Home บทความฟุตบอล จอร์แดน เฮนเดอร์สัน นักเตะที่เกิดมาเพื่อเป็นกัปตันทีม

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน นักเตะที่เกิดมาเพื่อเป็นกัปตันทีม

0
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน นักเตะที่เกิดมาเพื่อเป็นกัปตันทีม

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์กัปตันทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอลเมืองผู้ดีประจำฤดูกาลนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังพา “หงส์แดง” คว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ และโชว์ฟอร์มส่วนตัวได้อย่างสุดยอด

อย่างไรก็ตาม กว่าที่จะมีวันนี้ได้ เฮนเดอร์สัน ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นการโดนวิจารณ์ว่ามีค่าตัวแพงเกินไปในช่วงที่ย้ายจาก ซันเดอร์แลนด์ มายัง ลิเวอร์พูล และเกือบโดน เบรนแดน รอดเจอร์ส อดีตกุนซือ “หงส์แดง” ขายทิ้ง รวมถึงโดนโจมตีว่า ฝีเท้าไม่เหมาะจะเป็นกัปตันทีม ลิเวอร์พูล

จุกเริ่มต้นของการประสบความสำเร็จต้องย้อนกลับไปในปี 2008 รอย คีน อดีตผู้จัดการทีม ซันเดอร์แลนด์ กำลังโมโหอย่างหนักหลังทีมพ่ายแพ้ในเกมนัดหนึ่ง และนักเตะซีเนียร์หลายคนโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวัง จากนั้น โค้ชชาวไอร์แลนด์ หันมามองนักเตะดาวรุ่งคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ในมุมห้องแต่งตัวที่ชื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

คีน ถาม เฮนเดอร์สัน ด้วยอารมเกรี้ยวกราดว่า “นายคิดว่า นายดีพอที่จะลงเล่นให้ทีมชุดแรกรึยัง?” และ เฮนเดอร์สัน ก็ตอบว่า “ใช่ครับ ผมดีพอ” จากนั้น อดีตกองกลางกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็อึ้งไปชั่วขณะพร้อมตอบกลับมาว่า “อืม ตอบได้ดี”

Photo : chroniclelive.co.uk

ในเวลานั้น เฮนเดอร์สัน อายุเพียง 17 ปี เขาจำได้ว่า ตัวเองนั่งอยู่ใกล้ตะกร้าใส่เสื้อผ้าที่แข่งขันเสร็จภายในห้องแต่งตัว และจ้องมองความดุดันของไอดอลในวัยเด็กอย่าง คีน ที่กำลังโกรธอย่างหนัก แต่ เฮนเดอร์สัน ไม่กลัว และความเชื่อมั่นในตัวเองของเขานั้นไม่เคยสั่นคลอน รวมทั้งยังมีความกล้าที่จะพูดความคิดของตัวเอง

สตีเฟ่น ไรท์ อดีตกองหลังเพื่อนร่วมทีม เฮนเดอร์สัน ที่ ซันเดอร์แลนด์ และต่อมาทั้งคู่ย้ายมาเล่นด้วยกันที่ โคเวนทรี เป็นเวลา 1 ปี เล่าว่า “จริง ๆ แล้ว จอร์แดน เป็นคนมีความคิดแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว มันชัดเจนเสมอว่าเขามีความเชื่อมั่นในตัวเองมาก”

คีน รู้สึกประทับใจในตัว เฮนเดอร์สัน มากก่อนจะเปิดโอกาสให้เข้าไปเล่นในทีมชุดใหญ่ของ ซันเดอร์แลนด์ ในปี 2008 โดยตลอด 3 ปี เฮนโด้ ลงเล่นให้กับพลพรรค “แมวดำ” ไปทั้งสิ้น 79 เกม ซัดไป 5 รวมทุกรายการ ก่อนจะถูกปล่อยให้กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2011 ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์

ปัจจุบันในวัย 30 ปี เฮนเดอร์สัน ถือเป็นกัปตันทีม ลิเวอร์พูล คนแรกที่พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก โดยที่ก่อนหน้านี้ เขาพาพลพรรค “หงส์แดง” ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี่ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลก

Photo : thenational.ae

มันไม่ใช่เพียงแต่ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมในสนามเท่านั้น แต่อิทธิพลของ เฮนเดอร์สัน ที่มีต่อ ลิเวอร์พูล นั้น มหาศาล ยกตัวอย่าง จากการที่เขาบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคมที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อทีมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่ “หงส์แดง” พ่ายในลีกนัดแรกของแรกซีซั่นนี้ให้กับ วัตฟอร์ด 3-0 และโดน เชลซี อัด 2-0 ตกรอบฟุตบอลถ้วยเอฟเอ คัพ

ขณะเดียวกัน เฮนเดอร์สัน ยังถือเป็นตัวเต็งในการคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมนักเตะอาชีพอังกฤษ (PFA) อีกด้วย และเวลานี้ความสำคัญของเขาที่มีต่อ ลิเวอร์พูล นั้น เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ อดีตเด็กปั้น ซันเดอร์แลนด์ ต้องทนต่อการเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเป็นเวลาหลายปี

เฮนเดอร์สัน ถูกตั้งคำถามอย่างหนักหลังย้ายไป ลิเวอร์พูล ในปี 2011 และถูกมองว่า ค่าตัวของเขาแพงเกินไป รวมถึงยังไม่ดีพอสำหรับติดทีมชาติอังกฤษด้วยซ้ำ นอกจากนี้ เมื่อปี 2013 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับท่าทางการวิ่งของเขาไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติอีกด้วย

ไรท์ กล่าวเสริมต่อว่า “การที่ จอร์แดน ย้ายไปที่ ลิเวอร์พูล มันเป็นเรื่องน่าเซอร์ไพรส์นะ ผมก็ยอมรับว่า ตัวเองยังสงสัยเลย และจริงๆแล้วผมประหลาดใจมากที่ ซันเดอร์แลนด์ ได้เงินจำนวนมากแบบนั้น”

Photo : tribuna.com

เกิดข้อสงสัยใน ลิเวอร์พูล ด้วยเช่นกัน เฮนเดอร์สัน ได้ลงสนามมากกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ ในฤดูกาลแรกของเขาที่แอนฟิลด์ แต่คำถามเกี่ยวกับความสามารถของเขายังคงอยู่ เมื่อ รอดเจอร์ส ที่เข้ามารับงานต่อจาก เคนนี่ ดัลกลิช ในปี 2012 นั้น เสนอ เฮนเดอร์สัน ให้กับ ฟูแล่ม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในดีลของ คลินต์ เดมพ์ซี่ มิดฟิลด์ขาวสหรัฐอเมริกา

เฮนเดอร์สัน รู้สึกเสียใจมากเมื่อ ร็อดเจอร์ส ไม่ต้องการเขาอีกต่อไป แต่เขายืนยันจะขอสู้ต่อที่แอนฟิลด์ โดยเจ้าตัวเล่าในภายหลังว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผมมาก แต่มันเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันช่วยผมได้ เมื่อมองย้อนกลับไปตอนนี้มันเป็นเหมือนแรงกระตุ้นให้ผม”

แม้จะมีข้อสงสัยคำถาม และคำวิจารณ์มากขึ้นในปีต่อๆมา แต่ เฮนเดอร์สัน ก็ยังยืนหยัดต่อสู้ด้วยการสร้างประทับใจ ร็อดเจอร์ส จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมแทนที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งอำลาสโมสรไปเมื่อปี 2015

ณ เวลานี้ ความสงสัยในตัว เฮนเดอร์สัน ค่อยๆหมดไป โดย ไรท์ ซึ่งเป็นเด็กฝึกหัดจากอคาเดมี่ของ ลิเวอร์พูล และปัจจุบันเป็นทีมงานแมวมอง “หงส์แดง” เล่าว่า “เขากำลังเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวที่มีตัวนักเตะระดับซีเนียร์อย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เคร็ก เบลลามี่ แต่เขาก็เป็นตัวของตัวเอง และมันยอดเยี่ยมมากที่เห็นเขาพัฒนาในแบบที่เขาเป็น เขาตั้งใจแน่วแน่จริงๆ คุณเห็นมันได้เลยในสายตาของเขา”

Photo : thekoptimes.com

เฮนเดอร์สัน ยังได้รับการยกย่องจากเพื่อนร่วมทีม ลิเวอร์พูล ชุดปัจจุบันของเขาเช่นกัน โดย เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ กองหลังชาวดัตช์ เคยอธิบายว่า “ผมไม่รู้ว่าเขาได้รับการชื่นชมนอกสโมสรหรือไม่ แต่ในสโมสรผมรู้แค่ว่าเราทุกคนต่างชื่นชมเขา”

ขณะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายทีมชาติสก็อตแลนด์ กล่าวถึง เฮนเดอร์สัน ว่า “เมื่อคุณเล่นกับเขา คุณฝึกซ้อมกับเขา และดูสิ่งที่เขาทำในสนามนั้น มันเป็นความสุขอย่างยิ่งที่เขาเป็นกัปตันของเรา” ส่วน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็คขวาดาวรุ่งกล่าวว่า เฮนเดอร์สัน เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ

เฮนเดอร์สัน ทุ่มเทอย่างหนัก และต้องการการอุทิศตนแบบเดียวกันจากเพื่อนร่วมทีม ความกระหายที่ไม่รู้จักพอในการพัฒนาตัวเองได้ทำให้เขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก และภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เฮนเดอร์สัน ก็ยิ่งแสดงความเป็นผู้นำออกมาอย่างชัดเจน

ย้อนกลับไปในเกมลีกที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ 1-0 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นกำลังฉลองชัยชนะที่ “หงส์แดง” นำโด่งเป็นจ่าฝูง 16 แต้ม แต่ เฮนเดอร์สัน กลับบอกว่า พวกเขายังทำได้ไม่ดีพอ และต้องมุ่งมั่นให้มากกว่านี้อีก

มีช่วงเวลาที่มากมายที่ เฮนเดอร์สัน แสดงออกถึงความเป็นผู้นำ คล็อปป์ อธิบายว่า เขาเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนร่วมทีม โดยหลังจากเปิดรังแอนฟิลด์เอาชนะ เซาแธมป์ตัน 4-0 ในเกมลีกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คล็อปป์ กล่าวว่า “เขาดูเหมือนกัปตันของทีมที่มีแต้มนำอันดับ 2 อยู่ 19 แต้มไหม? ไม่เลย สิ่งที่เขาทำมันเหมือนกับว่า ถ้าเราแพ้เราจะต้องตกชั้น”

ไรท์ กล่าวเสริมต่อว่า  “คุณจะเห็นว่า เขาเป็นมืออาชีพมากตั้งแต่เป็นดาวรุ่งแล้ว เขามักจะพักช้ากว่าคนอื่นๆในการฝึกซ้อม เขาจะซ้อมเตะฟรีคิก หรือสิ่งอื่น ๆ ต่อตามที่เขาต้องการ ในสนามเขามีสมาธิมาก และตอนนี้เขาก็เหมือนเดิม เขาไม่เคยพูดเรื่องคว้าแชมป์ลีกเลย เขาแค่คิดเกี่ยวกับเกมต่อไปเท่านั้น”

Photo : premierleague.com

ทัศนคตินั้นอาจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ เฮนเดอร์สัน นำมาสู่ ลิเวอร์พูล เขาเติบโตขึ้นในฐานะผู้เล่น และเป็นผู้นำทีม และมันเห็นได้ชัดมากขึ้นตั้งแต่เขาถูกปรับจากตำแหน่งโฮลดิ้งมิดฟิลด์ขึ้นไปเล่นเป็นกองกลาง บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ทางฝั่งขวาตามที่ถนัด

ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของ เฮนเดอร์สัน ทำให้ คล็อปป์ ต้องออกขอโทษที่ก่อนหน้านี้ใช้เขาใช้ อดีตเด็กปั้น ซันเดอร์แลนด์ ในบทบาทที่ไม่คุ้นเคย โดยนายใหญ่ “หงส์แดง” ระบุว่า “ผมขอโทษสำหรับสิ่งนั้น แต่เราต้องการเขาในตำแหน่งนั้น”

เฮนเดอร์สัน มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเกมของ ลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคุมจังหวะ, การสร้างสรรค์เกม, การผ่านบอล และการกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม ซึ่งมันเป็นฟอร์มการเล่นที่สมบูรณ์แบบของดาวเตะวัย 30 ปี

เฮนเดอร์สัน โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในตำแหน่งที่ตัวเองชื่นชอบ แต่เขาก็พร้อมจะปรับบทบาทเมื่อ คล็อปป์ ต้องการ ยกตัวอย่างในช่วงที่ ฟาบินโญ่ ห้องเครื่องชาวบราซิลได้รับบาดเจ็บยาว เฮนเดอร์สัน ก็ทำหน้าที่แทนในตำแหน่งโฮลดิ้งมิดฟิลด์ได้อย่างไม่มีที่ติ 

เฮนเดอร์สัน เคยให้สัมภาษณ์ถึงการเล่นในตำแหน่งที่แตกต่างออกไปว่า “ผมมีผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมรอบตัว ผมแค่พยายามทำงานของตัวเองให้ดีที่สุดสำหรับทีม และมันดีที่เราได้รับชัยชนะ หากผู้จัดการทีมต้องการให้ผมไปเล่นตรงนั้นอีกครั้ง ผมก็จะทำ”

Photo : rte.ie

ความไม่เห็นแก่ตัวของ เฮนเดอร์สัน กลายเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ขาดเขาไม่ได้ มีคนมากมายที่สงสัยว่า เขามาสู่จุดนี้ได้อย่างไร แต่หากมองย้อนกลับไปในเหตุการณ์ที่นักเตะดาวรุ่งคนหนึ่งกำลังกล้าโต้ตอบกับ รอย คีน ซึ่งกำลังโมโหที่ ซันเดอร์แลนด์ มันก็ไม่มีอะไรที่ต้องสงสัยอีกแล้ว

เจมี่ เร็ดแนปป์ อดีตมิดฟิลด์กัปตันทีม ลิเวอร์พูล กล่าวถึง เฮนเดอร์สัน ว่า “จอร์แดน เป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบ เมื่อเขาได้บอลเขา และมี 3 กองหน้าอย่าง ซาดิโอ มาเน่, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และโรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ความคิดแรกของเขาก็คือ ฉันจะรีบผ่านบอลให้พวกเขาโดยเร็วที่สุด”

“เขาเป็นผู้นำ และเป็นผู้เล่นควรเคารพเขาอย่างแท้จริง เขาทำประตูสำคัญให้กับทีม ลิเวอร์พูล เขาเป็นกัปตันทีมที่ไม่ได้คว้าเพียงแต่ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปีที่แล้ว แต่ปีนี้เขาพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จแล้ว มันเป็นปรากฎการณ์สำหรับเขา”

“ผมรู้ถึงแรงกดดันของการเป็นกัปตันทีม ลิเวอร์พูล อย่างดี ผมจำได้ว่าตอนที่ผมได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมครั้งแรก ผมเล่นได้ไม่ดีเลย ผมรู้มันยากแค่ไหน เพราะคุณต้องพยายามทำให้ตัวเองเป็นผู้นำ และแฟนๆจะมองคุณในฐานะกัปตัน เพราะพวกเขาเคยมีนักเตะอย่าง แกรมม์ ซูเนสส์ และ ฟิล ธอมป์สัน ซึ่งมันกดดันมาก”

“แต่กับ จอร์แดน เขาได้ตระหนักถึงสิ่งที่เขาต้องทำ และเขามั่นใจมาก เขาไม่กังวลเกี่ยวกับการต้องเป็นตัวแทนของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เลย ซึ่งมันยากจริง ๆ ผมเคยเล่นกับสตีเว่น แฟน ๆ ต่างชื่นชอบเขา เขาเป็นหนึ่งในเด็กที่เติบโตมาจากท้องถิ่น และจอร์แดน ต้องเอาชนะใจแฟนบอลให้ได้ และเขาก็ทำอย่างนั้นได้แล้ว และตอนนี้แฟนบอลทุกคนรู้คุณค่าของสิ่งที่เขานำมาสู่สโมสรแล้ว” เร็ดแนปป์ กล่าวปิดท้าย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้