Home บทความฟุตบอล 10 นักเตะดาวรุ่งที่ย้ายมาด้วยค่าตัวแพงสุดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตอนจบ

10 นักเตะดาวรุ่งที่ย้ายมาด้วยค่าตัวแพงสุดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตอนจบ

0
10 นักเตะดาวรุ่งที่ย้ายมาด้วยค่าตัวแพงสุดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตอนจบ

เข้าสู่ตอนปิดท้ายของคอนเทนต์ 10 นักเตะดาวรุ่งค่าตัวการย้ายแพงที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กันแล้ว แฟนๆ คงได้เห็นรายชื่อของบางราย เป็นการเรียกน้ำย่อยไปแล้วในตอนแรก ซึ่งน่าจะเข้าใจได้ว่า ความแข็งแกร่งของทีมในลีกนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องของศักยภาพผู้เล่นเพียงด้านเดียว แต่สถานภาพด้านการเงินของทีมที่อยู่ในลีกสูงสุด ก็ไว้ใจได้ไม่ต่างกันหากเทียบงบประมาณการทำทีมปีต่อปีกับสโมสรจากลีกชั้นนำอื่นๆ การันตีได้เลยว่า พรีเมียร์ เงินสะพัดมากกว่าแน่นอน

การเสริมทัพของทีมในกลุ่มหัวแถว ที่เป็นแคนดิเดตลุ้นแชมป์ลีก ทุกๆ ซีซั่นไม่มีใครยอมใครมานับสิบๆ ปี แต่อาจมีแนวทางการลงทุนที่ต่างกันไป บางทีมที่มีรายได้จากสปอนเซอร์มากมาย เจ้าของทีมไม่หวังกอบโกยกำไรจนน่าห่วง ย่อมทุ่มงบประมาณให้โค้ชแบบไม่มีเหนียว ส่วนทีมในกลุ่มที่เจ้าของทีมมองถึงเรื่องความคุ้มค่าของแต่ละดีล ต้องมีการคัดกรองผู้เล่นที่เข้าข่ายมาอยู่ในลิสต์ ก่อนประเมินเรื่องของราคาว่าแพงเกินไปหรือไม่? หากมองเรื่องของความเสี่ยงแล้วไม่น่าวัดใจ อาจตัดสินใจเปลี่ยนไปที่เป้าหมายรองๆ หรือไม่ก็เลือกที่จะหันไปหาดาวรุ่งฝีเท้าดี มาปลุปปั้นเอาเองเพื่อเป็นการประหยัดงบ

อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ตลาดนักเตะนั้นบ้าคลั่งเรื่องการเทเงินลงไปหมุนเวียนมากขึ้นเรื่อยๆ แทบไม่เหลือของถูกและดีให้เห็นกันบ่อยๆ ส่วนใหญ่แล้วผู้เล่นที่เริ่มถูกสื่อเล่นข่าว ราคาจะพุ่งทะยานไปไกลกว่าที่ควรจะเป็นหลายเท่า รวมไปถึงเหล่าดาวรุ่งที่จัดว่าเป็น วันเดอร์ส คิด ตัวท็อปของวงการ ทีมงานพร้อมนำเสนอคอนเทนต์เดิมเป็นการปิดท้ายในอันดดับที่ 5 ไล่เรียงไปถึงอันดับที่ 1 ว่า จะมีดาวรุ่งค่าตัวแพงคนไหนติดโผเข้ามาบ้าง? แล้วทีมใดได้ตัวผู้เล่นคนนั้นไปครอง? บทสรุปตอนนี้พวกเขาเหล่านั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง?

เปิดหัวกันที่อันดับที่ 5 ความจริงแล้วค่าตัวเงินต้นของ วิลเลี่ยม ซาลิบา กองหลังที่เป็นผลผลิตจากสโมสร แซงต์ เอเตียนน์ นั้นเท่ากับอันดับที่ 6 รายอื่นๆ เพียงแต่ในเรื่องของโบนัสระยะยาว หลังจากย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล นั้นมีเงื่อนไขที่อาจทำให้ต้องจ่ายเพิ่มเติมในอนาคต เมื่อคว้าตัวดาวเตะรายนี้มาตั้งแต่ปี 2019 อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้สองฤดูกาล ไอ้ปืนใหญ่ มองว่า ซาลิบา ยังไม่พร้อมที่จะลงเล่นในลีกอังกฤษ จึงปล่อยให้ออกไปเก็บประสบการณ์ด้วยสัญญายืมตัว แต่แล้วเมื่อปีก่อนที่ ซาลิบา ระเบิดฟอร์มจนได้รับรางวัล นักเตะดดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำศึกลีก เอิง ปีนี้เลยดดึงตัวกลับมาใช้งานแบบจริงๆ จังๆ แล้วดูท่าว่าจะไปได้สวยทีเดียว

ต่อเนื่องกันที่อันดับที่ 4 เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้า เคยติดทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่ไปแล้วตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี มีองค์ประกอบที่สมบูรณ์เพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว ความแข็งแกร่ง และ การจบสกอร์ที่เฉียบคม ส่งผลให้ มอยเซ่ คีน ถูกทาง เอฟเวอร์ตัน ทุ่มซื้อมาจาก ยูเวนตุส ด้วยราคาสูงถึง 27.5 ล้านปอนด์ แต่เมื่อย้ายมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย การเล่นในทีมที่ไม่เพียบพร้อมเท่าเก่า ส่งผลให้ผลงานของ คีน ไม่โดดเด่นแบบที่ใครๆ คาดไว้ จนต้องถูกปล่อยตัวให้สโมสรอื่นๆ ยืมไปใช้งาน ซึ่งในปัจจุบัน คีน ย้ายไปเล่นให้กับ ม้าลาย อดีตต้นสังกัด แล้วกำลังทำผลงานได้เข้าตาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลังจบซีซั่นนี้ต้องมารอดูกันอีกทีว่า ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน จะขายขาดเขาออกไปหรือไม่?

ถัดมาที่อันดับที่ 3 เป็นดีลการซื้อตัวที่ชาญฉลาดอีกครั้งของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เลือกไปคว้าตัว เวสลี่ย์ โฟฟาน่า แนวรับอนาคตไกลชาวฝรั่งเศส มาจาก แซงต์ เอเตียนน์ ด้วยราคา 30 ล้านปอนด์ในปี 2020 หลังจากดาวรุ่งรายนี้ โชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจให้กับต้นสังกัด ด้วยการลงเล่นไปราว 30 นัด ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งกองหลังหรือกองกลางตัวรับ โดยหลังจากย้ายมาแค่ฤดูกาลแรก โฟฟาน่า ก็มีแชมป์ เอฟเอ คัพ ประดับเกียรติประวัติทันที แถมครองรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสร น่าเสียดายที่ปีก่อนเขาต้องพักรักษาตัวยาวจากอาการขาหัก ซึ่งพอกลับมาลงเล่นได้เต็มสูบแล้วผลงานไม่ต่างจากเดิม เชลซี ก็พร้อมทุ่มเงินกว่า 85 ล้านปอนด์ ดึงตัวไปเสริมทัพ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

มาถึงตำแหน่งรองแชมป์ เป็นการใช้เงินที่ค่อนข้างน่าผิดหวังของสโมสร วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ที่พยายามจะทำทีมไปในแนวทางรวมดาวทีมชาติโปรตุเกส แล้วเลือกที่จะทุ่มเงินราว 35 ล้านปอนด์ เพื่อแลกกับการคว้าตัว ฟาบิโอ ซิลวา กองหน้าวัยแค่ 18 ปี มาจาก เอฟซี ปอร์โต้ ในปี 2020 ทั้งที่นักเตะเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ไปแค่ 12 เกม แน่นอนว่าความเข้มข้นที่ต่างกันของสองลีก ทำให้ ซิลวา ที่มีเพียงแค่พรสวรรค์ที่ยังไม่ได้รับการขัดเกลา ร่างกายที่ยังไม่ตเต็มวัย ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้สมราคา กลายเป็นว่าตอนนี้ หมาป่า ต้องยอมปล่อยให้ อันเดอร์เลชท์ ยืมตัวไปใช้งานเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล เพื่อเรียกความมั่นใจให้กับดาวเตะค่าตัวแพง ก่อนจะกลับมาพิสูจน์ตัวเองกับต้นสังกัดที่แท้จริงอีกครั้ง

ปิดท้ายกันที่ดีลการซื้อดาวรุ่งที่แพงที่สุดของลีกอังกฤษ เป็นการติดต่อพูดคุยกันแบบเงียบๆ ระหว่าง โมนาโก กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็ตกลงกันได้ในปี 2015 ซึ่งเล่นเอาแฟนบอล ปีศาจแดง งงกันไปเป็นแถบๆ ว่า อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าดาวรุ่งวัยแค่ 18 ปี ที่ย้ายมายัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยสนนราคาเบื้องต้น 36 ล้านปอนด์นั้นเป็นใครกันแน่

แถมค่าตัวยังสามารถพุ่งไปแตะ 50 ล้านปอนด์ตามเงื่อนไขในอนาคตอีกต่างหาก แต่พอเกมนัดประเดิมสนามของ มาร์กซิยาล ทุกคนก็ได้คำตอบทันที เพราะเปิดตัวได้ด้วยการยิงใส่ ลิเวอร์พูล คู่อริตลอดกาลแบบสุดสวย หลังจากนั้นฟอร์มของดาวยิงหน้าเฉยก็ขึ้นๆ ลงๆ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องครอบครัวนอกสนาม แถมยังต้องเปลี่ยนตำแหน่งการเล่นจนไม่รู้ว่าตัวเองต้องรับบทบาทไหนกันแน่ สถานการณ์ตอนนี้เหมือนว่า มาร์กซิยาล จะได้รับโอกาสจาก เอริค เทน ฮาก ให้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในซีซั่นนี้ ซึ่งถ้าไม่ผ่านเกณฑ์คงไม่พ้นโดนโละออกไปในอีกไม่ช้าไม่นานแน่นอน

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้