Home บทความฟุตบอล จอนโจ้ เชลวี่ย์ กับเส้นทางหลังมูฟออนถิ่นแอนฟิลด์

จอนโจ้ เชลวี่ย์ กับเส้นทางหลังมูฟออนถิ่นแอนฟิลด์

0
จอนโจ้ เชลวี่ย์ กับเส้นทางหลังมูฟออนถิ่นแอนฟิลด์

หลายคนคงอดหัวเราะไม่ได้กับคำสัมภาษณ์ของ แมตต์ ริตชี่ ปีกชาวสก็อตแลนด์ของ นิวคาสเซิล สโมสรดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่บอกว่า จอนโจ้ เชลวี่ย์ กองกลางเพื่อนร่วมทีม “สาลิกาดง” มีศักยภาพพอที่จะเล่นให้กับสโมสรระดับท็อปของโลกอย่าง บาร์เซโลน่า ได้อย่างสบาย ขอเพียงแค่เลิกเล่นกอล์ฟ และหันไปมุ่งมั่นกับการเล่นฟุตบอลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เชลวี่ย์ ซึ่งถือเป็นนักฟุตบอลส่วนน้อยในยุคปัจจุบันที่ไม่เล่นโซเชี่ยลมีเดีย เพราะมองว่ามันเป็นเรื่องยุ่งยาก และซับซ้อน กล่าวตอบความคิดเห็นของ ริตชี่ ด้วยเสียงหัวเราะว่า “เคยมีคนส่งรูปตัดต่อของผมใส่เสื้อ บาร์เซโลน่า ยืนอยู่ข้าง เมสซี่ และคำพูดของ แมตต์ นั้น หลายคนคงตั้งคำถามว่า ผมมีศักยภาพขนาดนั้นจริงเหรอ”

“สำหรับผมมันเป็นเรื่องน่าทึ่งจริงๆที่มีคนพูดถึงคุณแบบนั้น และ แมตต์ ก็เป็นคนที่รู้เรื่องฟุตบอลอย่างถ่องแท้ แต่ผมรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่เขาบอกว่า ผมเล่นกอล์ฟ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เขาฆ่าผมด้วยคำพูดนั้น” เชลวี่ย์ เล่าอย่างอารมณ์ดี

Photo : skysports.com

ชีวิตในปัจจุบัน

เชลวี่ย์ ยังคงยิ้มได้ แม้ชีวิตเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของเขาจะมีทั้งการได้เดินไปถึงจุดสูงที่สุดจนถึงจุดตกต่ำ แต่ในเวลานี้ ดาวเตะวัย 28 ปี กำลังอยู่ในจุดที่ดีหลังจากได้เป็นผู้เล่นสำคัญของ นิวคาสเซิล ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ สตีฟ บรูซ

ในฤดูกาลนี้ เชลวี่ย์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการซัดไปให้กับ นิวคาสเซิล 5 ประตู จากการลงสนาม 20 เกมรวมทุกรายการ ก่อนจะพักเบรกชั่วคราวจากการแพร่ราะบาดของโรค COVID-19 และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่าน มิดฟิลด์ชาวอังกฤษ ก็เพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่กับพลพรรค “สาลิกาดง” ออกไปอีก 3 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กองกลาง นิวคาสเซิล กำลังมีความสุขกับการใช้ชีวิตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองผู้ดี และสนุกสนานกับเส้นทางของตัวเอง แต่เชื่อได้ว่า หลายคนคงสงสัยกับความเห็นของ ริตชี่ ที่บอกว่า เพื่อนร่วมทีมคนนี้ฝีเท้าดีพอจะเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า แต่แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของ เชลวี่ย์ กันแน่

Photo : mirror.co.uk

อดีตดาวรุ่งอนาคตไกล

ย้อนกลับไปสมัยเป็นดาวรุ่ง เชลวี่ย์ เคยได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในผู้เล่นอายุน้อยที่ดีที่สุดในอังกฤษ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของ ชาร์ลตัน แอธเลติก ด้วยวัยเพียง 16 ปี กับ 59 วัน เท่านั้น และในปี 2010 เขาได้รับโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิตด้วยการเซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล

อดีตเด็กปั้น ชาร์ลตัน อธิบายต่อว่า “มันเป็นเรื่องดีถ้าคุณซื่อสัตย์กับตัวคุณเอง แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิดเมื่อถึงเวลาที่ผมจะแขวนสตั๊ด ผมอาจจะมีเส้นทางอาชีพที่ยอดเยี่ยม แต่บางทีคุณอาจนั่งอยู่ในจุดหนึ่ง และคิดว่า ตัวเองจะไปได้ไกลกว่านี้ได้ไหม บางทีผมอาจได้เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และหวังว่าวันหนึ่งผมจะทำแบบนั้นได้ แต่เมื่อเวลาหมดลง คุณกลับไปคิดถึงอดีต และคุณอาจคิดว่า ตัวเองตัดสินใจบางอย่างผิดไป”

เส้นทางของ เชลวี่ย์ ดูเหมือนจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ซึ่งในเวลานั้น เขาเป็นนักเตะดาวรุ่งชาวอังกฤษที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก และในเดือนตุลาคมปี 2012 เจ้าตัวได้รับโอกาสสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งด้วยการได้ลงรับใช้ทัพ “สิงโตคำราม” เป็นเกมแรกในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ ซาน มาริโน

Photo : bleacherreport.com

เหตุผลที่ตัดสินใจอำลาแอนฟิลด์

อย่างไรก็ตาม ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2013 เชลวี่ย์ ทำในสิ่งที่หลายคนไม่ได้คาดคิดเอาไว้ เขาตัดสินใจย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล ไปเล่นกับ สวอนซี ซิตี้ เพื่อหาโอกาสลงสนามในทีมชุดแรกอย่างสม่ำเสมอ แม้ เบรนแดน  ร็อดเจอร์ส กุนซือ “หงส์แดง” ในเวลานั้น จะพยายามเกลี้ยกล่อมแล้วก็ตาม

อดีตมิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล เปิดใจว่า “ผมอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น เมื่อตอนย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล ผมไม่คิดว่า คุณจะเจอนักเตะคนอื่นๆที่ย้ายไปอยู่กับสโมสรระดับนั้นตั้งแต่อายุ 17 และเลือกจะย้ายออกตอนอายุ 21 ปีหรอก และผมคิดว่า มีคนมากมายพูดถึงการตัดสินใจที่ค่อนข้างแปลกของผม แต่ผมไม่มีความสุขที่กับการได้ลงเล่นเพียง 1-2 เกม ผมต้องการที่จะลงเล่นทุกสัปดาห์”

“ผมเคยถูกปล่อยยืมตัวไปที่ แบล็คพูล และที่ ชาร์ลตัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ผมได้ลงเล่นตั้งแต่อายุยังน้อย ผมคิดว่า มันช่วยได้เยอะเลย และคุณต้องมีเคล็ดลับนั่นก็คือ คุณต้องเป็นส่วนหนึ่งของทีมอยู่เสมอ แต่เมื่อคุณเล่นไป 1 เกม และต้องพักไป 6 เกม ผมก็ไม่สนใจกับสิ่งที่คนอื่นพูดหรอก เพราะช่วงเวลาแบบนั้น คุณจะคิดว่า ตัวเองไม่ส่วนร่วม และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม”

“ผมคิดว่านั่นเป็นความรู้สึกที่ผมต้องการ แต่เมื่อมองย้อนลับไป และถามว่า ผมควรจะอยู่กับ ลิเวอร์พูล ต่อไปหรือไม่ ใช่ บางทีผมควรอยู่ต่ออีก 1-2 ปี เพื่อดูว่าสิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง แต่การตัดสินใจครั้งนั้นมันก็ทำให้ผมมาอยู่ในจุดที่ตัวเองยืนทุกวันนี้ และการตัดสินใจทุกครั้งที่ผมทำในอาชีพของตัวเองคือ หาทางลงเล่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมไม่สามารถพูดได้ว่า ผมเสียใจอะไรมากมายนัก”

Photo : bleacherreport.com

ได้ในสิ่งที่ต้องการหลังย้ายจาก “หงส์แดง”

หลังย้ายไปเล่นกับ สวอนซี เชลวี่ย์ ก็ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เขาได้ลงเป็นตัวจริงไปถึง 77 เกม จาก 96 นัดตลอด 3 ซีซั่นกับ “หงส์ขาว” ก่อนที่จะเกิดจุดเปลี่ยนอีกครั้งในอาชีพด้วยการย้ายไปเล่นกับ นิวคาสเซิล ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ ในเดือนมกราคมปี 2016

ในทีม นิวคาสเซิล นั้น เชลวี่ย์ ต้องเจอกับกับความยากลำบาก เพราะตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาลที่ ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตเทรนเนอร์ชาวสเปนคุมทัพ เขาไม่ได้โอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อ บรูซ เข้ามากุมบังเหียน “สาลิกาดง” สถานการณ์ของ อดีตกองกลาง ลิเวอร์พูล ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

เชลวี่ย์ กล่าวต่อว่า “ผมอยากจะขอบคุณ สตีฟ บรูซ มากๆ เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆสำหรับผม เขาเข้ามาคุมทีม และขอผมหนึ่งข้อ นั่นคือ การทำงานหนัก และในวันแรกที่เราไปทัวร์ปรีซีซั่นที่ประเทศจีน เขาเจอผมแล้วบอกว่า ตราบใดที่คุณทำงานหนัก ในทีมก็จะมีที่ว่างสำหรับคุณเสมอ”

ในเวลานี้ นิวคาสเซิล รั้งอันดับ 13 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก โดยมี 35 แต้ม อยู่ห่างโซนตกชั้น 8 แต้ม และเหลือเกมให้เล่นอีกเพียง 9 นัดเท่านั้น ซึ่งถือว่า พลพรรค “สาลิกาดง” แทบจะอยู่รอดปลอดภัยในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอนแล้ว นอกจากนี้ ยังถือเป็นการเก็บแต้มได้มากที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่ปี 2013-2014 อีกด้วย

เชลวี่ย์ อิบายต่อว่า “เราเปลี่ยนรูปแบบการเล่นไปมาก และลองทำสิ่งที่แตกต่าง ซึ่งบางทีบทบาทของคุณอาจได้เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่ผมแค่รู้สึกว่า เมื่อคุณโตขึ้น คุณจะได้เรียนรู้เกม และเรียนรู้เรื่องการยืนตำแหน่งมากยิ่งขึ้น”

“นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่ สตีฟ ให้ความสำคัญคือ ความฟิต เราทำงานหลายอย่างในระหว่างสัปดาห์ เพราะยิ่งคุณฟิตมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งโชว์ฟอร์มได้ดีมากเท่านั้น นั่นช่วยเราได้อย่างชัดเจน และการมี สตีฟ อยู่ ที่นี่มันช่วยเราได้มาก และในฐานะที่เขาเป็นอดีตผู้เล่น คุณก็เพียงแค่พยายามเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากเขาให้ได้มากที่สุด”

Photo : chroniclelive.co.uk

ชีวิตใหม่ในทัพ “สาลิกาดง”

อย่างไรก็ตาม เชลวี่ย์ ไม่ได้สนิทกับ เบนิเตซ เหมือนกับ บรูซ แต่เขายืนยันว่า ตัวเองไม่เคยมีปัญหากันโค้ชสแปนิชจนทำให้หลุดจากทีมตัวจริง แต่เหตุผลที่ทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอนั่นก็คือ ปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน

“เมื่อปีที่แล้ว มันเป็นฤดูกาลที่ยากลำบาก ผมได้รับบาดเจ็บที่รุนแรงมาก เราไปถึงต้นตอของปัญหาอาการบาดเจ็บไม่ได้ แต่ในที่สุดเราก็พบว่า มันคืออะไร และจัดการเพื่อให้สามารถควบคุมอาการนั้นไว้ได้”

“แน่นอน ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่สโมสรเมื่อเริ่มช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ผมก็ออกไปซ้อม และทำให้ตัวเองฟิตสมบูรณ์ให้มากที่สุด และถึงแม้ว่า ราฟา จะกลับมาคุมทีม ผมก็จะพยายามทำงานของตัวเองอย่างดีที่สุดในช่วงปรีซีซั่น ผมรู้ว่า ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ผมก็จะอยู่จุดเดียวกับที่ผมอยู่ในตอนนี้ แต่มันกลายเป็น สตีฟ เข้ามาคุมทีมแทน และเขาก็ยอดเยี่ยมมากๆสำหรับผม” เชลวี่ย์ อธิบาย

ขณะเดียวกัน ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เชลวี่ย์ ตกเป็นข่าวอย่างหนักว่า เตรียมอำลาถิ่นเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ย้ายไปค้าแข้งกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมที่เขาติดตามเชียร์มาตั้งแต่ยังเด็ก แต่สุดท้ายข่าวลือต่างๆเงียบหายไป และเขายังคงเป็นผู้เล่นของ นิวคาสเซิล ต่อไป

“ผมไม่มีความเห็นใดๆทั้งสิ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมอยู่ภายใต้สัญญากับ นิวคาสเซิล และมันก็เป็นเพียงเรื่องของบางอย่างที่จะเป็นไปถ้าพวกเขาต้องการให้ผมย้ายออก หรือขายผม นั่นคือ ทางเลือกของพวกเขา แต่ผมมีความสุขมากกว่าที่จะอยู่ทีนี่ต่อไป ผมไม่เคยคิดเกี่ยวกับการย้ายออกเลย”

“แน่นอนว่า ผมโตขึ้นมาในฐานะแฟนบอล เวสต์แฮม และผมมีบ้านติดกับสนามฝึกซ้อมของพวกเขา มันอาจจะเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่าในแง่นั้น แต่ผมมักอยู่ห่างไกลจากบ้านตัวเองเสมอ และคุณจะชินกับมัน ตอนนี้แม้ว่าผมจะได้หยุดพักเบรก แต่ผมก็ไม่อยากกลับไปบ้านเลย ผมอยู่ที่นี่ และสนุกกับมัน มันเป็นสถานที่ที่น่าอยู่” กองกลาง นิวคาสเซิล กล่าว

ในเวลานี้ นับเป็นช่วงเวลาที่ เชลวี่ย์ กำลังมีความสุขอย่างแท้จริง เขากำลังตื่นเต้นกับทิศทางที่ดีขึ้นของ นิวคาสเซิล และพร้อมจะทุ่มเทเต็มที่เพื่อฝากอนาคตไว้กับสโมสรแห่งนี้

อดีตดาวรุ่ง ลิเวอร์พูล กล่าวว่า “เราทำได้ดีมากในฤดูกาลนี้เมื่อมองไปในจุดที่เราอยู่ ถ้าเราสามารถกลับมาเล่น 9 เกมที่เหลือของซีซั่น ผมอยู่หวังว่า เราจะสามารถไต่อันดับขึ้นไปได้อีกนิดหน่อย ซึ่ง ผม และแมตต์ ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรออกไปแล้ว”

“เราอยู่ที่สโมสรมาระยะหนึ่งแล้ว และผมคิดว่า มันสำคัญมากๆที่เราเซ็นสัญญาฉบับใหม่ออกไป มันเป็นการโยนความกังวลทั้งหมดออกไป และทำให้คุณรู้สึกมั่นคง ดังนั้น ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องวางทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง และให้ความสำคัญกับฟุตบอลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”

Photo : the18.com

เติบโตขึ้นในฐานะนักฟุตบอล

แม้ยังไม่ชัดเจนว่า เชลวี่ย์ และบรรดาเพื่อนร่วมทีม นิวคาสเซิ่ล ของเขาจะสามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้งเมื่อใด แต่สิ่งที่ชัดเจนก็คือ มิดฟิลด์รายนี้กระตือรือร้นอย่างมากที่จะช่วยทีมให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาสามารถจะทำได้

เชลวี่ย์ กล่าวว่า “ผมคิดว่าผมสบายใจมากขึ้นเยอะเลย คนที่ผมเคยเล่นด้วยที่ สวอนซี มักจะบอกว่า ผมไม่ได้ผ่อนคลายนักเมื่ออยู่ที่นั่น ผมแค่อยากจะชนะมาก ๆ แม้กระทั่งในสนามฝึกซ้อม ซึ่งบางทีมันก็จบลงด้วยการมีปัญหากับบางคน”

“ผมอาจจะแสดงความคิดเห็นที่น่ารังเกียจ หรืออะไรทำนองนั้น แต่ในตอนนี้ผมแค่สนุกกับฟุตบอล ผมออกไปที่สนาม และผมกำลังเล่นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของตัวเอง แต่ในทางตรงกันข้าม ในอดีตที่ผ่านมาบางทีผมอาจจะทำอะไรงี่เง่าใส่กรรมการจนโดนใบเหลือง และใบแดง”

“แต่ตอนนี้ผมเริ่มหัวเราะให้กับมันแล้ว และพยายามที่จะไม่เครียดมากไปนักกับพวกเขา และผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายกับตัวผมเอง ผมได้ก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าว และเริ่มที่จะสนุกไปกับมันมากขึ้น” อดีตดาวรุ่งผู้กล้าเดินออกจากทัพ “หงส์แดง” กล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้