การที่ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เซ็นสัญญากับ คอสตาส ซิมิกาส แบ็คซ้ายทีมชาติกรีซ มาจาก โอลิมเปียกอส ด้วยค่าตัว 11.75 ล้านปอนด์ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา สร้างความประหลาดใจให้กับหลายๆคน แต่มันไม่ใช่สำหรับ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ที่ยืนยันว่า ตนเองเฝ้าจับตาดาวเตะรายนี้มานานแล้ว

ในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ติดตามฟอร์มของ ซิมิกาส อย่างต่อเนื่องนับตังแต่เจ้าตัวลงเล่นให้กับ โอลิมเปียกอส ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ รวมถึงในเกมยูโรป้า ลีก กับ อาร์เซนอล และวูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งฟูลแบ็ควัย 24 ปี รับมือกับบรรดาแนวรุกที่จัดจ้านของทีมในพรีเมียร์ลีกได้อย่างยอดเยี่ยม

ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2017-2018 ซิมิกาส ย้ายจาก โอลิมเปียกอส ไปเล่นกับ วิลเล่ม ทเว ในศึกเอริวิซี่ลีก ฮอลแลนด์ ด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งทำให้เขาได้เล่นในทีมเดียวกับ เปโดร ชิริเบย่า กองกลางชาวสเปน ที่ ย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวเช่นกัน โดย ซิมิกาส ทำผลงานได้อย่างสุดยอดด้วยการลงสนามไปมากถึง 37 เกมรวมทุกรายการ ซัดไป 6 ประตู 

พัฒนาการที่ต่อเนื่องจาก วิลเล่ม ทเว มาจนถึง 2 ฤดูกาลล่าสุดกับ โอลิมเปียกอส นั้น ทำให้ ซิมิกาส ตกเป็นเป้าหมายของ ลิเวอร์พูล ในการมองหาผู้เล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายเข้ามาแบ่งเบาภาระของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฟูลแบ็คทีมชาติสก็อตแลนด์

ขณะเดียวกัน ซิมิกาส ยังเคยย้ายไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวกับ เอสเบิร์ก ในลีกเดนมาร์ก มาแล้วเมื่อซีซั่น 2016-2017 ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเขา โดย เท็ด ฟาน ลูเว่น ผู้อำนวยการกีฬาชาวดัตช์ของ เอสเบิร์ก ระบุว่า แม้จะเจออุปสรรค์แต่ ดาวเตะกรีซ ก็พร้อมต่อสู้เพื่อให้ตัวเองกลายเป็นนักเตะชั้นยอด

ฟาน ลูเว่น เป็นคนแนะนำให้ ซิมิกาส ย้ายไปยัง วิลเล่ม ทเว รวมถึงบอกกับ เรนิเยร์ ร็อบเบมอนด์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม วิลเล่ม ทเว ในเวลานั้นว่า ซิมิกาส เป็นนักเตะที่มีศักยภาพ แต่เขาเจอสถานการณ์ยากลำบากกับ เอสเบิร์ก

ร็อบเบมอนด์ เริ่มทำหน้าที่ผู้ช่วยกุนซือ วิลเล่ม ทเว ในช่วงต้นซีซั่น ก่อนจะรับหน้าที่คุมทัพเต็มตัวในช่วงปลายฤดูกาลยังคงติดต่อกับ ซิมิกาส อยู่เสมอ และล่าสุดเขาส่งข้อความแสดงความยินดีกับอดีตลูกทีมที่ได้ย้ายไปเล่นกับ ลิเวอร์พูล เรียบร้อยแล้ว

ในระหว่างที่เล่นด้วยสัญญายืมตัวกับ วิลเลม ทเว ซิมิกาส ทำสถิติเป็นกองหลังที่เข้าปะทะคู่แข่งมากที่สุดในเอริวิซี่ลีก ด้วยจำนวน 97 ครั้ง และเป็นผู้เล่นแนวรับที่เลี้ยงบอลประสบความสำเร็จมากที่สุดด้วยจำนวน 56 ครั้ง มันแสดงให้เห็นว่า สไตล์ของเขาเหมาะสมกับ ลิเวอร์พูล อย่างมาก

ร็อบเบมอนด์ เริ่มกล่าวว่า “สถิติเหล่านั้น คือ จุดแข็งของเขาจริงๆ  และความพิเศษของเขาคือ ทำให้ทีมเราเปิดเกมรุกได้ทันที นอกจากนี้เขายังครอสบอลได้ยอดเยี่ยม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสไตล์กองหน้าที่เรามีในทีม เขาเป็นอาวุธชั้นยอดของเรา และเขายังยิงประตูได้ดีด้วย ดังนั้น เขาจึงเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล ซึ่งนั่นเป็นเพราะความทุ่มเทที่เขามอบให้กับเราในทุกเกม”

“สำหรับเราเขาเป็นผู้เล่นที่สำคัญมาก ๆ เขาแสดงให้เห็นว่า ตัวเองสามารถก้าวผ่านฤดูกาลที่ยากลำบากได้ เขาเป็นคนที่ดีมาก ๆ เขาเป็นคนที่มีความสุขตลอดเวลา และมีอิทธิพลที่ดีต่อทีมอยู่เสมอ ทั้งหมดนั้นเป็นบุคลิกของเขา”

“แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นสำหรับเขา เขามีปัญหาบางอย่างในช่วงแรกเพราะเขาเป็นนักเตะใหม่ที่ที่ต้องปรับตัว และต้องพยายามทำให้ตัวเองรู้สึกมีความสุขในสโมสร แต่ทันทีที่เขาเริ่มปรับตัวได้ และรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้าน เขาก็พัฒนาขึ้นทุกสัปดาห์”

“เขาชอบเล่นเกมรุกมาก แต่บางครั้งเขาก็ดูสมาธิหลุดไปเล็กน้อย จากนั้น เขาก็ค่อยๆปรับปรุงตัวเอง เขากล้าที่จะเล่น เราค่อยๆทำงานร่วมกับเขา และไม่นาน เขาก็เล่นได้แน่นอนมากขึ้นทั้งในเกมรุก-เกมรับ”

อดีตเทรนเนอร์ขัดตาทัพ วิลเลม ทเว อธิบายต่อว่า “ นอกจากนี้ มันยังเป็นความจริงที่ว่าเราเปลี่ยนวิธีการเล่นเล็กน้อยในช่วงฤดูกาลเราเริ่มต้นฤดูกาลโดยการเล่นกองหลัง 5 คน และให้เขาเป็นวิงแบ็ค จากนั้น เราเปลี่ยนมาเล่นกองหลัง 4 คน ซึ่งในช่วงแรกเขามีปัญหาเล็กน้อยกับการป้องกันในระบบที่เราเล่น และหลังจากนั้น เขาก็เริ่มเข้าใจแท็คติค และพัฒนาขึ้นมาก”

ร็อบเบมอนด์ มั่นใจว่า หลังหมดสัญญายืมตัวกับ วิลเลม ทเว ซิมิกาส จะกลับไปเป็นตัวหลักที่ โอลิมเปียกอส ได้แน่นอน ซึ่งในเวลานั้น ร็อบเบมอนด์ ก็ย้ายไปเป็นผู้ช่วย มาร์ค ฟาน บอมเมล ที่ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และพยายามโน้มน้าวให้ต้นสังกัดใหม่เซ็นสัญญากับ ซิมิกาส

ร็อบเบมอนด์ เล่าว่า “ในตอนนั้น โฮเซ่ อังเจลิโน่ (แบ็คซ้าย) กำลังจะย้ายจาก พีเอสวี กลับไปยัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผมพูดถึงชื่อ คอสตาส ในที่ประชุมทีมงานสรรหานักเตะใหม่ของ พีเอสวี เพราะผมคิดว่าเขาจะต้องเหมาะสมกับสไตล์แท็คติคของ ฟาน บอมเมล แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีความคิดเห็นเหมือนกันกับผม นั่นเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับเรา”

ร็อบเบมอนด์ ลังเลที่จะเปรียบเทียบ ซิมิกาส กับ โรเบิร์ตสัน เพราะเขาไม่เคยร่วมงานกับ แบ็คชาวสก็อตแลนด์ แต่เขาคิดว่า ซิมิกาส มีสไตล์การเล่นใกล้เคียงกับ อังเจลิโน่ ที่ปัจจุบันกับกำลังเล่นกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในบุนเดสลีกา เยอรมัน มากกว่า

อดีตผู้ช่วยโค้ช พีเอสว่า กล่าวว่า “ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะแบบนั้น ไม่แปลกใจเลยสำหรับผมที่เขาทำได้ดีกับ โอลิมเปียกอส แต่แน่นอนว่า ความเร็วในการเล่นในพรีเมียร์ลีกจะสูงขึ้นมากแม้แต่ในการฝึกซ้อมเองก็ตาม ซึ่งนั่นจะเป็นงานแรกของเขาก่อนที่เขาจะคิดเรื่องการต่อสู้เพื่อตำแหน่งตัวจริง ผมคิดว่า การก้าวไปสู่หนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา”

“สิ่งที่เขาชอบคือ เขาเตรียมพร้อมทางจิตใจเสมอ และนั่นจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลังการเซ็นสัญญาครั้งนี้ ซิมิกาส อายุ 24 ปี เขายังคงมีศักยภาพให้พัฒนาได้อีกมาก เขาไม่ได้เด็กไปที่สโมสรจะซื้อความสามารถในอนาคตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เขามีประสบการณ์พอสมควร และปีที่ดีที่สุดของเขารออยู่ข้างหน้าแล้ว”

นั่นเป็นแนวทางการเสริมทัพของ ลิเวอร์พูล ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยภายใต้การคุมทัพของ คล็อปป์ นั้น พวกเขาเซ็นสัญญากับนักเตะที่มีอายุเกิน 26 ปี เพียงรายเดียวก็คือ แร็กนาร์ คลาวาน เซ็นเตอร์แบ็กตัวสำรอง และค่าเฉลี่ยอายุการเซ็นสัญญานักเตะใหม่ของ “หงส์แดง” อยู่ที่ 24 ปี

ร็อบเบมอนด์ กล่าวว่า “เขาย้ายทีมในเวลาที่เหมาะสม เขาเป็นคนที่สนุกกับทุกอย่าง และมีความสุขมากกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเป็นคนที่สร้างเรื่องตลก และสนุกสนานมากมาย แต่เขาก็มีความเป็นมืออาชีพ และทำในสิ่งที่จำเป็นในสนามทุกวัน”

“เขาเติบโตขึ้น และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นในการเตรียมตัวสำหรับทุกเกมผมมั่นใจว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นที่ โอลิมเปียกอส เช่นกัน เขาพัฒนาขึ้นในทุกๆด้าน”

ขณะเดียวกัน คล็อปป์ กล่าวถึง ลูกทีมคนใหม่ว่า “เขาเป็นนักฟุตบอลที่ดีมาก และมีทัศนคติที่จะคว้าแชมป์ในทุกรายการที่ลงสนาม ผมชอบความคิดของเขามาก มันเข้ากันได้ดีกับอารมณ์ และความปรารถนาที่เรามีในห้องแต่งตัวของเราอยู่แล้ว”

ไม่มีการรับประกันถึงการลงสนามนัดแรกในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ของ ซิมิกาส ซึ่งแม้แต่ โรเบิร์ตสัน เองก็ยังใช้เวลาหลายเดือนเพื่อชิงตำแหน่งของตัวเอง แต่คาดว่า ฟูลแบ็คชาวกรีซ จะได้โอกาสลงเล่นฟุตบอลถ้วยภายในประเทศก่อน

ร็อบเบมอนด์ กล่าวปิดท้ายว่า “ตอนนี้เขาได้ก้าวสู่ ลิเวอร์พูล แล้ว และแน่นอนว่านั่นเป็นเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ แต่สำหรับเขามันคือความฝันที่เป็นจริง ผมภูมิใจในตัวเขาจริงๆ มันเป็นความท้าทายที่น่าเหลือเชื่อ”