฮม พ็อตเตอร์

พ็อตเตอร์ อาจเป็นผู้จัดการทีมที่ฉลาดที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษในศตวรรษที่ 21 เลยก็ว่าได้ และเส้นทางอาชีพของเจ้าตัวนั้น ก็ดูน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งตำแหน่งนายใหญ่ “สิงโตคำราม” ก็ดูเหมาะกับเขาพอสมควร

โค้ชวัย 47 ปี เริ่มต้นคุมทีมครั้งแรกกับ ออสเตอร์ซุนด์ ในสวีเดน ก่อนจะกลับมาทำงานในบ้านเกิดกับ สวอนซี จากนั้น ก็ใช้เวลานาน 3 ปี ในสร้างชื่อกับ ไบรท์ตัน โดยทำให้ พลพรรค “นกนางนวล” เปลี่ยนจากทีมหนีตกชั้นที่เล่นด้วยสไตล์โบราณกลายเป็นทีมเล่นบอลเท้าสู่เท้าได้อย่างยอดเยี่ยม 

หลังประสบความสำเร็จกับ ไบรท์ตัน พ็อตเตอร์ ก็โยกไปคุม เชลซี ต่อจาก ทูเคิล เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งงานที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก และเขาก็ต้องรับมือกับความกดดันที่หนักหนาสาหัสพอสมควรเลยทีเดียว

การโยกมารับบทนายใหญ่ทีมชาติอังกฤษของ พ็อตเตอร์ อาจดูเร็วไปหน่อย และเป็นไปได้น้อยมากๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่า โอกาสจะเท่ากับศูนย์ไปทั้งหมด

Scroll to Top