Home บทความฟุตบอล ทำนายความเป็นไปได้ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตามอันดับในตาราง ตอนสอง

ทำนายความเป็นไปได้ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตามอันดับในตาราง ตอนสอง

0
ทำนายความเป็นไปได้ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตามอันดับในตาราง ตอนสอง

ต่อเนื่องจากตอนที่แล้วในคอนเทนต์ ทำนายความเป็นไปได้ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตามอันดับในตาราง ที่นำบทวิเคราะห์จากสื่อต่างประเทศ ที่กำลังมาแรงอย่าง กิฟมีสปอร์ต มาย่อยเป็นประเด็นให้แฟนๆ ได้เสพกันแบบง่ายๆ ด้วยการเปิดหัวกันไปแล้วในอันดับที่ 20-16 ที่สำคัญต่อเรื่องการตกชั้น ตอนที่สองนี้จะขยับเข้ามาในส่วนของทีมระดับกลางตารางของจริง ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องลุ้นกับพื้นที่ยุโรป หรือ การหนีตกชั้นใดๆ เพราะมีเป้าหมายแค่ประคองตัว ตามศักยภาพของทีมที่ต้องยอมรับกันตามตรงว่า แบ่งแยกชั้นวรรณะชัดเจน เนื่องจากงบประมาณการทำทีม มีความแตกต่างกันตามเป้าหมาย

แน่นอนว่าอันดับตอนจบในลีกต่างๆ ที่เป็นลีกใหญ่ ย่อมส่งผลต่อเงินรางวัลที่ได้รับแบบเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าจะไม่มากไม่มาย แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ เงินทุกปอนด์นั้นมีค่ามากกว่าแต่ก่อน ถือว่าเป็นรายได้ที่สามารถนำไปเล่นแร่แปรธาตุได้หลากหลายรูปแบบ ช่วยในเรื่องของการหลีกเลี่ยงการโดนเล่นงาน จากกฏ ไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ เล็กน้อย แล้วยังสามารถต่อยอดในเรื่องของการขายสปอนเซอร์ มาช่วยสนับสนุนทีมด้วยการมอบเงินทุนก้อนใหญ่แลกกับการโฆษณา ถึงแม้ว่าจะไม่ถึงขนาดเป็นผลงานที่น่าจดใจ แต่แฟนบอลที่สนับสนุนทีมกลุ่มนี้ ยังคงพอเบาใจได้บ้าง? ไม่ถึงขนาดต้องมาลุ้นใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ว่าตกหล่นไปลีกรองหรือไม่?

บทความนี้ จะนำเสนอการทำนายของสื่ออย่าง กิฟมีสปอร์ต แบบต่อเนื่อง ในอันดับที่ 15 ไล่เรียงไปถึงอันดับที่ 11 จำนวน 5 ทีมด้วยกัน พร้อมด้วยเหตุผลประกอบที่น่าสนใจว่า เหตุใดถึงคิดว่าศักยภาพของแต่ละทีมจึงไปไกลได้เพียงเท่านี้ มาลุ้นไปพร้อมๆ กันเลยว่า จะมีสโมสรใดที่ตรงใจแฟนๆ บ้างหรือไม่? ข้อมูลสำคัญที่ยกมาเป็นตัวอย่างประกอบ มีความหนักแน่นน่าเชื่อถือมากแค่ไหน?

เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 15 ทางสื่อต่างประเทศเชื่อว่าน้องใหม่อย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรสต์ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา แล้วเลือกที่จะทุ่มเงินการเสริมทัพแบบไม่ยั้ง น่าจะรอดตกชั้น แล้วครองตำแหน่งสูงได้ระดับนี้ เนื่องมาจากผู้เล่นที่พวกเขาได้ตัวมาอย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน, เจสซี่ ลินการ์ด และ ไตโว อโวนิยี่ ทีมยอมจ่ายแพงเพื่อได้ของที่มีคุณภาพ เป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของบอร์ดบริหารในระยะยาวว่า พวกเขาไม่ได้มองแค่การเอาตัวรอดช่วงสั้นๆ แต่หมายมั่นปั้นมือจะผ่าตัดทีม เพื่อยกระดับในระยะยาว แล้วมองข้ามช็อตไปถึงซีซั่นต่อๆ ไป ต่อให้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงมากกว่าทีมอื่นๆ ก็ตาม

ต่อกันที่อันดับที่ 14 สื่อเจ้านี้อาจมีความชื่นชอบที่เอนเอียงเล็กน้อยต่อฝีมือการคุมทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จึงเเลือกฟันธงสวนกระแสนให้ เอฟเวอร์ตัน จบที่ตำแหน่งนี้ การเสียตัวหลักของทีมอย่าง ริชาร์ลิสัน ย่อมส่งผลกระทบต่อทีมมากมายแบบคาดไม่ถึง แต่ตัวผู้เล่นที่นำเข้ามาอย่าง เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, ดไวท์ แม็คนีลล์ และ อิดริสซ่า เกย์ ดีกรีฝีเท้าไว้ใจได้ แล้วจะกลายเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมอย่างรวดเร็วแน่ๆ ไม่ใช่ว่า ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน จะไม่เจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ในการคว้าแต่ละแต้ม อย่างไรก็ตามการเตรียมทีมของ แลมพาร์ด ที่มีระยะเวลามากกว่าปีก่อน คงจะทำให้ผลงานของลูกทีมของเขา กระเตื้องขึ้นมาทีละน้อย จนพอจะเอาตัวรอดได้ดีกว่าเดิมเล็กน้อย

ถัดมาที่อันดับที่ 13 สื่อเจ้านี้ชี้เป้าไปที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ภายใต้การคุมทัพของ บรูโน่ ลาจ เพราะให้เครดิตสูงในการวางแทคติกส์เกมรับ อย่างไรก็ตามปีนี้คงไม่ใช่ซีซั่นที่โรยด้วยกลีบกุหลาบของ หมาป่า เพราะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บของดาวยิงตัวหลักอย่าง ราอูล ฆิเมเนซ เล่นงานตั้งแต่ออกสตาร์ท แต่ด้วยฝีมือที่เขี้ยวของ ลาจ บวกกับการเก็บขุมกำลังตัวหลักไว้ได้ครบ ลูกทีมมีความเข้าใจในแทคติกส์ พร้อมทุ่มเทในการลงสนามแบบเกินร้อย แฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ในถิ่น โมลินิวซ์ กราวน์ คงพอวางใจได้ระดับหนึ่งว่า ทีมรักของพวกเขาจะอยู่รอดต่อไปได้อีกปี ด้วยการจบอันดับที่พอรับได้ แล้วค่อยมาลุ้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงต่อไป

ต่อกันที่อันดับที่ 12 ความจริงแล้ว ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน สามารถจบอันดับใดก็ได้ในสกู๊ปนี้ แต่ด้วยแนวทางการทำทีมที่ชัดเจน ใช้เวลาปลูกฝังแนวทางการเล่นมาหลายปีของ แกรม พ็อตเตอร์ ว่าที่กุนซือทีมชาติอังกฤษในอนาคต คงทำให้แฟนๆ ตื่นตาตื่นใจกันไปใหญ่ แน่นอนว่าการเสียตัวหลักอย่าง อีฟส์ บิซูม่า กองกลางตัวตัดเกมชั้นยอด และ มาร์ค กูกูเรย่า แบ็คซ้ายฝีเท้าเยี่ยมออกไปจากทีม ย่อมทำให้ศักยภาพทีมดด้อยลง อย่างไรก็ตามด้วยระบบการเล่นที่ต่อบอลแบบเท้าสู่เท้า มีความแน่นอน ความเขี้ยวสูง เจ้านกนางนวล นั้นพ้นจากทีมที่จัดดอยู่ในโซนหนีตกชั้นชัดเจนแล้ว เหมือนในปีก่อนที่แสดงให้เห็น

ปิดท้ายกันที่อันดับที่ 11 สื่อเจ้านี้ยังคงเชื่อมั่นในทีมอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยเป็นอดีตแชมป์ลีกสูงสุดมาแล้ว ต่อให้จะเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ไม่สามารถเสริมทัพได้ดั่งใจอยาก เพราะติดเรื่องของกฏการเงินก็ตาม ช่วงนี้แฟนบอล สุนัขจิ้งจอก อาจต้องทำใจล่วงหน้า ไม่สามารถคาดหวังผลงานที่ดี เหมือนการจบอันดับที่ 8 ในฤดดูกาลก่อนได้ เพราะกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนถ่ายขุมกำลัง การจากไปของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายทวารจอมเก๋า แล้วอาจนับรวมถึง ยูริ ตีเลอม็องส์ และ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า เป็นการพิสูจน์ฝีมือการคุมทัพของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อย่างแท้จริง ซึ่งกุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือรายนี้ คงผ่านไปได้แบบไม่น่าห่วง

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้