ตลาดนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปิดตัวลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา หลายสโมสรต่างลงทุนเสริมความแข็งแกร่งให้กับขุมกำลังของตัวเองด้วยเงินจำนวนมหาศาล ในขณะที่บางทีมก็แทบไม่ได้ใช่เงินมากนักเนื่องจากพลาดนักเตะเป้าหมายที่เล็งเอาไว้

อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้วตลาดฤดูร้อนนี้ของทีมในลีกสูงสุดแดนผู้ดีถือว่า น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียว และหากให้คะแนนเต็ม 10 เรามาวิเคราะห์กันว่า แต่ละทีมจะได้คะแนนเท่าไหร่บ้าง

1. อาร์เซน่อล (คะแนน 7/10)

อาร์เซน่อล ต้องการเพลย์เมคเกอร์เข้ามาสร้างสรรค์เกมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฮุสเซม อาอูอาร์ กองกลาง โอลิมปิก ลียง ถือเป็นเป้าหมายลำดับแรกของพวกเขา แต่ “ไอ้ปืนใหญ่” ก็ไม่สามารถคว้าตัวมาได้ทันก่อนตลาดนักเตะปิดตัวลง

อย่างไรก็ตาม มิเคล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล ก็ได้นักเตะมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมแทบทุกตำแหน่งไล่ตั้งแต่ วิลเลี่ยน ปีกชาวบราซิล ที่คว้ามาจาก เชลซี แบบไร้ค่าตัว กาเบรียล มากัลเญส กองหลัง จาก ลีลล์ และล่าสุด โธมัส พาร์เตย์ ห้องเครื่องทีมชาติกาน่า ที่ซื้อมาจาก แอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์

แม้จะไม่ได้มิดฟิลด์ตัวรุกตามที่ต้องการ แต่ อาร์เตต้า ก็เสริมเขี้ยวเล็บให้กับ อาร์เซน่อล ได้อย่างน่าสนใจสำหรับการสู้ศึกในฤดูกาลใหม่นี้

2. แอสตัน วิลล่า (คะแนน 10/10)

โอลลี่ วัตกิ้นส์ กองหน้าตัวใหม่ถูกซื้อมาจาก เบรนท์ฟอร์ด ด้วยค่าตัวถึง 28 ล้านปอนด์ และในเกมลีกนัดล่าสุด ดาวยิงวัย 24 ปี ก็ระเบิดฟอร์มสุดยอดซัดแฮตทริคช่วยให้ วิลล่า เปิดบ้านถล่ม ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า ไปขาดลอย 7-2  

นอกจาก วัตกิ้นส์ แล้ว วิลล่า ยังคว้าตัว แมตตี้ แคช แบ็คขวา มาจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ ตัวรุกจาก โอลิมปิก ลียง และดีลสุดเซอร์ไรส์คือ ยืมตัว รอสส์ บาร์คลีย์ มิดฟิดล์ จาก เชลซี ซึ่งเข้ามาจับคู่กับ แจ็ค กรีลิช จอมทัพกัปตันทีม “สิงห์ผยอง” ได้อย่างเข้าขาลงตัว

หากมองการเสริมทัพทั้งหมดในซัมเมอร์นี้ถือเป็นตลาดนักเตะในฝันของ ดีน สมิธ กุนซือ วิลล่า เลยก็ว่าได้

3. ไบรท์ตัน (คะแนน 6/10)

อดัม ลัลลาน่า กองกลางจอมเก๋าวัย 32 ปี ถูกคว้ามาจาก ลิเวอร์พูล แบบไร้ค่าตัว ส่วน โจเอล เวลท์มัน กองหลังชาวดัตช์ ถูกซื้อมาจาก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัวไม่ถึง 1 ล้านปอนด์ รวมถึง เบน ไวท์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟอนาคตไกล ถูกดึงกลับมาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด

นักเตะใหม่ที่กล่าวมาทั้งหมดนับเป็นการทำธุรกิจที่ชาญฉลาดของ ไบรท์ตัน อย่างไรก็ตาม พวกเขายังขาดกองหน้าที่ไว้ใจได้ในแนวรุก ซึ่งอาจส่งผลให้ทีมของกุนซือ เกรแฮม พอตเตอร์ ขาดความอันตรายในแดนหน้าไปพอสมควร

4. เบิร์นลีย์ (คะแนน 2/10)

มันเป็นซัมเมอร์ที่น่าผิดหวังสำหรับ ฌอน ไดช์ ผู้จัดการทีม เบิร์นลีย์ หลังจากได้นักเตะใหม่มาเสริมทัพเพียง 2 รายเท่านั้น คือ เดล สตีเฟนส์ มิดฟิลด์วัย 31 ปี มจาก ไบรท์ตันและ วิล นอร์ริส ผู้รักษาประตูสำรองจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน

แม้จะเก็บ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ กองหลังคนสำคัญไว้กับทีมได้ แต่การออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ด้วยการแพ้ 3 เกมรวดนั้น มันก็บ่งบอกสถานการณ์ในปีนี้ของ เบิร์นลีย์ ได้เป็นอย่างดี

5. เชลซี (คะแนน 10/10)

ติโม แวร์เนอร์, ฮาคิม ซิเยค, ติอาโก ซิลวา, เบน ชิลเวลล์, ไค ฮาเวิร์ตซ์, มาล็อง ซาร์ และ เอดูอาร์ด  เมนดี้ ถูกคว้าตัวมายังถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยบรรดานักเตะที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ได้เพิ่มคุณภาพให้กับ เชลซี ได้อย่างยอดเยี่ยม

คำถามต่อมาคือ แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี จะปรับผู้เล่นใหม่ให้เข้าระบบที่เขาต้องการได้เร็วเพียงใด และมันน่าสนใจว่า หาก แลมพาร์ด สามารถจูนเครื่องได้เร็ว “สิงโตน้ำเงินคราม” จะไปได้ไกลแค่ไหนในฤดูกาลนี้

6. คริสตัล พาเลซ (คะแนน 4/10)

มิชี่ บาตชูอายี่ หัวหอกทีมชาติเบลเยียม ถูกยืมตัวมาจาก เชลซี และ เอเบเรชี่ เอเซ่ มิดฟิลด์ดาวรุ่งฝีเท้าดีถูกซื้อมาจาก ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส ด้วยค่าตัวราว 17 ล้านปอนด์ รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมจอมเก๋าของ พาเลซ ก็น่าจะพอใจได้ระดับหนึ่ง

แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลก็คือ พวกเขาไม่มีแนวรุกฝีเท้าดีมาคอยทดแทน วิลฟรีด ซาฮา ปีกคนสำคัญ และนั่นก็เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ ฮอดจ์สัน ต้องขบคิดอย่างหนักในปีนี้

7. เอฟเวอร์ตัน (คะแนน 10/10)

คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน ของ เอฟเวอร์ตัน จัดการคว้านักเตะฝีเท้าดีอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ, อัลลัน, อับดูลาย ดูกูเร่ และ เบน ก็อดฟรีย์ เข้ามาเสริมทัพพร้อมกับปรับโฉมให้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” กลายเป็นทีมที่มีความสมดุลอย่างมาก

เอฟเวอร์ตัน ออกสตาร์ทได้อย่างสวยหรูด้วยการเก็บชัยชนะได้ 4 เกมรวด และหาก อันเชล็อตติ ยังพาลูกทีมรักษาความสม่ำเสมอไว้ได้ก็เชื่อว่า พลพรรค “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” อาจเป็นทีมม้ามืดลุ้นท็อปโฟร์ในปีนี้

8. ฟูแล่ม (คะแนน 5/10)

แฮร์ริสัน รีด, เคนนี่ เตเต้, แอนโทนี โรบินสัน, อ็องโตนี่ น็อคการ์ต และ โทซิน อดาราบิโอโย ถูกคว้าตัวมาร่วมทีมถาวร ส่วน มาริโอ เลอมิน่า, อเดโมลา ลุคแมน, อัลฟอนเซ อเรโอลา และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ถูกยืมตัวเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม ฟูแล่ม ภายใต้การนำของผู้จัดการทีมหนุ่มอย่าง สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ ยังไม่มีกองหลังที่ไว้ใจได้ และการที่พวกเขาแพ้รวดในลีก 4 เกมแรกนั้น มันคงเป็นปีที่หนักหนาสาหัสอย่างมากของ “เจ้าสัวน้อย” สำหรับการอยู่รอดในพรีเมียร์ลีก

9. ลีดส์ ยูไนเต็ด (คะแนน 8/10)

อิลสัน เมส์ลิเยร์, โรดริโก้, โรบิน คน็อคเค่อ, ดิเอโก ยอเรนเต้ และ ราฟินญ่า ถูกคว้าตัวมาด้วยค่าตัวรวมกันเกือบ 80 ล้านปอนด์ และบรรดาแข้งใหม่เหล้านี้บางรายก็เริ่มปรับตัวเข้ากับแนวทางของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ของ ลีดส์ ได้อย่างยอดเยี่ยม

ลีดส์ เริ่มต้นซีซั่นด้วยผลงานที่น่าจับตามองด้วยการบุกไปพ่าย ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าแบบสุดมันส์ 3-4 ในเกมเปิดฤดูกาล รวมถึงเปิดบ้านยันเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว 1-1 ได้อีกด้วย

10. เลสเตอร์ ซิตี้ (คะแนน 9/10)

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ เลสเตอร์ คว้าตัว ติโมธี คาสตันเย่ แบ็คชาวเบลเยียม มาจาก อตาลันต้า ยืมตัว เซนกิซ อุนแดร์ ปีกดาวรุ่งชาวตุรกี มาจาก โรม่า และก่อนปิดตลาดได้ตัว เวสลีย์ โฟฟานา กองหลังชาวฝรั่งเศส จาก แซงต์-เอเตียน ไปเสริมทัพด้วยค่าตัวราว 30 ล้านปอนด์

ในฤดูกาลนี้ ร็อดเจอร์ส ทำทีม เลสเตอร์ ได้น่าติดตามอย่างยิ่ง พวกเขาเคยโชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยการบุกไปถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงบ้าน 5-2 แต่กลับต้องพ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเกมต่อมา 0-3 ซึ่งความสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ “สุนัขจิ้งจอก” ต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป

11. ลิเวอร์พูล (คะแนน 8/10)

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ของ ลิเวอร์พูล เสริมทัพได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าตัว คอสตาส ซิมิกาส แบ็คซ้ายทีมชาติกรีซ, ติอาโก้ อัลดันตาร่า มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน และ ดิโอโก้ โชต้า ปีกทีมชาติโปรตุเกส เข้ามาร่วมทีม

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล มีสิ่งที่ต้องกังวลในฤดูกาลนี้หากหวังป้องกันแชมป์คือ ผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ไว้ใจได้มายืนคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ และนายทวารฝีมือดีมาคอยสนับสนุน อลิสซอน เบ็คเกอร์ ซึ่งบาดแผลเกมรับของพวกเขาเห็นได้ชัดเจนในเกมที่พ่ายให้กับ แอสตัน วิลล่า 7-2

12. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (คะแนน 6/10)

ในซัมเมอร์นี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปน ลงทุนกับผู้เล่นแนวรับไปถึง 100 ล้านปอนด์ ด้วยการคว้าตัว นาธาน อาเก้ กับ รูเบน ดิอาส มาร่วมทีม และจ่ายอีก 20 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา เฟร์ราน ตอร์เรส ปีกดาวรุ่ง มาจาก บาเลนเซีย

อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ ไม่หาเพลย์เมคเกอร์คนใหม่มาทดแทน ดาบิด ซิลบา ที่อำลาสโมสรไป พร้อมเปิดโอกาสให้ ฟิล โฟเด้น มิดฟิลด์ดาวรุ่งก้าวขึ้นทำหน้าที่ดังกล่าว และในตำแหน่งแบ็คซ้าย “เรือใบสีฟ้า” ก็ยังไม่มีคนที่ไว้ใจได้มากนัก ซึ่งมันเป็นจุดที่ กวาร์ดิโอล่า ต้องแก้ไขหากหวังกระชากแชมป์มาจาก ลิเวอร์พูล

13. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (คะแนน 6/10)

การซื้อตัว ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค มิดฟิลด์รุ่งชาวดัตช์ จาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เป็นการทำธุรกิจที่ดี ของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่วันเดดไลน์แสนอลหม่านที่พวกเขาคว้าตัว ฟากุนโด้ เปยิสตรี, อาหมัด ตราโอเร่, อเล็กซ์ เตลเลส และ เอดิสัน คาวานี่ เพื่อตอบสนองความพอใจของแฟนบอลนั้น มันเป็นการลงทุนที่น่าผิดหวัง

เตลเลส ไม่เคยเล่นในอังกฤษ ขณะที่ คาวานี่ อายุ 33 ปี แล้ว ส่วน เปยิสตรี และ ตราโอเร่ เป็นเพียงนักเตะดาวรุ่ง และยังไม่สามารถใช้งานได้ เอ็ด วูดเวิร์ด ประธานบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องคอยตามคำถามสาวก “ปีศาจแดง” ให้ได้

14. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (คะแนน 8/10)

คัลลัม วิลสัน, จามาล ลูอิส, มาร์ค กิลเลสพี, เจฟฟ์ เฮนดริค และ ไรอัน เฟรเซอร์ ถูกคว้าตัวมายังถิ่นเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ด้วยค่าตัวรวมกันไม่ถึง 35 ล้านปอนด์  ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของสโมสร นิวคาสเซิ่ล ควรได้รับคำชื่นชมอยู่บ้าง

สตีฟ บรูซ กุนซือ นิวคาสเซิ่ลได้นักเตะฝีเท้าดีมาร่วมทีมแทบทุกตำแหน่ง และทำให้ในปีนี้ “สาลิกาดง” คงไม่ต้องลุ้นหนักในการหนีตกชั้นเหมือนกับปีก่อนๆ

15. เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (คะแนน 6/10)

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของกุนซือ คริส ไวล์เดอร์ เจอปัญหาใหญ่ในตำแหน่งนายทวารหลังจาก ดีน เฮนเดอร์สัน โกล์ฝีมือดีถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดเรียกตัวกลับไปทำให้พวกเขาต้องทุ่มเงิน 18 ล้านปอนด์ คว้าตัว อารอน แรมส์เดล มาจาก บอร์นมัธ

ขณะเดียวกัน ไวล์เดอร์ ยังเสริมความอันตรายในแนวรุกให้กับ “ดาบคู่” ด้วยการว้าตัว ริอาน บรูวส์เตอร์ กองหน้าดาวรุ่งอนาคตไกลมาจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 23 ล้านปอนด์ ซึ่งน่าจะทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่น่ากลัวขึ้นกว่าเดิมพอสมควร

16. เซาแธมป์ตัน (คะแนน 7/10)

อิบราฮิมา ดิอัลโล, โมฮัมเหม็ด ซาลิซู และ ไคล์ วอล์คเกอร์ – ปีเตอร์ส ถูกเซ็นสัญญามาร่วมทีมเป็นการถาวร นอกจากนี้ เซาแธมป์ตัน ยังได้ตัวศิษย์เก่าอย่าง ธีโอ วัลค็อตต์ ปีกชาวอังกฤษ มาจาก เอฟเวอร์ตัน ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล

ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล เทรนเนอร์ เซาแธมป์ตัน กำลังค่อยๆพัฒนาพลพรรค “นักบุญ” จนเริ่มเข้าที่เข้าทาง และหากพวกเขารักษาความสม่ำเสมอไว้ได้เป้าหมายทำอันดับไปเล่นในถ้วยยูโรป้า ลีก คงไม่ไกลเกินไป

17. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (คะแนน 9/10)

โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ สเปอร์ส จัดการผ่าตัดปรับทัพ สเปอร์ส ครั้งใหญ่ด้วยการคว้าตัว ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, เซร์คิโอ เรกิลอน, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, โจ ฮาร์ท และยังยืมตัว 2 นักเตะอย่าง แกเร็ธ เบล กับ คาร์ลอส วินิซิอุส มาจาก เรอัล มาดริด และ เบนฟิก้า ตามลำดับ

ในปีนี้ มูรินโญ่ ได้นักเตะตามที่เข้าต้องการครบถ้วนแล้ว และหากมองถึงคุณภาพนักเตะ “ไก่เดือยทอง” บวกกับความเก๋าเกมของ “เดอะ สเปเชี่ยล วัน” นั้น สเปอร์ส คงลุ้นท็อปโฟร์ได้อย่างสบายๆ หรืออาจมองไปไกลกว่านั้นก็ได้

18. เวสต์บรอมวิช อัลเบียน (คะแนน 4/10)

เวสต์บรอมวิช ลงทุนครั้งใหญ่คว้าตัว คัลลั่ม โรบินสัน, เกรดี้ เดียนกาน่า และ มาเธอุส เปเรยร่า มาร่วมทีมเป็นการถาวร รวมถึงได้ตัว บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังจอมเก๋าชาวเซอร์เบีย เข้ามาเสริมเกมรับ

อย่างไรก็ตาม เวสต์บรอมวิช ภายใต้การกุมบังเหียนของ สลาเวน บิลิช เทรนเนอร์ชาวโครแอต ไม่มีกองหน้าคุณภาพอยู่ในทีมเลย และนั่นทำให้พลพรรค “เดอะ แบ็กกี้ส์” ต้องลุ้นหนีตกชั้นอย่างหนักแน่นอน

19. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (คะแนน 5/10)

โทมัส ซูเช็ค และ วลาดิเมียร์ คูฟาล 2 ดาวเตะทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก ถูกคว้าตัวมาจาก สลาเวีย  ปราก ในราคารวมกันราว 19 ล้านปอนด์ หลังจากนั้น พลพรรค “ขุนค้อน” ก็ไม่ได้ใครมาเสริมทัพอีกเลย

เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม เวสต์แฮม จำเป็นต้องใช้นักเตะเก่าที่มีอยู่ในทีมอย่าง มาร์ค โนเบิล, มิคาเอล อันโตนิโอ และ อารอน เครสส์เวลล์ สู้ศึกในฤดูกาลนี้ไปก่อน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ พวกเขาสามารถรั้งตัว เดแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษไว้ได้

20. วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (คะแนน 6/10)

นี่เป็นช่วงฤดูร้อนที่วุ่นวายสำหรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน อย่างแท้จริง พวกเขาต้องเสีย 2 นักเตะตัวหลักอย่าง แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ แบ็คชาวไอริช กับ ดิโอโก้ โชต้า ปีกทีมชาติโปรตุเกส ให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ ลิเวอร์พูล ตามลำดับ

ฟาบิโอ ซิลวา, เนลสัน เซเมโด้, คี-จานา ฮูเวอร์ และ วิตินญ่า ถูกดึงตัวเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับทัพ “หมาป่า” คือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต กุนซือฝีมือดีชาวโปรตุกีส ตัดสินใจขยายสัญญาฉบับใหม่ออกไปถึงปี 2023