Home บทความฟุตบอล 10 นักเตะสุดยอดการเซ็นสัญญาของ อาร์เซนอล ช่วงปี 2010 – 2020

10 นักเตะสุดยอดการเซ็นสัญญาของ อาร์เซนอล ช่วงปี 2010 – 2020

0
10 นักเตะสุดยอดการเซ็นสัญญาของ อาร์เซนอล ช่วงปี 2010 – 2020

ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ทีมยักษ์หลับสนิทไม่ยอมตื่นจากกรุง ลอนดอน ประเทศ อังกฤษ โลดแล่น พรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของ อังกฤษ มาอย่างยาวนาน เป็นทีมที่มีเกียรติประวัติและถ้วยแชมป์อย่างมากมาย เคยสร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้าแชมป์ไร้พ่ายในฤดูกาล 2003/2004 ซึ่งเป็นสมัยสุดท้ายของสโมสรจวบจนปัจจุบัน เคยมีแข้งสตาร์ชื่อคุ้นหูหลายรายตบเท้าเข้ามาร่วมทีมพร้อมร่วมสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ให้กับสโมสรในถิ่นลอนดอนเหนืออย่างมากมาย โดยวันนี้ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นชาว กันเนอร์ส คนหนึ่งที่รักสโมสรแห่งนี้อย่างสุดหัวใจ ได้ทำการรวบรวม 10 นักเตะสุดยอดการเซ็นสัญญาของสโมสร อาร์เซน่อล ในช่วงปี 2010 ถึงปี 2020 ปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคที่หลายท่านน่าจะพอจำกันได้ โดยนักเตะที่ผู้เขียนได้จัดอันดับนั้น อ้างอิงจากความสม่ำเสมอของผลงานการลงเล่นในสนาม การเป็นส่วนสำคัญของทีมและความคุ้มค่าของราคา ฝีเท้า เป็นหลัก ส่วนจะเป็นนักเตะคนไหนบ้าง จะตรงใจท่านผู้อ่านหรือไม่ เชิญอ่านและร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้เลยครับ

10. กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (Gabriel Martinelli) ศูนย์หน้า ดาวรุ่ง วัย 18 ปี
Photo : Arsenal

ศูนย์หน้าวอนเดอร์คิด วัย 18 ปี สัญชาติ บราซิล เชื่อสาย อิตาลี ถูกซื้อตัวมาในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ด้วยราคาประมาณ 6 ล้านปอนด์ จาก อิตูเอโน สโมสรในลีกบราซิล จากความเห็นชอบของ อูไน เอเมอรี่ กุนซือคนเก่าของ อาร์เซน่อล ที่ทิ้งไว้ให้เป็นมรดก ถือว่าเป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญายอดเยี่ยมคนหนึ่งของสโมสร เพราะย้ายมาในฤดูกาลแรกก็สามารถโชว์ฟอร์มสุดปังให้ทัพ “ปืนใหญ่“ได้ในทันที โดยลงเล่นไปแล้ว 26 นัด พังประตูไป 10 ประตู ด้วยกัน พร้อมสร้างสถิติ เป็นหนึ่งในผู้เล่นอายุไม่ถึง 20 ปีที่ทำประตูสูงสุดใน 5 ลีกยักษ์ใหญ่ของยุโรปได้ในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวมีความเร็วและมีความเฉียบคมในการทำประตูอย่างมาก ยิงก็ดี โหม่งก็ได้ ล่าสุดในช่วงล็อกดาวน์ เจ้าตัวเผยภาพความฟิตของร่างกายที่ดูแข็งแกร่งขึ้นไปอีกจากตอนที่ย้ายมาดูผอมบางไปหน่อย ยิ่งได้รับโอกาสลงเล่นในสนาม ยิ่งเล่นได้ดีจน โรนัลดินโญ่ เพย์เมกเกอร์ตำนานทีมชาติบราซิล ยังเอ่ยปากชมว่า “มาร์ตี้” มีลีลาการเล่นคล้าย โรนัลโด้(บราซิล) ในช่วงวัยเดียวกัน รวมถึง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ หงส์แดง ยังเอยปากชมว่าอยากได้ตัวไปร่วมทัพ เรียกได้ว่าเส้นทางการค้าแข้งของเจ้าตัวมีอนาคตสดใสอย่างมาก สำหรับหนุ่มน้อย วัย 18 ปีรายนี้ มีสัญญากับอยู่โยงในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ถึงปี 2024 แฟนปืนใหญ่อย่างพวกเราก็ได้แต่หวังว่า เขาจะสามารถระเบิดฟอร์มเป็นตัวหลักอยู่โยงกับ อาร์เซน่อล ไม่ย้ายทีมออกไปไหน

เหล่าพลพรรค เดอะ กันเนอร์ส หวังว่าเจ้าหนู “มาร์ตี้“จะโชว์ฟอร์มสุดยอดอย่างสม่ำเสมอ ไม่เจ็บและไม่ย้าย
Photo : forbes
เช็คฟอร์มเจ้าหนู มาร์ติเนลลี่ ในฤดูกาลนี้

9. แบรนด์ เลโน่

แบรนด์ เลโน่ (Bernd Leno) จอมหนึบของ วัย 28 ปี
Photo : Inter News Cast

นี่คือผู้รักษาประตูรายเดียวที่ติดในท็อปลิสต์นี้ อาร์เซน่อล ในยุคการคุมทัพของ อูไน เอเมรี่ กุนซือชาวสเปน อันเป็นที่รักของแฟนบอล ได้เซ็นสัญญาคว้าตัว แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตู ทีมชาติเยอรมัน จากทีม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในเดือนมิถุนายน ปี 2018 ปัจจุบันอายุ 28 ปี ยังมีสัญญาอยู่กับทีมถึงปี 2023 นับตั้งแต่ย้ายมาเจ้าตัวสามารถโชว์ฟอร์มหนึบสุดประทับใจ แม้จะมีความผิดพลาดส่วนตัวบ้างบางนัดก็ตาม โดยเฉพาะฤดูกาลนี้ที่เป็นฤดูกาลที่ 2 ของเจ้าตัว เลโน่ ช่วยเซฟประตูสำคัญให้กับ “ปืนใหญ่” ได้หลายลูก แถมบางนัดเซฟจนมือแทบมีแสงออกมาแล้ว สถิติปัจจุบันของ เลโน่ ลงสนามทั้งหมด 66 นัด เสียไป 83 ประตู เก็บคลีนชีทได้เพียงแค่ 17 นัดเท่านั้น ซึ่งสถิติอาจจะดูไม่ค่อยดีนัก แต่หากได้ชมฟอร์มของเจ้าตัวทุกนัดและได้เห็นฟอร์มกองหลังของทีม ปีนใหญ่ ที่ชอบปั้นมือกาวจนมือพองชาวเยอรมัน รายนี้ ก็พูดได้เต็มปากว่า “เขาทำดีที่สุดแล้ว” แม้แต่ตำนานผู้รักษาประตูของ อาร์เซน่อล อย่าง เดวิด ซีแมน ยังออกมากล่าวชมเจ้าตัว ว่าเป็นผู้รักษาที่มีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม เซฟลูกยากให้เป็นลูกง่าย รวมถึง เอียน ไรท์ ตำนานกองหน้าของทีม ยังกล่าวว่า เลโน่ ควรได้รับเครดิตมากกว่านี้ โดยยกให้เหนือกว่า ปีเตอร์ เช็ค นายทวารสัญชาติ เช็ก ที่ย้ายเข้ามาร่วมทีม อาร์เซน่อล ในปี 2015 ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีกว่าตั้งแต่เขาย้ายเข้ามาก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มสุดหนึบเหมือนที่เคยทำได้กับ เชลซี อีกเลย ยังไงก็ตามก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่าเจ้าตัวจะรักษาฟอร์มที่ดีแบบนี้ต่อไปในช่วงสัญญาที่เหลือได้หรือไม่ แล้วก็ต้องขอบคุณ อูไน เอเมรี่ อีกครั้งที่เลือกเซ็นสัญญาผู้รักษาประตูชั้นเยี่ยมรายนี้เป็นมรดกของทีมก่อนถูกปลดออกไป

แบรนด์ เลโน่ คงกล่าวในใจว่า “ไม่ต้องปั้นกันขนาดนี้ก็ได้”
Photo : Give Me Sport
ฟอร์ม แบรนด์ เลโน่ ที่เซฟอุตลุดให้กับ “ปืนใหญ่

8. โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

อลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (Olivier Giroud)ศูนย์หน้า ฉายา “หล่อเหลา” อดีตนักเตะ อาร์เซน่อล ย้ายร่วมทีมปี 2012
Photo : Independent

กองหน้าดีกรีแชมป์โลกสมัยล่าสุด ชาว ฝรั่งเศส ก็ติดในลิสต์นี้เช่นกัน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ในวัย 25 ปี ในขณะนั้น ย้ายมาจาก มงต์เปลลิเย่ร์ ที่เขาพาทีมได้แชมป์ ลีกเอิง ฝรั่งเศส พ่วงตำแหน่งดาวซัลโว ในฤดูกาล 2011/2012 มาร่วมทีม อาร์เซน่อล ในช่วงซัมเมอร์เมื่อปี 2012 ด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร ในสมัยที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือตำนานของทีมคุมบังเหียนอยู่ ชิรูด์ ในช่วงที่ค้าแข้งกับค่าย ปืนใหญ่ เขาเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าที่มีความสามารถอย่างสูงในการพักบอล ยืนค้ำในแนวรุก ต่อบอลร่วมกับแดนกลาง โหม่งเก่ง มักทำประตูสวยๆให้กับทีมได้เสมอ โดยเจ้าตัวได้รางวัล ปุสกัส อวอร์ด จากการทำประตูสุดสวยให้กับ อาร์เซน่อล ในปี 2017 แต่ก็มีความเชื่องช้าและขาดความเฉียบคมในการทำประตูหลายครั้ง ชิรูด์ มักจะโดนประเมิณค่าต่ำไปจากความสามารถไปหน่อย เนื่องจากในอดีตกองหน้าของ อาร์เซน่อล มีแต่ระดับพระกาฬทั้งนั้น รวมไปถึงกองหน้าที่ดาวยิงท่ายากที่ย้ายเข้ามาแทนที่ กองหน้าตัวเก่าของทีมอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ ที่ฟอร์มดีฤดูกาลเดียวก็ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ถ้าดูจากสถิติทั้งหมดการลงสนามทั้งหมดของเจ้าตัว ก็นับว่าเป็นสถิติที่ไม่เลวร้ายเลย โดยลงเล่นทั้งหมด 253 นัด ยิง 105 ประตู และแอสซิสต์ให้เพื่อนไป 41 ลูกด้วยกัน พร้อมมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 3 สมัย และ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชีลด์ 3 สมัย ด้วยกัน ในช่วงปีหลังเขาไม่ได้รับโอกาสเป็นตัวจริงมากนัก ส่วนมากถูกส่งลงเป็นตัวสำรอง แต่ก็ยังทำผลงานช่วยทีมได้เสมอ ก่อนที่เดือนมกราคม ปี 2018 เขาถูกขายไปให้กับ เชลซี อริร่วมเมืองลอนดอน ด้วยราคา 18 ล้านปอนด์ เป็นเวลาเกือบ 6 ปีที่กองหน้าฉายา “หล่อเหลา” ลงเล่นให้ อาร์เซน่อล ถือว่าเขาสอบผ่านในด้านอายุการใช้งานและผลงานที่ดี แถมราคาก็ไม่แพงเลย (ช่วงนั้น อาร์เซน่อล ไม่มีนโยบายทุ่มซื้อนักเตะในราคาแพงหรือเรียกสั้นๆว่า “ขี้เหนียว“) จึงเป็นเหตุผลที่เราเลือก โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ติดอยู่ในอันดับที่ 8 ของลิสต์นี้

อลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (Olivier Giroud) ฉลองแชมป์ เอเอฟ คัพ ปี 2014 ซึ่งเป็นแชมป์ถ้วยนี้ในรอบ 9 ปีของสโมสร ก่อนที่จะคว้าถ้วยนี้อีกครั้งในปีถัดมาและปี 2017
Photo : The Sun
รวมทุกประตูที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ยิงให้กับ อาร์เซน่อล

7. ซานติ กาซอร์ล่า

ซานติ กาซอร์ล่า (Santi Cazorla) มิดฟิลด์โคตรเทคนิค ขวัญใจชาว กันเนอร์ส
Photo : Bleacher Report

มิดฟิลด์ตัวกลางร่างเล็ก ชาวสเปน ส่วนสูง 165 เซนติเมตร ย้ายจาก มาลาก้า ทีมจากลีกสเปนมาร่วมทัพ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ ในปี 2012 หลังจากมีส่วนช่วยให้ทีมชาติสเปน คว้า แชมป์ฟุตบอลยูโร ในปีนั้น นี่คืออีกหนึ่งนักเตะการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ยอดกุนซือตำนานของทีมในขณะนั้น มิดฟิลด์ทักษะสูงรายนี้ สามารถเล่นได้ทั้งสองเท้า ผ่านบอลอย่างแม่นยำ ยิงไกลดีและมีความสามารถในการเล่นลูกตั้งเตะ มีเทคนิคและความสามารถเฉพาะตัวครบเครื่อง มีฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ย้ายมาก็ยึดเป็นตัวหลักได้ตลอดและเป็นที่รักของชาว กันเนอร์ส อย่างสูง แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างยิ่งที่เขามักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการรักษาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าอย่างเรื้อรัง จนไม่สามารถลงสนามได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะปลายปี 2016 ถึง 2017 ที่เขาได้รับการเข้าผ่าตัดข้อเท้านับ 10 ครั้ง ทำให้ไม่สามารถลงสนามให้กับ “ปืนใหญ่” ได้อีกเลย ก่อนที่ช่วงซัมเมอร์ปี 2018 เขาไม่ได้รับการต่อสัญญาทีมและถูกปล่อยออกออกแบบฟรีเอเย่นต์ แต่ก็เป็นทางสโมสร บียาเรอัล สโมสรสมัยที่เจ้าตัวเริ่มโด่งดัง รับตัวกลับไปค้าแข้งที่บ้านเกิด และทำผลงานได้ดีจนก้าวไปติดทีมชาติสเปนอีกครั้ง แม้มีอายุถึง 35 ปีแล้วก็ตาม แต่ยังคงค้าแข้งให้กับ “เรือดำน้ำสีเหลือง” จนถึงปัจจุบัน ไฮไลท์ที่น่าจดจำของเขาคือ ยิงฟรีคิกใส่ ฮัลล์ ซิตี้ ไล่ตีเสมอ 1-2 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ในปี 2014 และรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในนัดชิงเอฟเอ คัพ ปี 2015 สำหรับความสำเร็จของ กาซอร์ล่า กับ อาร์เซน่อล เจ้าตัวได้สัมผัสถ้วยแชมป์ เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชีลด์ 2 สมัยด้วยกัน ลงสนามให้กับ อาร์เซน่อล ทั้งหมด 180 นัด ยิงได้ 29 ประตู แอสซิสต์ให้เพื่อน 45 ลูก แฟนบอลต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเสียดายมิดฟิลด์ชาวสเปนรายนี้เหลือเกินที่เขาต้องบาดเจ็บอย่างหนัก ไม่อย่างนั้นอาจช่วยสโมสรได้มากกว่านี้แน่นอน แต่อย่างไรก็ตามมีข่าวดีให้แฟนปืนได้ชื่นใจว่าเจ้าตัวอยากกลับมาเล่นให้ อาร์เซน่อล อีกครั้ง แต่อาจจะเป็นนัดพิเศษ ซึ่งผู้เขียนนับถือหัวใจของ กาซอร์ล่า ที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคกับปัญหาอาการบาดเจ็บกลับมาค้าแข้งได้อีกครั้ง

ซานติ กาซอร์ล่า มุมกวนๆกับการฉลองแชมป์ เอฟเอ คัพ ปี 2014
Photo : Daily Mail
รวมโมเมนต์ของเขากับ 6 ปี ในถิ่น อาร์เซน่อล

6. นาโช่ มอนเรอัล

นาโช่ มอนเรอัล (Nacho Monreal) แบ็คซ้าย เซ็นสัญญากับ อาร์เซน่อล วันที่ 31 มกราคม 2013
Photo : Arsenal

นี่คือหนึ่งแข้งที่โชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอมากที่สุดในลิสต์นี้และถูกประเมินความสามารถต่ำกว่าความเป็นจริง โดยแบ็คซ้ายหน้าคล้าย ปีเตอร์ เคร้าช์ รายนี้ เซ็นสัญญามาร่วมทัพ อาร์เซน่อล ในเดือนมกราคมปี 2013 ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร จากสโมสร มาลาก้า ทีมเดียวกับ กาซอร์ล่า นั่นเอง นาโช่ มอนเรอัล ตลอดที่ลงเล่นให้กับ “ปืนใหญ่” เขาทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอและเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นยุคการคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ หรือ อูไน เอเมอรี่ แม้ไม่มีความเร็วมากนัก แต่ก็มีจุดแข็งคือเกมรับที่แข็งแกร่ง มีความสามารถในการเข้าสกัดบอลได้เป็นอย่างดี ไล่บี้คู่แข่งไม่มีหยุด มีการสอดขึ้นมาทำประตูได้อีกด้วย ในฤดูกาลหลังๆ เจ้าตัวก็ได้ลงเล่นเป็นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คจำเป็น แต่ก็ยังทำผลงานได้ดี โดยค้าแข้งกับ “ปืนใหญ่” ถึง 6 ปีครึ่ง ก่อนย้ายออกไปเล่นในลีกบ้านเกิดกับ เรอัล โซเซียดาด ในวันที่ 31 สิงหาคม 2019 ด้วยค่าตัวเพียง 250000 ยูโร เนื่องจากต้องการกลับบ้านเกิด ปิดฉากการค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล ด้วยอายุ 33 ปี ลงสนามทั้งหมด 251 นัด ยิงได้ 10 ประตูและแอสซิสต์ให้เพื่อน 20 ลูก โดยเป็นหนึ่งในนักเตะที่อยู่ในชุดแชมป์ เอฟเอ คัพ 3 สมัย และ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชีลด์ 3 สมัยด้วยกัน ด้วยผลงานที่ดีเกินชื่อเสียงแบบนี้ นาโช่ มอนเรอัล สมควรได้รับความชื่นชมเป็นอย่างยิ่งและน่าเสียดายที่เขาน่าปิดฉากอาชีพการค้าแข้งโดยการแขวนสตั๊ดกับ อาร์เซน่อล

นาโช่ มอนเรอัล ฉลองแชมป์เอฟเอ คัพ ปี 2015 กับ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือที่นำเข้าแบ็คซ้ายรายนี้ร่วมทีม
Photo : Peddy Power News
ปลอกแขนกัปตันทีมก็สวมมาแล้วกับแบ็คซ้ายมากประสบการณ์รายนี้
Photo : Telegraph
เรื่องราวของเขากับ อาร์เซน่อล

5. แพร์ แมร์เตซัคเกอร์

แพร์ แมร์เตอร์ซัคเกอร์ (Per Martesacker) เซ้นเตอร์แบ็ค ร่างยักษ์ ย้ายมาร่วมทีม อาร์เซน่อล ในวันที่ 31 สิงหาคม 2011
Photo : Sports Keeda

หลังจากที่ อาร์แซน เวนเกอร์ พาลูกทีมบุกไปพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด อย่างหวุดหวิด(เหรอ?) ด้วยสกอร์ 2-8 ในวันที่ 28 สิงหาคม 2011 ไม่กี่วันหลังจากนั้น กุนซือชาวฝรั่งเศส ได้ทำการบุกตลาดคว้านักเตะมาร่วมทีม ถึง 5 รายในวันสุดท้ายของของการซื้อขาย เพื่อผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ หนึ่งในนั้นคือ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ เซ็นเตอร์แบ็ค ร่างยักษ์ส่วนสูงถึง 198 เซนติเมตร ทีมชาติเยอรมัน ที่มีอายุ 26 ปี ในขณะนั้น จากสโมสร แวร์เดอร์ เบรเมน ด้วยค่าตัว 11.3 ล้านยูโร โดยนับตั้งแต่ที่ย้ายเขามาก็สามารถยึดเป็นตัวหลักของแผงหลัง “ปืนใหญ่” มาโดยตลอด โดยไฮไลท์สำคัญของเจ้าตัวคือ การโหม่งทำประตูให้ทีมไล่ตีเสมอ วีแกน แอตแลนติก 1-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนที่ทีมจะชนะจุดโทษ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศพบกับ ฮัลล์ ซิตี้ และก้าวเป็นแชมป์ เอฟเอ คัพ ใน ปี 2014 ได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็ติดทีมชาติเยอรมัน ชุดลุยฟุตบอลโลกปี 2014 พร้อมกับช่วยทีมชาติคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้อย่างยิ่งใหญ่ สำหรับสถิติการลงสนามของเจ้าตัวทั้งหมดกับ อาร์เซน่อล ลงเล่นไป 221 นัด ทำได้ 10 ประตู แอสซิสต์ให้เพื่อน 4 ลูก พร้อมเป็นหนึ่งในนักเตะที่ช่วยพาทีมได้แชมป์ เอฟเอ คัพ 3 สมัย และ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชีลด์ 3 สมัย ด้วยกัน ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดกับทีมปืนใหญ่ในปี 2018 พร้อมกับก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าอคาเดมี่ชุดเยาวชนของสโมสร อาร์เซน่อล หลังจากนั้นได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในผู้ช่วยของ เฟรดริก ลุงเบิร์ก ผู้จัดการทีมชั่วคราวในปลายปี 2019 เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนจะกลับไปรับตำแหน่งเดิม หลังจากการมาของ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นอดีตผู้เล่นที่ถูกซื้อตัวเข้ามาร่วมทีม อาร์เซน่อล ในวันเดียวกันอีกด้วย ด้วยผลงานทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน นี่เป็นเหตุผลที่ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ อดีตปราการหลังร่างโย่งคนนี้สมควรติดในท็อปลิสต์นี้อย่างไม่ต้องสงสัย

แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ฉลองแชมป์ถ้วยเอเอฟ คัพ ปี 2017 ซึ่งเป็นแชมป์ใบสุดท้าย ก่อนที่เขาจะแขวนสตั๊ดกับทีมในปี 2018
Photo : AP News
แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ กับบทบาทหัวหน้าอเคเดมี่เยาวชนกับ อาร์เซน่อล
Photo : twitter.com/mertesacker
ประตูนี้ของเจ้าตัวช่วยให้ อาร์เซน่อล ตีเสมอ วีแกน 1-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในศึก เอฟเอ คัพ ปี 2014

4. โลร็องต์ กอสซิแอลนี่

โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ (Laurent Koscielny) เซ้นสัญญาร่วมทีม อาร์เซน่อล ปี 2010
Photo : Not Bottom Line

อีกหนึ่งสุดยอดนักเตะที่ถูกเซ็นสัญญาเข้ามาจากสายตาอันเฉียบคมของ อาร์แซน เวงเกอร์ โดย กอสซิแอลนี่ เซ็นสัญญาร่วมทัพปืนใหญ่ในปี วันที่ 7 กรกฎาคม ปี 2010 ในวัย 24 ปี ด้วยราคาประมาณ 8.5 ล้านปอนด์ จากสโมสร ลอริยองต์ ทีมสโมสรในประเทศ ฝรั่งเศส ตั้งแต่ที่เจ้าตัวย้ายมาก็ได้รับโอกาสลงเล่นพอสมควรในฤดูกาลแรก ซึ่งยังทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก โดยฝันร้ายของเขาในฤดูกาลแรกคือนัดชิง คาร์ลิ่ง คัพ (แคปปิตอล วัน คัพ ในปัจจุบัน) เจ้าตัวสกัดบอลวืดในเขตโทษ จนทำให้ทีมเสียประตูและแพ้ต่อ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ อดคว้าถ้วยนี้อย่างชอกช้ำ แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็พัฒนาฟอร์มการเล่นจนก้าวกระโดดยึดเป็นกองหลังตัวหลักของทีมและติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ได้สำเร็จ พร้อมกับทำผลงานในแนวรับของปืนใหญ่ได้อย่างสม่ำเสมอ จุดเด่นของเจ้าตัวคือแม้จะตัวเล็กกว่าเซ็นเตอร์แบ็ครายอื่น เขาสูงเพียง 185 เซนติเมตร แต่เขามีความแข็งแกร่งในการเข้าประทะ เข้าสกัดได้อย่างแม่นยำ เล่นลูกโหม่งได้ดีและสามารถทำประตูให้กับทีมได้อีกด้วย แนวรับดูอุ่นใจมากขึ้นเมื่อมีเข้ายืนอยู่ในตำแหน่งนี้เสมอ มีส่วนช่วยให้ทัพปืนใหญ่คว้าแชมป์เอฟเอคัพ 3 สมัยและเอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชีลด์ 3 สมัย โดยเฉพาะนัดชิง เอฟเอ คัพ ในปี 2014 เจ้าตัวทำประตูตีเสมอให้กับทีมได้สำเร็จ ก่อนในช่วงต่อเวลาพิเศษจะสามารถเบียดชนะ ฮัลล์ ซิตี้ คว้าแชมป์ได้มาครองได้สำเร็จ แต่ในช่วงฤดูกาลท้ายๆที่เขาอยู่กับทีม ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น เขามักมีปัญหาอาการบาดเจ็บคอยรบกวน โดยเฉพาะนัดที่เขาช่วยทีมบู๊กับสโมสร แอตเลติโก มาดริด ในศึกฟุตบอล ยูโรป้า ลีก เขาได้รับบาดเจ็บหนักปิดเทอมยาวจนพลาดมีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศสไปแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2018 ซึ่งปีนั้นฝรั่งเศสสามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ ผลงานการลงสนามของ กอสซิแอลนี่ ลงเล่นทั้งหมด 353 นัด ทำประตูไป 27 ประตูและแอสซิสต์ให้เพื่อน 5 ลูก ก่อนที่จะย้ายแบบงงๆฉีกเสื้อปืนใหญ่กลับบ้านเกิดไปกับสโมสร บอร์กโดซ์ ปิดฉากการค้าแข้งกับอาร์เซน่อลที่ 9 ปี โดยรวมถือว่า โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ คุ้มค้าอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะก่อนที่เขาจะย้ายมาแฟนบอลต่างถามว่าหมอนี่คือใครกัน แต่จากผลงานทั้งหมดแล้วถูกคนต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คชั้นเยี่ยมที่เคยมีมาของสโมสร อาร์เซน่อล

โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ฤดูกาลสุดท้ายของเขากับอาร์เซน่อล ปี 2019
Photo : Ronaldo.com
เรื่องราวทั้งหมดของเขาในสีเสื้อ อาร์เซน่อล

3. อเล็กซิส ซานเชส

อเล็กซิส ซานเชส (Alexis Sanchez) เซ็นสัญญาร่วมทีม อาร์เซน่อล เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ปี 2014
Photo : Arsenal

สตาร์ที่ถูกเซ็นเข้ามาเป็นรายที่ 2 หลังจากการเปลี่ยนนโยบายการเสริมทัพนักเตะในยุคของ อาร์แซน เวงเกอร์ ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ จาก บาร์เซโลน่า ในวัย 25 ปี เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ปี 2014 ตั้งแต่ที่ย้ายเข้ามาเขาก็เป็นตัวหลักทางด้านกราบซ้ายในแนวรุกของทีม พร้อมกับโชว์ฟอร์มได้อย่างจี๊ดจาดสะใจจนเป็นขวัญใจ เดอะ กันเนอร์ส อย่างรวดเร็ว นัดไหนขาดเขาเหมือนขาดใจ เขาเล่นเข้าขากับ เมซุต โอซิล เพย์เมกเกอร์ของทีมเป็นอย่างมาก ผลงานฤดูกาลแรกสุดปังเป็นอย่างมาก ทั้งยิงทั้งจ่ายช่วยทีมแบกทีมจนหลังหักได้หลายต่อหลายนัด จนทำให้ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกอังกฤษประจำฤดูกาลปี 2014/2015 จากการโหวตของแฟนบอล ในช่วงที่เขาค้าแข้งกับปืนใหญ่ ผลงานส่วนตัวกับทีมชาติชิลี เขาพาทีมชาติบ้านเกิดคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา 2 ปีติดในปี 2015 และ 2016 หลังจากนั้นฤดูกาลต่อๆมาเขาก็ลงเล่นและโชว์ฟอร์มได้ดี เป็นความหวังกับทีมมาโดยเสมอ โดยความสำเร็จของเจ้าตัวกับ อาร์เซน่อล เขาพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัยและ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชีลด์ 3 สมัย ในฤดูกาลปี 2016/2017 เขาทำประตูในลีกถึง 24 ประตูรั้งตำแหน่งอันดับ 3 จากดาวซัลโวสูงสุดในปีนั้น ก่อนที่เดือนมกราคมปี 2018 ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนมุ่งมั่นและต้องการประสบความสำเร็จที่ “ปืนใหญ่” ให้เขาไม่ได้ จึงตัดสินใจย้ายตัวไปร่วมทีมอริอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สลับขั้วกับ เฮนริค มคิทาร์ยาน ซึ่ง อเล็กซิส ซานเชส ที่แฟนบอลปืนใหญ่ในประเทศไทย ตั้งชื่อฉายาว่า “ชายน้อย” ก็ได้ประสบความสำเร็จอย่างตั้งใจ โดยการได้เป็นนักเปียโนมืออาชีพ อย่างที่ได้เห็นกัน อเล็กซิส ซานเชส ฝากผลงานการลงสนามกับ อาร์เซน่อล ยิงประตู 80 ประตูกับแอสซิสต์ให้เพื่อน 45 ลูก จากการลงสนามทั้งหมด 166 นัด ผลงานของเขา 4 ปี กับ อาร์เซน่อล นับว่าคุ้มค่าเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างยิ่ง เสียดายถ้าหากเขายังค้าแข้งอยู่กับปืนใหญ่ เขาจะติดอันดับที่ 1 ของลิสต์นี้อย่างแน่นอน

เจ้าตัวเป็นคนสำคัญที่พาปืนใหญ่ คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ 2 สมัย
Photo : Mirror
รวมทุกประตูที่เขาทำได้กับอาร์เซน่อล

2. เมซุต โอซิล

เมซุต โอซิล(Mesut Ozil) และ อาร์แซน เวงเกอร์ (Arsene Wenger) ในปี 2013
Photo : Mirror

นักเตะผู้นี้คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงนโนบายในใช้งบประมาณการทุ่มซื้อนักเตะของ อาร์เซน่อล จากการเซ็นสัญญานักเตะรายนี้ของ อาร์แซน เวงเกอร์ โดย เมซุต โอซิล ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาอยู่กับ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์ ด้วยวัย 24 ปี ในขณะนั้น ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ปี 2013 เป็นสถิติค่าตัวสูงสุดของปืนใหญ่ในเวลานั้น ซึ่งการย้ายมาของเขาเป็นที่ฮือฮาในวงการฟุตบอลของทั่วโลกเป็นอย่างมาก จนได้รับนิยามว่า “ตัวเดียวเสียวทั้งลีก” เพียงแค่ฤดูกาลแรกเขาก็เป็นแรงขับเคลื่อนพาให้ทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จซึ่งเป็นแชมป์แรกที่ได้รอบเกือบ 10 ปีของสโมสรอีกด้วย แถมผลงานส่วนตัวกับทีมชาติ เขาคือ 1 ใน 23 นักเตะ ที่พาทีมชาติ เยอรมัน คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกอย่างยิ่งใหญ่ในไป 2014 ด้วยสายตาอันแหล่มคมและทักษะการจ่ายบอล เขาสามารถช่วยทีมได้อย่างต่อเนื่องและมีพลังแฝงที่ทำให้นักเตะหลายคนในทีมมีความกระตือรือร้นที่จะโชว์ฟอร์มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลที่ 2015/2016 เจ้าตัวแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูได้ถึง 19 ลูก โดยเขามีสถิติแอสซิตส์ 50 ลูกไวที่สุดในพรีเมียร์ลีกก่อนที่จะโดน เควิน เดอ บรอยน์ ตัวรุก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำลายสถิตินี้ลงได้ แต่ก็อย่างที่เห็นกันว่าเขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มสม่ำเสมอให้กับทีมได้เท่าไหร่ บทจะเด่นก็เด่นมาก บทจะจางก็หายไปจากเกมดื้อๆเสียอย่างนั้น แถมช่วงในยุคการคุมทีมของอูไน เอเมอรี่ กุนซือชาวสเปน ขวัญใจชาวพลพรรคปืนใหญ่ เจ้าตัวก็โดนดรอปอย่างไร้เหตุผลอยู่บ่อยครั้ง ก่อนที่จะได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องในการรักษาการคุมทีมของ เฟดริก ลุงเบิร์ก และการกลับมาของ มิเกล อาร์เตต้า ในบทบาทกุนซือ อดีตเพื่อนร่วมทีมของ โอซิล นั่นเอง ผลงานทั้งหมดของเขาตั้งแต่ย้ายมาจนถึงนัดล่าสุดลงเล่นทั้งหมด 254 นัด ยิงไป 44 ประตู และแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตู 72 ลูกด้วยกัน ถึงแม้ว่าฟอร์มของเขาจะไม่คงเส้นคงวาและในปัจจุบันอายุ 31 ปีเข้าไปแล้ว แต่การที่ โอซิล ย้ายเข้ามา เขาได้เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทีมอย่างมากมาย เช่น การมีส่วนที่ทำให้ดึงดูดนักเตะชื่อดังย้ายเข้ามาร่วมทีมได้อีกและการเปลี่ยนแปลงนโยบายซื้อนักเตะจากแต่ก่อนที่ อาร์เซน่อล มักซื้อนักเตะเกรดกลางและดาวรุ่ง แถมชอบเซ็นนักเตะฟรี ไม่ยอมทุ่มซื้อนักเตะราคาแพงมาร่วมทีม และเจ้าตัวถึงแม้จะโดนแฟนบอลดุด่าในยามที่ฟอร์มไม่ดี แต่ก็ไม่มีท่าทีที่ตอบโต้แฟนบอลด้วยความก้าวร้าวและดูเจ้าตัวจะรักสโมสรแห่งนี้เป็นอย่างมาก (เพราะค่าเหนื่อย 350000 ปอนด์หรือไม่ ตรงนี้ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจนัก) ด้วยเหตุผลนี้เราจึงยกให้ เมซุต โอซิล เพย์เมกเกอร์หน้าง่วงขวัญใจเบอร์ 1 ของเหล่าสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” อยู่อันดับ 2 ของลิสต์นี้

ท่าดีใจในการทำประตูได้อันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว ที่ทำมือรูปตัว “M” ที่มาของท่าดีใจนี่คือเขาอุทิศประตูนี้ให้กับหลานสาวชื่อ มีร่า (Mira) ลูกสาวของน้องชายนั่นเอง
Photo : Twitter
รวมผลงานการ 72 แอสซิสต์ของเจ้าตัวกับอาร์เซน่อล

1. ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง (Pierre-Emerick Aubameyang) มรดกคนสุดท้ายที่ อาร์แซน เวงเกอร์ เซ็นร่วมทัพ
Photo : Independent

โคตรกองหน้าสัญชาติ กาบอง ย้ายจาก “เสือเหลืองโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่มีดีกรียิงประตูในลีก บุนเดสลีกา เยอรมัน ในฤดูกาล 2016/2017 ไปถึง 31 ประตู ก่อนย้ายมายังถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 31 มกราคม ปี 2018 ด้วยค่าตัวร่วม 64 ล้านยูโร ด้วยวัย 28 ปี เป็นสถิติสูงสุดของสโมสร อาร์เซน่อล ถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการเซ็นสัญญานักเตะคนสุดท้ายของ อาร์แซน เวงเกอร์ ก่อนที่เขาจะอำลาทีมไปเมื่อจบฤดูกาลนั้น “โอบา” ย้ายเข้ามาเริ่มตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าของทีม เป็นตัวสำคัญของสโมสรอย่างที่สุด ไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวนานก็พร้อมโชว์ฟอร์มยิงกระจายให้กับทีมได้เป็นกอบเป็นกำและยึดตัวหลักให้กับปืนใหญ่ได้อย่างสม่ำเสมอ มีความเร็วและความเฉียบคมในการทำประตูอย่างมาก เป็นนักเตะตัวความหวังและขวัญใจของสโมสรได้อย่างรวดเร็ว โดยหลังๆเขาโยกเป็นตัวรุกริมเส้นในด้านซ้ายพร้อมสลับไปเล่นตรงกลางและทางริมเส้นด้านขวา แต่ก็สามารถทำผลงานได้เป็นอย่างดีไม่มีบกพร่องจนถึงปัจจุบัน เป็นนักเตะที่ขาดไม่ได้ที่สุดในแนวรุกของทีมปืนใหญ่ โดยผลงานทั้งหมดของเขาตั้งแต่ย้ายมาจนถึงปัจจุบัน ลงเล่นทั้งหมด 97 นัด ยิงได้ถึง 61 ประตูและแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตู 13 ลูก โอบาเมย็อง มีสถิติเป็นนักเตะ อาร์เซน่อล ที่ยิง 7 ประตูในพรีเมียร์ลีก 7 เกมแรกของซีซั่น นับตั้งแต่ เดนนิส เบิร์กแคมป์ อดีตดาวยิงตำนานของทีมทำได้ในฤดูกาล 1997/1998 ในยุคปัจจุบันไม่มีกองหน้าคนไหนยิงประตูให้กับทีมได้มากกว่า “โอบา” อีกเลย ผลงานฤดูกาล 2018/2019 เจ้าตัวก็ได้รับรางวัลดาวซัลโวสูงสุดทำได้ 22 ประตู ร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของลิเวอร์พูล โอบาเมย็อง ปัจจุบันอายุ 30 ปีแล้ว โดยตอนนี้เขารับปลอกแขนเป็นกัปตันทีมของอาร์เซน่อล ยังไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้เลยนับตั้งแต่ย้ายมา ทำดีที่สุดคือเป็นรองแชมป์ ยูโรป้าลีก ในปี 2019 เหลือสัญญากับปืนใหญ่ แค่ปี 2021 เท่านั้นและตอนนี้มีแต่ข่าวลือการย้ายออกจากทีมของเจ้าตัวไม่เว้นแต่ละวัน เหล่าสาวก เดอะ กันเนอร์ส ได้แต่ภาวนาว่าอยากให้เขาต่อสัญญาอยู่โยงอย่างน้อยสัก 2 ปี เพราะถ้าหากเขาตัดสินใจอำลาทีม ความเฉียบคมและประสิทธิภาพในแนวรุกของทีมลดหวบลงอย่างแน่นอน เพราะหากจะกล่าวถึง อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ กองหน้าของทีมอีก 1 ราย ก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่ดีเทียบเท่าได้และมีข่าวจะย้ายทีมออกไปอีกเหมือนกัน แถมกำลังใจของผู้เล่นในทีมก็น่าจะห่อเหี่ยวอยู่ไม่น้อยเมื่อสตาร์ดังรายนี้ย้ายออกไป เพราะสถานการณ์โดยรวมของทีมตอนนี้ไม่ได้อยู่อันดับท็อปของลีกอีกต่อไปแล้ว ด้วยผลงานทั้งหมดของเจ้าตัวที่ทำได้กับปืนใหญ่ ทำให้ โอบาเมย็อง อยู่อันดับที่ 1 ของลิสต์นี้อย่างสมศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง

ลีลาการฉลองของ โอบาเมย็อง กับการสวมใส่หน้ากาก Black Panther หนึ่งตัวละครดังของ Marvel
Photo : Metro
รวม 61 ประตู ที่ โอบาเมย็อง ยิงให้กับ อาร์เซน่อล ได้ในปัจจุบัน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ 10 นักเตะสุดยอดการเซ็นสัญญาของ อาร์เซนอล ช่วงปี 2010 – 2020 ที่ทางผู้เขียนหนึ่งในทีมงานเว็บไซต์ 168Kick ได้ทำการเรียบเรียบมาให้คุณผู้อ่านทุกท่านที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลได้อ่านกัน หวังว่าจะถูกใจไม่มากก็น้อย ถ้ารายชื่อไหนไม่ตรงใจหรือมีข้อมูลเพิ่มเติม ทุกท่านสามารถแนะนำและคอมเมนต์แสดงความคิดอย่างสร้างสรรค์กันได้ครับ นอกจากนี้ทุกท่านสามารถให้กำลังพวกเราชาว 168Kick ได้ง่ายๆด้วยการกดไลค์เพจ 168Kick ใน Facebook กดไลค์โพสต์ข่าวสารที่ทางเรา ได้ทำการแปลลงเพจทุกวัน และที่สำคัญขอฝากเว็บไซต์ 168Kick.com ของพวกเราด้วยนะครับ ขอขอบพระคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้