สำหรับ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดในโลกฟุตบอลยุคนี้ เมื่อถึงวันนึงก็ไม่สามารถเอาชนะสังขารของตัวเองได้ ต้องอำลาสนามไปเหมือนกับสตาร์หลายราย ที่เคยสร้างผลงานที่น่าดจำเอาไว้ สัญญาณขาลงของเขาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า มาอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แล้วปรากฏว่า ฟอร์มการเล่นเก่าๆ ไม่ตามติดตัวมาด้วย ล่าสุดเพิ่งจะหลุดรายชื่อนักเตะที่มีลุ้นเข้าชิงรางวัล บัลลงก์ ดอร์ ที่เจ้าตัวเคยคว้ามาแล้ว 7 สมัย ในรอบนับสิบปีแบบน่าเสียดาย

แน่นอนว่าวงการลูกหนัง มีการเตรียมรับเรื่องการผลัดเปลี่ยนยุคเอาไว้เสมอ เห็นได้จากการที่สื่อต่างๆ พยายามสร้างกระแสดันดาวรุ่งฝีเท้าดี เพื่อปั่นให้กลุ่มนักเตะเหล่านั้นมีชื่ออยู่ในกระแสการจับตาจากแฟนบอล แล้วหากว่าพวกเขาเหล่านั้นทำผลงานได้ดี ก็พร้อมจะดันขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ ในการรันวงการลูกหนังต่อจากรุ่นพี่อย่าง เมสซี่ ไม่ให้กระแสนิยมลดลงจากยุคก่อน ซึ่งแบรนด์กีฬาชั้นนำอย่าง อาดิดาส ก็เคยทำโปรเจ็คท์ดันเด็กแบบนี้เช่นกัน เป็นการเปิดตัวรองเท้าซิกเนเจอร์ของ เมสซี่ ในปี 2015 ด้วยการให้ตัวนักเตะที่เจ้าตัวคิดว่าจะประสบความสำเร็จในการค้าแข้งมาสวมใส่รองเท้ารุ่นนี้เหมือนกัน

บทความนี้ พร้อมนำเสนอคอนเทนต์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับนักเตะทั้ง 10 ราย ที่ทาง เมสซี่ เลือกมองจากสายตาของเขาเองว่า มีโอกาสประสบความสำเร็จในการค้าแข้ง แล้วได้รับเลือกให้สวมใส่รองเท้ารุ่น “เมสซี่ฟิฟทีน” ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วกว่า 7 ปี ควรจะอัพเดตว่าแต่ละคนเป็นอย่างไรกันบ้าง? โดยจะขอแบ่งเป็นสองตอน ตอนละ 5 คน เพื่อความยาวที่เหมาะสมในแต่ละคลิปเช่นเคย มาดูไปพร้อมๆ กันเลยว่า 5 คนแรกที่ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์เลือกมาจะเป็นใคร? ปัจจุบันเส้นทางการค้าแข้งของพวกเขาไปได้สวยหรือไม่?

เริ่มต้นกันที่รายแรก เป็นแนวรุกผิวสีวัย 25 ปี ที่ติดทีมชาติไอวอรี่ย์โคสต์ชุดใหญ่ไปแล้ว ซึ่งย้อนกลับไปในปี 2015 เฌเรมี่ โบก้า ยังเป็นนักเตะสังกัดทีม เชลซี ที่ถูกปล่อยตัวให้ แรนส์ ยืมตัวไปใช้งาน แทบไม่เคยได้ลงเล่นให้กับ สิงโตน้ำเงินคราม แบบเป็นจริงเป็นจัง ชีพจรลงเท้าไปเรื่อยเปื่อย ด้วยการถูกส่งให้ทีมเล็กๆ ยืมตัวไปปลุกปั้น กว่าจะได้ย้ายขาดออกมาอยู่กับ ซาสซูโอโล่ ก็ต้องรอจนถึงปี 2018 ล่าสุด โบก้า กำลังยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการย้ายไปเล่นให้กับ อตาลันต้า ทีมในกลุ่มที่มีลุ้นพื้นที่ยุโรป ต้องมาลุ้นกันว่าเขาจะไปได้ไกลมากแค่ไหน?

ต่อกันที่รายที่สอง เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้า อดีตเพื่อนร่วมทีมของ เปาโล ดีบาล่า แจ้งเกิดในสโมสรเดียวกันอย่าง ปาแลร์โม่ ซึ่งทาง เมสซี่ เลือกมอบให้ อักคูร์ซิโอ เบนติเวนญ่า ดาวยิงชาวอิตาลี ได้สวมใส่รองเท้ารุ่นเดียวกันกับเขาในปี 2015 เพราะมองว่าฝีเท้ามีแววก้าวไปได้ไกล อย่างไรก็ตามความหวังดีของ เมสซี่ ไม่ต่างกับการยื่นถ้วยยาพิษให้ดาวรุ่งรายนี้ เบนติเวนญ่า ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงให้กับ ปาแลร์โม่ ได้อย่างต่อเนื่อง แล้วย้ายออกจากทีมในปี 2018 ไปอยู่กับ คาร์ราเรเซ่ ทีมใน เซเรีย บี ล่าสุดเส้นทางการค้าแข้งในวัย 26 ปี กำลังลดระดับตัวเองอีกเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ถอยไปอยู่กับ ยูเว่ สตาเบีย ทีมในศึก เซเรีย ซี แล้ว

ถัดมาที่รายที่สาม เป็นหนึ่งในดาวรุ่งพรสวรรรค์สูงชาวแซมบ้า ที่อยู่ในการครอบครองของ เชลซี ในปี 2015 ตามโปรเจ็คท์ระยะยาวที่วางไว้ สื่อต่างๆ คาดหวังกับศักยภาพในอนาคตของ เคเนดี้ ดาวเตะซ้ายธรรมชาติเป็นอย่างมาก บางเจ้าถึงขนาดมองว่า จะก้าวขึ้นมาเทียบชั้นกับ เมสซี่ ได้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามถึง เมสซี่ จะเห็นตรงกันแล้วเลือกมอบรองเท้าของเขาให้ใส่ แต่เป็นโชคร้ายของ เคเนดี้ ที่เลือกต้นสังกัดผิดพลาด ถูกปล่อยยืมไป 5 ครั้งนับมาจนถึงตอนนี้ แทบไม่ได้รับโอกาสลงเล่นให้กับ สิงโตน้ำเงินคราม จริงๆ จังๆ แบบเต็มซีซั่นเลย ขณะนี้อายุของเขาก็ล่วงเข้าวัย 26 ปีแล้ว คงมองถึงเรื่องการย้ายขาดไปเริ่มต้นใหม่กับทีมอื่นสักที

ต่อเนื่องกันที่รายที่ 4 เป็นดาวเตะสาระพัดประโยชน์ทีมชาติไอวอรี่ย์โคสต์ ที่เล่นได้ทุกตำแหน่งตรงพื้นที่ริมเส้น ตั้งแต่กองหลังยาวมาจนถึงกองหน้า นั่นก็คือ แม็กซ์เวล กอร์กเน่ต์ ซึ่งในปี 2015 กำลังได้รับการจับตามองในวงการฟุตบอลฝรั่งเศส ในฐานะที่เป็นดาวรุ่งฝีเท้าเยี่ยม ที่แจ้งเกิดกับ เม็ตซ์ ก่อนที่จะถูก โอลิมปิก ลียง คว้าตัวไปร่วมทีมแบบเสือปืนไว หลังจากนั้นผลงานของเขาก็อยู่ในระดับทรงๆ ทรุดๆ เหมือนกับต้นสังกัด เพิ่งจะเลือกย้ายมาเล่นในอังกฤษกับ เบิร์นลี่ย์ ทีมก็ดันตกชั้นเสียอีก โชคยังดีที่ผลงานส่วนตัวของ กอร์กเน่ต์ ยังพอจะดึงดูดทีมในลีกสูงสุดได้ แล้วก็เป็นทาง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เพิ่งจะคว้าตัวเขาไปร่วมทีมแบบสดๆ ร้อนๆ

ปิดท้ายกันที่อดีตดาวรุ่งชื่อดังของวงการฟุตบอลรัสเซียอย่าง อเล็กเซย์ มิรานชุค ที่ทาง เมสซี่ มอบรองเท้าให้กับเพลย์เมคเกอร์มากพรสวรรค์รายนีในปี 2015 ขณะที่กำลังแจ้งเกิดกับ โลโคโมทีฟ มอสโก ทีมดังแดนหมีขาว ซึ่งผลงานของ มิรานชุค หลังจากนั้นก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดดีมาโดยตลอด พัฒนาฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ เพียงแต่การเล่นในลีกที่ไม่ได้เจอคู่แข่งที่มีการเล่นที่หลากหลายมิติมากนัก พรสวรรค์ของเขาเลยถูกตั้งคำถามว่าจะดีในการออกมาเล่นนอกรัสเซียหรือไม่? ก่อนจะเป็นทาง อตาลันต้า ที่กล้าเสี่ยง ดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2020 ปรากฏว่า มิรานชุค ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพักฟื้นอาการบาดเจ็บ ผลงานไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แล้วเพิ่งจะถูกปล่อยตัวไปให้กับ โตริโน่ ยืมไปใช้งานเมื่อไม่นานมานี้