แน่นอนว่า ทุกสโมสรบนโลกใบนี้ใครก็อยากได้ตัว ลิโอเนล เมสซี่ จอมทัพตัวเก่งของ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ไปร่วมทีม หลังเจ้าตัวออกมาประกาศความต้องการขอย้ายออกจากถิ่นคัมป์ นู ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

แต่ในความเป็นจริงสถานการณ์ของ เมสซี่ มีความซับซ้อนอย่างมาก และไม่ใช่ว่า ทุกสโมสรจะสามารถเซ็นสัญญากับเขาได้ง่ายๆ และหากมองกันตามเนื้อผ้าแล้วมีเพียงไม่กี่ทีมเท่านั้นที่เหมาะสมกับ ซุเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนติน่า

ปลายทางต่อไปของ เมสซี่ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ทางเลือกเหล่านี้มีความเป็นไปได้มากที่สุดสำหรับเส้นทางอาชีพของเขาในอนาคต

2 ทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์

เมสซี่ เป็นแฟนตัวยงของศึกพรีเมียร์ลีก เขาติดตาม และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟุตบอลอังกฤษมาหลายปีแล้ว นอกจากนี้ สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ ยังมีเพื่อนสนิทที่ค้าแข้งในเมืองผู้ดีมานานอย่าง เซอร์จิโอ อเกวโร่ หัวหอก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชส ฟาเบรกาส อดีตกองกลาง อาร์เซนอล และ เชลซี 

แน่นอนว่า มีเหตุผลมากมายสำหรับความคิดที่ว่า เมสซี่ จะย้ายไปเล่นกับ แมนฯ ซิตี้ โดยเหตุผลหลักก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” ที่เคยปลุกปั้น และทำงานร่วมกับเขาที่ บาร์เซโลน่า มานานหลายปี และยังรวมไปถึง ซิกิ เบกิริสไตน์ อดีต ผอ.เทคนิค บาร์ซ่า ซึ่งปัจจุบันเป็น ผอ.กีฬา ที่ แมนฯ ซิตี้

ขณะเดียวกัน แมนฯ ซิตี้ เป็นเพียงไม่กี่สโมสรบนโลกใบนี้ที่สามารถตอบสนองเรื่องค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลของ เมสซี่ ได้ และตัว ดาวเตะวัย 33 ปี ก็รู้ดีว่า กวาร์ดิโอล่า พร้อมจะสร้างทีมรอบตัวเขา และทำให้เขากลายเป็นคีย์แมนของ “เรือใบสีฟ้า”

นอกจาก แมนฯ ซิตี้ แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นอีกทีมที่สนใจ เมสซี่ อย่างจริงจัง ในขณะที่สโมสรระดับท็อปในพรีเมียร์ลีกอย่าง เชลซี, ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ต่างกำลังสร้างทีมในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งชื่อของ เมสซี่ ไม่ได้อยู่ในข่ายที่พวกเขาสนใจจะเซ็นสัญญาด้วย

สโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรป

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมรองแชมป์ยุโรปฤดูกาลล่าสุดมีโอกาสมากที่สุดในการคว้า เมสซี่ ไปร่วมทีม เนื่องจากพวกเขามีทรัพยากรทางการเงินมากพอที่จะเสนอค่าเหนื่อยมหาศาลให้กับ จอมทัพชาวอาร์เจนติน่า ได้พิจารณา 

เปแอสเช เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยหากมองถึงโอกาสที่ เมสซี่ จะได้หวนกลับมาเล่นกับเพื่อนเก่าในทีม บาร์เซโลน่า อย่าง เนย์มาร์ ดาวยิงทีมชาติบราซิล ซึ่งย้ายออกจาถิ่นคัมป์ นู ไปเมื่อปี 2017

ขณะเดียวกัน อินเตอร์ มิลาน รองแชมป์ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลล่าสุด ก็กำลังเดินหน้าไล่ล่าลายเซ็นของ เมสซี่ เช่นเดียวกัน โดยรายงานข่าวระบุว่า สตีเว่น จาง ประธาน “งูใหญ่” ได้ส่งทีมงานไปเจรจารายละเอียดต่างๆกับตัวแทน เมสซี่ แล้วด้วย

นอกจาก อินเตอร์ แล้ว ชื่อของ ยูเวนตุส ก็ตกเป็นข่าวพัวพันกับ เมสซี่ เช่นกัน ซึ่งหากเขาตัดสินใจย้ายไปยัง “เจ้าม้าลาย” จริง มันคงเป็นโอกาสดีของแฟนบอลทั่วโลกที่จะได้เห็นเจ้าตัวค้าแข้งในทีมเดียวกันกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซุเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกส

มุ่งหน้ากลับบ้านเกิดหรือย้ายไปเล่นในเอเชีย

ตัวเลือกที่โรแมนติกคือให้ เมสซี่ กลับไปที่อาร์เจนตินา และเซ็นสัญญากับสโมสรในวัยเด็กของเขาอย่าง นีเวลล์ โอลด์ บอยส์ โดยก่อนหน้านี้ เจ้าตัวเคยพูดไว้หลายครั้งว่า อยากกลับไปเล่นในบ้านเกิดก่อนจะแขวนสตั๊ด แต่หากพิจารณาเรื่องสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวมันก็ค่อนข้างยากที่เขาจะเลือกทางเดินนี้

บางที เอเชีย ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยอดีตเพื่อนร่วมทีม บาร์เซโลน่า อย่าง ชาบี เอร์นานเดซ ซึ่งปัจจุบันเป็นกุนซือ อัล ซาดด์ สโมสรในลีกกาตาร์ และ อันเดรส อิเนียสต้า ที่กำลังค้าแข้งกับ วิสเซล โกเบ ในศึกเจ ลีก ประเทศญี่ปุ่น ต่างก็เคยแชร์ประสบการณ์ รวมถึงวัฒนธรรมที่แปลกใหม่ให้กับ เมสซี่ ได้ฟังอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม เมสซี่ ยังคงเล่นในระดับสูงได้อีกหลายปี และที่สำคัญคือ เขากำลังโหยหาถ้วยยูฟ่า แชม เปี้ยนน์ ลีก ที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลายปีแล้ว ซึ่งมันเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เขาอาจตัดสินใจค้าแข้งในยุโรปต่อไป

อยู่กับ บาร์เซโลน่า ต่อไป

แม้ว่าความมุ่งมั่นของ เมสซี่ ที่จะย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า เป็นเรื่องที่จริงจัง แต่เราก็ไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ทิ้งถ้าเขาจำเป็นต้องอยู่ในถิ่นคัมป์ นู ต่อไป

หากมองตามหลักความจริงในเวลานี้ บาร์เซโลน่า ถือไพ่เหนือกว่า เมสซี่ เล็กน้อย โดยหาก โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสร “เจ้าบุญทุ่ม” ประกาศว่า เขาพร้อมจะขาย เมสซี่ หากมีสโมสรใดพร้อมจ่ายค่าฉีกสัญญา 700 ล้านยูโร มันก็เป็นเรื่องยากที่ทีมใดจะกล้ายื่นข้อเสนอเข้ามา

ในกรณีนี้เราอาจได้เห็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดซึ่งก็คือ เมสซี่ จะไม่ได้ลงเล่นเลยตลอดฤดูกาล 2020-2021