อ่านบทความตอนแรกได้ที่นี่ครับ : เปิดรายชื่อ “ไอดอล” เหล่าวันเดอร์คิดยุคปัจจุบัน (ตอนที่ 1)
แฟรงกี้ เดอ ยอง : ลิโอเนล เมสซี่
นักเตะหนุ่มชาวดัตช์ เคยกล่าวไว้ว่า การย้ายจาก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม มายัง บาร์เซโลน่า เป็นเหมือนดั่งฝันที่เป็นจริง ไม่เพียงแค่สไตล์การเล่นของเขาที่ยึดมาจาก เจ้าบุญทุ่ม ในยุคที่ โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานทีมชาติฮอลแลนด์เป็นผู้กุมบังเหียน แต่เป็นโอกาสที่ได้ลงเล่นเคียงข้างกับไอดอลในวัยเด็กของเขาด้วยเช่นกัน
“ผมมีความสุขมากๆ หลังได้ย้ายมาที่นี่ในท้ายที่สุด” เดอ ยอง กล่าวหลังมาเปิดตัวในถิ่น คัมป์ นู
“ตั้งแต่ยังเป็นเด็กผมมีความฝันว่าอยากเล่นให้กับบาร์เซโลน่า และตอนนี้ผมก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้วดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก…ผมกำลังมุ่งหวังที่จะได้เอาเท้าของผมสัมผัสลงบนสนามคัมป์ นู เป็นครั้งแรกในการลงสนามให้กับทีม“
“ผมมีความสุขที่จะได้รับโอกาสลงเล่นร่วมกับ เมสซี่ ซึ่งเป็นบุคคลที่ผมติดตามมาโดยตลอด…ตอนนี้ไอดอลของผมกลายมาเป็นเพื่อนร่วมทีมของผมแล้ว“
“ผมชื่นชอบแนวทางการเล่นของบาร์ซ่า ปรัชญาฟุตบอลของบาร์เซโลน่า และ อาแจกซ์ คล้ายคลึงกันอย่างมาก และผมคิดว่าผมจะสนุกกับมัน“
“บาร์ซ่า และทีมชาติฮอลแลนด์ มีสายสัมพันธ์ที่พิเศษร่วมกันเสมอมา และผมหวังว่าผมจะทำตามเส้นทางนั้นได้สำเร็จ…ผมต้องการเป็นหนึ่งในผู้เล่นชาวดัตช์ที่ยิ่งใหญ่ที่ได้เล่นให้กับบาร์เซโลน่า“
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ : เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปิเก้ และเหล่าตำนานกองหลังชาวอิตาลี
เจ่าของรางวัล Golden Boy 2018 ดูเหมือนว่าจะมีนักเตะซูเปอร์สตาร์หลายรายที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาในเส้นทางการค้าแข้ง
ขณะที่เขาออกมาชื่นชม เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังชาวดัตช์ และคู่หูในทีมชาติฮอลแลนด์ว่าเป็นหนึ่งในเซนเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดในโลก เดอ ลิกท์ ก็กล่าวถึง สองตำนานกองหลังทีมชาติสเปนที่เป็นไอดอลคนสำคัญ…โดยหนึ่งในนั้นเขายกให้เป็นที่หนึ่งในใจ
“ผมคอยเฝ้ามองผู้เล่นหลายคนที่เป็นไอดอลของผม และผมสามารถบอกชื่อกองหลังที่ยอดเยี่ยมเหล่านั้นได้สามคนด้วยกัน” เดอ ลิกท์ เคยกล่าวเอาไว้
“เคราร์ด ปิเก้ เป็นกองหลังที่ดีมากๆ และแน่นอนว่าเพื่อนร่วมชาติของผมอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ก็ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน แต่ว่า เซร์คิโอ รามอส เป็นไอดอลเบอร์หนึ่งของผม“
ตอนที่ เดอ ลิกท์ ยังค้าแข้งอยู่กับ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม เคยแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาหลงใหลในฟุตบอลสไตล์อิตาเลี่ยนมาอย่างยาวนานก่อนลงเอยด้วยการย้ายไปร่วมทีม ยูเวนตุส ในเวลาต่อมา
“ผมถูกทำให้ลุ่มหลงไปกับวิถีการเล่นเกมรับของอิตาลีตั้งแต่ยังเด็ก“
“ไอดอลของผมหลายคนในอดีตเป็นชาวอิตาเลียน อย่างเช่น เปาโล มัลดินี่, ฟรังโก้ บาเรซี่, อเลสซานโดร เนสต้า, ฟาบิโอ คันนาวาโร่ และ กาเอตาโน่ ชิเรีย“
“เมื่อคุณพูดถึงผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง…คุณต้องนึกถึงรายชื่อเหล่านี้ ผมตกหลุมรักเข้ากับวิถีการเล่นเกมรับของอิตาลี และผมเลือกรายชื่อดังกล่าวมาจากเหตุผลนั้น“
ฟิล โฟเด้น : ดาบิด ซิลบา
ย้อนกลับไปในปี 2017 ตอนที่ โฟเด้น อายุแค่ 17 ปี ได้กล่าวไว้ว่า “ผมรู้สึกเหมือนกับใช้ชีวิตอยู่ในความฝันหลังติดทีมไปทัวร์ปรีซีซั่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา”
มันไม่ได้เป็นแค่เพียงโอกาสแรกของเขากับทีมชุดใหญ่ แต่ยังเป็นโอกาสที่เขาได้ร่วมซ้อมกับไอดอลของเขาในวัยเด็กในท้ายที่สุดอย่าง ดาบิด ซิลบา อีกด้วย
โฟเด้น กล่าวว่า “มันเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของผมที่ได้เดินทางไปกับทีม และผมมีความสุขกับช่วงเวลานั้นมากๆ เพราะว่าได้เรียนรู้อะไรต่างๆ มากมาย“
“การฝึกซ้อมนั้นมีความรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม และมันเป็นเรื่องยอดเยี่ยมอย่างมากที่ได้ร่วมเล่นกับ ซิลบา จริงๆ แล้วเขาเป็นไอดอลของผม…ผมพยายามสังเกตุสิ่งที่เขาทำ และเรียนรู้จากเขา แล้วพยายามทำแบบเดียวกันด้วยตัวเอง“
“ผมหวังว่าในฤดูกาลนี้จะได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่ และได้ลงสนามมากขึ้น“
ตอนนี้ โฟเด้น ยังรอคอยโอกาสการลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องในทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่ถ้าเขายังคงทุ่มเทอย่างหนักต่อไปแน่นอนเลยว่าโอกาสนั้นจะมาถึงสักวันนึง…แล้วในตอนนี้เขาได้แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์อันเหลือล้นเป็นประจักษ์ต่อสายตาแฟนบอลทั่วโลกแล้ว
กาเบรียล มาร์ติเนลลี : โรนัลโด้ (R9)
สำหรับผู้เล่นดาวรุ่งชาวบราซิล…,มันยากมากที่จะเลือกผู้เล่นระดับตำนานตำแหน่งต่างๆ คนใดคนหนึ่งเป็นไอดอล
แต่สำหรับกองหน้าดาวรุ่งที่เพิ่งแจ้งเกิดขึ้นมา และถูกยกย่องจากคนในชาติมันไม่มีตัวเลือกอื่นเลย…มันต้องเป็นคนนี้ และต้องเป็นเขาคนเดียวเท่านั้นที่เป็นของแท้และเป็นต้นตำรับดั้งเดิมที่ดีที่สุดตลอดกาล โรนัลโด้ (R9)
มาร์ติเนลลี เคยกล่าวสั้นๆ ไว้บนเว็บไซต์ของ อาร์เซน่อล หลังย้ายมาจาก อิตูอาโน่ ว่า “ผมมักจะฝันอยู่เสมอว่าตัวเองเป็น โรนัลโด้…ผมรักเขา“
“ฉายาของเขามันบ่งบอกถึงทุกอย่างแล้ว…ปรากฏการณ์ เขาเป็นต้นแบบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อผมกำลังเติบโตขึ้นมา ใช่แล้วล่ะ…โรนัลโด้ และพ่อของผมเอง ซึ่งทางพ่อของผมก็บอกว่าตัวเขาเองเป็นนักเตะที่มหัศจรรย์เหมือนกัน“
“แต่เมื่อผมเห็นเขากำลังลงเล่น…ผมไม่แน่ใจเรื่องนั้นสักเท่าไหร่นะ มันก็โอเคแหละเพราะว่าสุดท้ายเขาก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผมอยู่ดี “
อารอน วาน-บิสซาก้า : เธียร์รี่ อองรี
เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงสำหรับแฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บางส่วน แต่ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ในเมื่อเขาย้ายมาจากรุงลอนดอน ดังนั้นไอดอลของเขาย่อมไม่ใช่ เอริก คันโตน่า, รุด ฟาน นิสเตลรอย, เวย์น รูนี่ย์ หรือ ไรอัน กิ๊กส์
วาน-บิสซาก้า เติบโตในย่านครอยดอน ซึ่งครอบครัวของเขานั้นเป็นแฟนตัวยงของสโมสร อาร์เซน่อล มีนักเตะเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้นที่หนุ่มน้อยรายนี้ใฝ่ฝันอยากจะทำให้ได้แบบเดียวกัน คือ เธียร์รี่ อองรี
หลังจากได้เข้าร่วมอะคาเดมี่ของ คริสตัล พาเลซ เขาพยายามลอกเลียนแบบฮีโร่ของทีมปืนใหญ่ในสนามด้วยการลงเล่นเป็นตัวรุกแดนหน้า ก่อนที่ทาง ดิ อีเกิลส์ ต้องการแบ็คขวาคนใหม่ และย้ายเขาไปเล่นในตำแหน่งดังกล่าว
แต่นั่นไม่ได้หยุดความฝันของเขาที่ต้องการพาบอลเข้าไปกองที่ก้นตาข่าย
“ตอนที่ผมกำลังโตขึ้นมาผมมอง เธียร์รี่ อองรี เป็นต้นแบบ“
“ผมชอบประตูที่เกิดขึ้น, ผมชอบวิธีการยิงประตูของเขา…ผมมักจะจินตนาการภาพของตัวเองยิงประตูเหล่านั้นเมื่อยังเด็ก“
“ผมได้ฝึกซ้อมลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นเพราะว่า พาเลซ ต้องการผู้เล่นในตำแหน่งดังกล่าว แล้วนั่นทำให้พวกเขารู้ถึกศักยภาพที่ยอดเยี่ยมของผมในเรื่องของการเข้าสกัดบอล และการเล่นเกมรับ“
ติดตามตอนจบได้เร็วๆ นี้ครับ…
ขอขอบคุณข้อมูลบทความจาก : www.talksport.com