Home บทความฟุตบอล เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้สานต่อความสำเร็จ เลสเตอร์

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้สานต่อความสำเร็จ เลสเตอร์

0
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้สานต่อความสำเร็จ เลสเตอร์

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากในการพาพลพรรค “สุนัขจิ้งจอก” ลุยศึกฤดูกาลใหม่ นอกจากนี้ เขายังได้วางทิศทางอนาคตของทีมหลังเข้ามากุมบังเหียนในถิ่น คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เป็นเวลาปีกว่าแล้ว

ร็อดเจอร์ส ซึ่งย้ายจาก กลาสโกลว์ เซลติก มาคุม เลสเตอร์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 เริ่มกล่าวว่า “ไม่มีถูกหรือผิดหรอก ถ้าผู้คนอยากพูดว่า เราใช้เวลา 33 จาก 38 สัปดาห์ ด้วยการไม่ได้อยู่ในพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเราก็พลาดโอกาสตรงนั้นไปแล้ว แน่นอนว่า มันน่าผิดหวัง แต่ผมยอมรับได้”

“หรือบางทีพวกเขาอาจบอกว่า เลสเตอร์ จบซีซั่นด้วยอันดับ 9 มา 2 ปีติดแล้ว และมีงบประมาณน้อยกว่าบางทีม รวมทั้งคุณภาพเชิงลึกที่ด้อยกว่าทีมในท็อปโฟร์ แต่ปีล่าสุดเราจบด้วยอันดับที่ 5 และได้ไปเล่นในฟุตบอลยุโรป นั่นก็คือ คำพูดที่ถูกอีกเช่นกัน”

บรรยากาศโดยรอยสโมสร เลสเตอร์ เวลานี้เต็มไปด้วยความท้าทาย และน่าตื่นเต้น โดยในฤดูกาลล่าสุด ร็อดเจอร์ส ก็พาทีมจบด้วยอันดับ 5 ซึ่งนับเป็นอันดับที่สูงสุดลำดับที่ 2 ของ “สุนัขจิ้งจอก” ในรอบ 60 ปีเลยทีเดียว

ขณะเดียวกัน มันก็ค่อนข้างน่าผิดหวังสำหรับ เลสเตอร์ ซึ่งในฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาเคยทำแต้มทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี แต่ต้องตกม้าตายตอนจบด้วยการพลาดตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้กับ “ปีศาจแดง” และ“สิงโตน้ำเงินคราม”

Photo : khmertimeskh.com

งานของ ร็อดเจอร์ส ในตอนนี้คือ การพัฒนาฟอร์มของ เลสเตอร์ ให้สม่ำเสมอมากกว่าเดิม โดยฤดูกาลใหม่นี้ เขาพาทีมเก็บชัยชนะได้ 3 เกมรวด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนำ “สุนัขจิ้งจอก” โชว์ฟอร์มสุดยอดบุกไปถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเต็งแชมป์ถึงถิ่น 5-2 แต่เกมต่อมากลับต้องพ่ายคาบ้านให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แบบหมดรูป 0-3

แม้จะเคยพาทีมไปเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้ถึงถิ่น แต่ ร็อดเจอร์ส ก็ยังคงชื่นชมความยอดเยี่ยมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โค้ช “เรือใบสีฟ้า” ซึ่งเปรียบเสมือนไอดอลของกุนซือยุคใหม่ที่นำแท็คติค และแนวทางที่ทันสมัยมาสู่โลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน

ร็อดเจอร์ส กล่าวว่า “เขาทำการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างจากสิ่งที่เขาเคยทำที่ บาร์เซโลนา และมันเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน การสร้างสรรค์แท็คติคใหม่ๆของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั้น สุดยอดมาก”

 ร็อดเจอร์ส พูดถึงระบบ 3-4-3 ที่ กวาร์ดิโอล่า ชอบใช้กับ แมนฯ ซิตี้ แต่สำหรับตัวเขานั้น ชื่นชอบระบบ 4-3-3 มากเป็นพิเศษ และในบางโอกาสเขาก็จะปรับไปเล่นระบบอื่นๆตามความเหมาะสมของคู่แข่งที่ต้องเผชิญหน้าด้วย

“เมื่อใดก็ตามที่คุณเป็นโค้ชที่สามารถปรับเปลี่ยนระบบต่างๆตามความเหมาะสมได้นั้น มันจะทำให้โค้ชฝ่ายตรงข้ามคิดเสมอว่า คุณรู้รายละเอียดของเกมเป็นอย่างดี แต่ก็มีเรื่องน่าประหลาดใจอยู่เสมอ เช่น ผู้เล่นคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาเล่นในตำแหน่งที่แตกต่างกันในช่วง 5-10 นาทีแรก ซึ่งมันทำให้คุณต้องวิเคราะห์ และเตรียมพร้อมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม” นายใหญ่ เลสเตอร์ กล่าว

ในฤดูกาลที่ผ่านมา เลสเตอร์ ต้องทำแต้มหล่นไปถึง 24 คะแนน จาก 22 เกมสุดท้าย แต่ในช่วงก่อนหน้านั้นพวกเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเก็บชันะได้ถึง 8 เกมรวด ซึ่งหนึ่งในเกมที่น่าจดจำคือการบุกไปถล่ม เซาแธมป์ตัน ถึงบ้าน 9-0

Photo : foxesofleicester.com

ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของ เลสเตอร์ ค่อยๆตกลงไปในช่วงที่ผู้เล่นตัวหลักอย่าง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้,  ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่ อีแวนส์ และ เจมส์ แมดดิสัน ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมันทำให้แฟนบอล “สุนัขจิ้งจอก” ค่อนข้างกังวลพอสมควร แต่ในเวลานี้ นักเตะเหล่านั้นบางรายเริ่มกลับมาลงสนามได้แล้ว

ร็อดเจอร์ส อธิบายว่า “มีสโมสรมากมายอยู่รอบตัวเรา พวกเขามีทรัพยากรขนาดใหญ่ น่าเสียดายที่เราทำแบบนั้นไม่ได้ แต่ผมคิดว่านั่นแสดงให้เห็นว่าทีมนี้ทำได้ดีแค่ไหน เราต้องหาวิธีที่แตกต่างออกไปเพื่อที่จะอยู่ในระดับนั้น เราไม่สามารถใช้เงินเหมือนทีมใหญ่ๆได้ แต่เราจะหาทางแก้ไขด้วยวิธีอื่นได้หรือไม่นั่นยังเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับผม”

“ประการแรกคือ เรามีผู้เล่นอายุน้อยจำนวนมากที่สามารถพัฒนาได้ ซึ่งฤดูกาลที่แล้วเราแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงมากมายในทีม ผมรู้สึกเสมอว่า 2 สิ่งที่จะช่วยให้เราปรับปรุง และพัฒนากระบวนการนี้ต่อไปได้อย่างหนึ่งคือเวลา นั่นหมายถึงเวลาในการทำงานร่วมกับผู้เล่นที่อยู่ที่นี่เพื่อทำให้พวกเขาดีขึ้นทุกปีโดยเฉพาะผู้เล่นอายุน้อย”

“พวกเขาจะได้รับจากประสบการณ์ของฤดูกาลที่แล้วทั้งดีและไม่ดี เวลาจะปรับปรุง เจมส์ แมดดิสัน และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ความสม่ำเสมอจะทำให้เราดีขึ้นเช่นกัน และมันต้องมาพร้อมกับการแนะนำที่ดี รวมถึงคุณภาพนักเตะใหม่ที่เราสามารถนำเข้ามาได้ เราต้องคิดว่า ใครจะช่วยเราปรับปรุงเราได้ และเราก็นำผู้เล่นที่มีคุณภาพแบบนั้นเข้ามา 2 คน นั่นยอดเยี่ยมมาก”

Photo : tsn.ca

นักเตะใหม่ที่ ร็อดเจอร์ส พูดถึงก็คือ ติโมธี คาสตันเย่ ฟูลแบ็กทีมชาติเบลเยียม ที่คว้าตัวมาจาก อตาลันต้า และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม รวมทั้ง เซนกิซ อุนเดอร์ ปีกดาวรุ่งทีมชาติตุรกี ที่ยืมตัวมาจาก โรม่า ซึ่งจะมาเพิ่มมิติในเกมรุก 

ขณะเดียวกัน ร็อดเจอร์ส ก็อยากได้กองหน้าตัวใหม่เข้ามาแบ่งเบาภาระ เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอกวัย 33 ปี รวมถึงกองหลังที่จะเข้ามาเสริมเกมรับ และล่าสุดพวกเขาได้ตัว เวสลีย์ โฟฟาน่า ปราการหลังดาวรุ่ง จาก แซงต์ เอเตียน ไปร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว

“ผมเป็นโค้ช ผมรักการทำงานร่วมกับผู้เล่นของผม ผมสนุกไปกับกระบวนการนี้มากกว่าที่จะใช้มันไปกับการกังวลกับสิ่งที่ผมไม่มี เพราะผมรู้ว่า ผมยังปรับปรุงทีมได้อีกทั้งในเชิงกลยุทธ์ และทางร่างกายที่ต้องทำกับผู้เล่นที่อยู่ที่นี่”

“ในตอนท้ายของตลาดนักเตะผมยินดีที่จะทำงานร่วมกับผู้เล่นที่ผมมีอยู่ หากเราไม่สามารถคว้าตัวผู้เล่นเข้ามาได้ เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า และข้อจำกัดที่เรามีนั้น มันก็เป็นเพียงแค่โชคร้ายที่ผมต้องเจอ ผมพร้อมจะได้ร่วมงานกับผู้เล่นที่ผมมีอยู่ที่นี่ พัฒนาพวกเขา และสนุกไปกับมัน” ร็อดเจอร์ส กล่าว

Photo : theathletic.com

ไม่ใช่แค่ แมดดิสัน และ บาร์นส์ เท่านั้น ที่เป็นดาวรุ่งน่าจับตามองของ เลสเตอร์ โดยนักเตะอายุน้อยที่ก้าวขึ้นมาจากทีมเยาวชนอย่าง ลุค โธมัส, ฮัมซ่า ชูดูรี่ และ เคียร์แนน เดวส์บิวรี่-ฮอลล์ ต่างก็ได้ลงสนามในเกมคาราบาวคัพ ที่พ่ายให้กับ อาร์เซน่อล 0-2 เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา

ร็อดเจอร์ส กล่าวว่า “นักเตะเยาวชนของ เลสเตอร์ ทุกคนมีความสามารถที่จะก้าวขึ้นไปอีกระดับ นั่นคือ ความสวยงามของมันสิ่งที่เราพยายามทำ เรากำหนดมาตรฐานในการฝึกซ้อมทุกวัน ความคิด และความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาพวกเขาให้ดีขึ้น”

“ผมเฝ้าดูกับสิ่งที่พวกเขาทำ พวกเขายังมีหนทางอีกยาวไกล พวกเขาก็หิวกระกายที่จะพัฒนาตัวเอง เมื่อคุณเห็นประสิทธิภาพ และศักยภาพของพวกเขาที่สามารถพัฒนาต่อไปได้ มันจะทำให้คุณตื่นเต้น”

ก้าวต่อไปสำหรับทีมของ ร็อดเจอร์ส ในฤดูกาลนี้จะเป็นความท้าทายที่แตกต่างออกไปสำหรับผู้เล่นอายุน้อยเหล่าของเขา ซึ่งนอกจากมีคิวต้องทำศึกพรีเมียร์ลีกแล้ว พลพรรค “สุนัขจิ้งจอก” ยังต้องเล่นในศึกยูโรป้า ลีก อีกด้วย

อดีตโค้ช เซลติก อธิบายว่า “ด้วยเกมจำนวนมากมันจะเป็นการยากที่จะทำงานในระดับเข้มข้นสูงดังนั้น เราจึงต้องมีการฟื้นฟูสภาพร่างกายเยอะมาก รวมถึงการวิเคราะห์ผ่านวิดีโอทั้งรายบุคคล และทีม แน่นอนว่า มีปัจจัยทางจิตวิทยาสำคัญอย่างมาก คุณกำลังเดินทางไปแข่งขันทั่วทุกที่ มันน่าตื่นเต้นที่ได้เล่นในฟุตบอลยุโรป มันท้าทายมาก”

“นั่นคือความทะเยอทะยานที่เรามี เราจะพาสโมสรนี้ไปเล่นในฟุตบอลยุโรปได้ไหม? เราทำได้แล้วตอนนี้ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่ากำลังรอเราอยู่ที่นั่น และความท้าทายในปีนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีกสำหรับผู้เล่นของเรา เพราะคุณต้องแข็งแกร่ง คุณต้องแข็งแกร่งทั้งร่างกาย และจิตใจ มันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่มาก แต่นั่นคือจุดที่เราต้องการ”

Photo : ronaldo.com

นอกจากนี้ ความต้องการของ ร็อดเจอร์ส คือ ต้องมีความยืดหยุ่นทางแท็คติคด้วย เลสเตอร์ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเล่นระบบ 4-3-3 แต่ตอนนี้ พวกเขาสามารถปรับไปเล่นในระบบกองหลัง 3 คน ได้เช่นกัน

ร็อดเจอร์ส  กล่าวว่า “ผมชอบที่ทีมสามารถเล่นระบบแตกต่างกัน และเล่นได้ดี ซึ่งทีมนี้ได้แสดงให้เห็นแล้ว นั่นคือวิวัฒนาการที่คงที่แต่หลักการสำคัญยังคงเหมือนเดิม”

“ผมต้องการให้ทีมได้บอลคืนเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีศัพท์เฉพาะทางเทคนิคมากมายในเกม แต่มันเกี่ยวกับการหาที่ว่าง ยกตัวอย่าง เมื่อคุณมีบอล และพยายามเจาะตรงกลางมากไป ฝ่ายตรงข้ามก็พยายามปิดพื้นที่ตรงนั้นโดยเร็วที่สุด การทำงานทั้งหมดและแท็กติกทั้งหมดจะเป็นไปตามนั้น” กุนซือ “สุนัขจิ้งจอก” กล่าวปิดท้าย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้