ในตอนนี้กองเชียร์ของทัพ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงกำลังเริงร่ากันเป็นทิวแถว จากผลงานในช่วงหลังภายใต้การคุมทีมของ “เฮียยิ้ม” โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ทำไม่แพ้ใครทุกรายการ 15 นัดเข้าไปแล้ว ยังมีลุ้นแชมป์อีกสองถ้วยทั้ง ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก และ เอฟเอ คัพ แถมตามจี้ติด เชลซี ในการทำอันดับไปเล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าแบบหายใจรดต้นคอ…ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมพลิกโฉมในเรื่องเกมรุกที่สุดบู่มาเป็น ยูไนเต็ด ที่ขย่มเกมรุกใส่คู่แข่งเขาได้บ้างเสียทีหลังจากเล่นรับแล้วสวนกลับมาอย่างยาวนานคงหนีไม่พ้น บรูโน่ แฟร์นานเดส เพลย์เมคเกอร์ที่เป็น “เดอะ แบก” ในการสร้างสรรค์เกมรุกตั้งแต่ย้ายมาในเดือนมกราคมเพราะกองกลางชาวโปรตุกีสรายนี้ปรับตัวในการเล่นลีกอังกฤษได้ไวเกินคาด ด้วยการทำไป 5 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 8 เกม นับว่าเป็นสถิติที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว…แต่อีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ บรูโน่ เล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ย่อมหนีไม่พ้นการกลับมาของ ปอล ป็อกบา อดีตดาวเตะค่าตัวสถิติโลกดีกรีแชมป์โลกหนล่าสุด
ตั้งแต่เปิดฤดูกาลนี้มาแฟนบอลยูไนเต็ดต่างร้อง “ยี้” ให้กับมิดฟิลด์ตัวตัดผมรายนี้มาโดยตลอด เพราะมีข่าวลือต่างๆ นาๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ ป็อกบา ต้องการย้ายทีมไปหาความท้าทายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยปลายทางนั้นคาดกันว่าไม่พ้นสองยักษ์ใหญ่ ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ที่เทียวไล้เทียวขื่อจีบๆ หายๆ แทบทุกเดือน แต่ถ้าเสพสื่อกันจริงๆ แล้วปัญหามันอยู่ที่ตัวปั่นที่เป็นเอเย่นต์หน้าเลือดอย่าง มิโน่ ไรโอล่า เสียมากกว่าที่เป็นตัวคอยเสี้ยมชักใบให้เรือเสียอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวนักเตะเองไม่ได้ออกมาพูดอะไรเลย…แต่จะโทษตัว ไรโอล่า แบบเต็มร้อยก็ไม่ได้ในเมื่ออาชีพของเขา คือ การหาผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง และนักเตะในความดูแลของเขา แล้วการที่ ปีสาจแดง ไม่ได้ไปเล่นถ้วยหูใหญ่ก็โทษใครไม่ได้นอกจากการบริหารจัดการทีมที่ห่วยแตก ก่อนมารื้อแผน เซ็ท ซีโร่ ทั้งหมดมาเป็น “ยูไนเต็ด เวย์” หลังได้ น้าโอเล่ มาคุมทีมต่อจาก โชเซ่ มูรินโญ่ พร้อมปรับโครงสร้างบอร์ดบริหารให้คล้ายคลึงกับยุคสมัยที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุมบังเหียนพาทีมครองความสำเร็จได้อย่างเบ็ดเสร็จในอดีต…ใช่เลย!!! ป็อกบา อยู่กับทีมต่อในซีซั่นนี้แต่กลับต้องโชคร้ายเจออาการบาดเจ็บข้อเท้าที่เรื้อรังพรากตัวไปอย่างยาวนาน ปล่อยให้ทีมต้องใช้แดนกลางแบบตามมีตามเกิด ถูๆ ไถๆ ไปเรื่อยจนการมาถึงของ บรูโน่ ช่วยให้ทีมดีขึ้น ไม่น่าเชื่อว่าโชคชะตาของทีมเหมือนกับบทละครน้ำเน่าที่ทั้งโลกต้องเผชิญกับวิกฤติโรคระบาดจนฟุตบอลต้องพักเบรกชั่วคราวไปหลายเดือน ทำให้ ป็อกบา หายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้ทันท่วงที และแฟนบอลต่างรอคอยการประสานงานกันในแดนกลางระหว่างเขา กับ บรูโน่ ที่ออกลูกหยอดชมกันไปมาอยู่เสมอในเรื่องของฝีเท้า
เกมนัดแรกในโปรเจ็คท์รีสตาร์ทเป็นการออกไปเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ต้องเจอกับเกลอเก่าอย่าง มูรินโญ่ ที่รู้ไส้รู้พุงทีมเป็นอย่างดี…อนิจจาช่างโชคร้าย ป็อกบา ยังต้องนั่งอยู่ข้างสนามเพื่อรอโอกาสไปก่อน จนสถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มอาการไม่ดีเมื่อโดน ไก่เดือยทอง ออกนำไปก่อน 1-0 พอครบชั่วโมง เฮียยิ้ม จึงเลือกแก้เกมด้วยการส่ง ป็อกบา ลงไปบัญชาเกมแดนกลาง และเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวังด้วยการใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงลุยเรียกลูกจุดโทษได้สำเร็จ แล้วเป็น บรูโน่ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปเอาตัวรอดแบ่งหนึ่งแต้มได้สำเร็จในเกมนั้น…นัดถัดมาแน่นอนว่ากระแสต่างเรียกร้องให้ ป็อกบา ลงตัวจริงเล่นคู่กับ บรูโน่ เสียทีเพราะเป็นเกมต้องตัดแต้มกับคู่แข่งแย่งพื้นที่ ยูซีแอล โดยตรงอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แล้วก็เป็นดังคาด โซลชา จัดทีมแบบเต็มสูบให้แฟนบอลได้ยลเกมที่มี ป็อกบา ลงตัวจริงประสานงานกับขวัญใจคนใหม่ บรูโน่ ตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งรูปเกมที่ออกมาก็ค่อนข้างเป็นไปได้ดี แม้ว่าบทบาทของกองกลางแชมป์โลกจะไม่ชัดเจนแจ่มแจ้งเท่าไหร่นักเพราะโดน เนมานย่า มาติช กองกลางตัวเก๋าที่โชว์คุมเกมหน้าแผงหลังได้อย่างไร้ที่ติขโมยซีนไปซะอย่างนั้น…ต่อมาเป็นเกม เอฟเอ คัพ ที่ไปเยือน นอริช ซิตี้ ที่จัดชุดผสมลงเล่นกลายเป็น บรูโน่ ต้องแบกภาระจนเล่นไม่ออก แต่พอส่งตัวจริงลงมาขโยกเจ้าบ้านก็เอาตัวรอดไปได้หวุดหวิด แต่ผลงานในเกมนั้นของ ป็อกบา ที่ลงมาเป็นตัวสำรองไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนักนอกจากลงมาช่วยเป็นทางเลือกในการขึ้นบอลอีกคนหนึ่ง
จนมาถึงเกมนัดล่าสุดที่ต้องไปเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่ทีมล่องจุ๊นมาตลอดสองฤดูกาลที่มาเยือนถิ่น ดิอาแม็กซ์ แถมต้องมาเจอเซอร์ไพรส์จาก เกรแฮม พ็อตเตอร์ ที่ปรับมาเล่นระบบกองหลังสามตัว และอัดกลางมาเต็มเหนี่ยวถึง 5 คน กลายเป็นเกมที่วัดกันตรงๆ ในพื้นที่กลางสนามเพราะ ปีศาจแดง ก็จัดมิดฟิลด์ลงมา 5 คนเช่นกัน แล้วอย่างที่ทราบกันดีว่า ป็อกบา ได้ลงตัวจริงพร้อมกับ บรูโน่…บทบาทของ กองกลางจอมแฟชั่น ชัดเจนขึ้นอย่างมากในเกมนี้ สังเกตุจากไลน์การวิ่งที่จะไปซ้อนอยู่หลัง บรูโน่ ที่วันนี้ไม่ต้องลงมาช่วยเกมรับต่ำมากเหมือนในเกมบอลถ้วยเพราะมี ป็อกบา เป็นลูกหาบคอยไล่ตามเก็บบอลเสียแดนบน พร้อมกับวิ่งประคองในตำแหน่งที่ว่างให้เพื่อนเห็นง่ายๆ เป็นทางเลือกในการพักบอล ก่อนที่จะส่งให้ บรูโน่ คอยสร้างสรรค์เกมรุก หรือจบสกอร์ ซึ่งฟอร์มของเขาในนัดนี้ต้องนับว่าค่อนข้างโดดเด่นเลยทีเดียว นอกจากจะเล่นจังหวะจ่ายบอลง่ายๆ ยังมีการพาบอลขึ้นหน้าตะลุยแหวกขึ้นไปสองสามจังหวะ ด้วยการใช้ความสามารถเฉพาะตัวอันโดดเด่นอันเป็นจุดขายได้อย่างดีเยี่ยม…ยิ่งการที่ มาติช เหมือนกลับมาเกิดใหม่คืนฟอร์มเป็นกองกลางตัวรับที่ไว้ใจได้ในจังหวะตัดบอลก่อนถึงพื้นที่อันตราย ทำให้ทาง ป็อกบา ไม่ต้องพะวงลงมาช่วยวิ่งขึ้นสุดลงสุดแบบไม่จำเป็น…แถมวันนี้ยังมีหนึ่งแอสซิสต์ให้กับ บรูโน่ ยิงไกลแฉลบเข้าไปอีกด้วยยิ่งเข้าตาไปใหญ่ โดยถ้าคนที่ได้ชมเกมแบบเต็มเกมจะเห็นว่า ป็อกบา และ บรูโน่ เล่นจังหวะแบบนี้เป๊ะๆ มาแล้วในช่วงต้นเกม แต่บอลที่เพลย์เมคเกอร์แดนฝอยทองยิงกลับไปชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย มั่นใจได้เลยว่าเป็นการซักซ้อมกันมาอย่างดี ไม่ใช่ลูกฟลุ๊คอย่างแน่นอน แต่ที่สำคัญที่สุดที่ ป็อกบา มีเหนือมิดฟิลด์ตัวเลือกอื่นๆ คือ ออร่าความเป็นซูเปอร์สตาร์ ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องหวาดระแวงเข้าประกบสองคนเพื่อไม่ให้เขาเล่นได้ถนัด แล้วตรงจุดนี้เองจะทำให้เพื่อนเล่นได้สบายขึ้นมีที่ว่างมากขึ้น เนื่องจากเวลา ป็อกบา ครองบอลอยู่สามารถดึงแนวรับไปสนใจที่ตัวเขาได้อย่างต่ำสองคน แถมยังต้องมาอ่านใจอีกว่าจังหวะต่อไป ป็อกบา จะเลี้ยง, จะส่ง, จะยิง หรือจะข้ามบอลหลอกเฉยๆ มันหลากหลายทางเลือกเอามากๆ…ผลงานตลอดสาม-สี่นัดที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่าการที่ ยูไนเต็ด ได้ตัว ป็อกบา กลับคืนมาสู่ทีมนั้นเหมือนกับได้กองกลางตัวใหม่ที่เติมมิติที่แตกต่างให้กับทีมแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ฟันธงได้เลยว่า ป็อกบา จะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้ทีมมีลุ้นท็อปโฟร์จนจบซีซั่นแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังต้องแก้ปัญหาใหญ่ในเรื่องของ Squad Depth (จำนวนผู้เล่นในทีม) ซึ่งต้องเป็นขุมกำลังที่ทดแทนตัวจริงให้ได้ยามที่ขุนพลตัวหลักบาดเจ็บ โดยที่ตอนนี้ไม่มีใครเลยที่จะมาทดแทน บรูโน่ หรือ ป็อกบา หากสองตัวนี้เจ็บไป…มองดูง่ายๆ เจสซี่ ลินการ์ด ทำผลงานเป็นอย่างไรในเกมเอฟเอ คัพ ถ้าไม่ได้อคติ เจลิงซ์ ไม่ได้ทำให้ทีมแย่แต่ก็ไม่ได้ทำประโยชน์ และเมื่อคืน อันเดรส เปเรร่า ที่ลงมาแทน บรูโน่ ไม่ได้มีอิมแพคอะไรต่อเกมเลยสร้างสรรค์เกมรุกไม่ได้ ไม่มีจินตนาการใดๆ แค่ดึงตัวประกบแนวรับยังแทบไม่วิ่งตาม กลับเป็น สกอตต์ แมคโทมิเนย์ กองกลางจอมขยันที่ลงมาแทน ป็อกบา ที่มีบทบาทมากกว่าซะด้วยซ้ำ…บอกไว้ตรงนี้เลยว่าถ้าเป็นดังข่าวลือจริงในเรื่องที่ ปีศาจแดง จะมีงบเสริมทัพปีหน้าแค่ 50 ล้านปอนด์ แล้วจะแบกหน้าไปซื้อ จาดอน ซานโช่ ด้วยการทุ่มงบทั้งก้อนนั้น…ขอให้บอร์ดบริหารช่วยทบทวนความคิดอันบ้องตื้น เลิกทำเรื่องน่าอายโง่ๆ เสียที และช่วยเอาเงินก้อนนั้นไปต่อสัญญากับ ป็อกบา ซะเถอะครับเพราะงบประมาณดังกล่าวถ้ายื่นไปมันน่าอายช่วยไว้ลายสโมสรที่มีมูล่าเป็นอันดับสองในทวีปยุโรปบ้าง…สู้ทนฝืนลุ้นปั้น เมสัน กรีนวู้ด ต่อไปยังน่าภูมิใจซะกว่าเพราะถ้าปั้นไม่เกิดยังอ้างได้ว่า “สโมสรของเรายึดถือธรรมเนียมปฏิบัติมาอย่างยาวนานในการให้โอกาสดาวรุ่งจากทีมอะคาเมี่”