Home บทความฟุตบอล จูด เบลลิงแฮม เด็กเทพคนใหม่ ดอร์ทมุนด์

จูด เบลลิงแฮม เด็กเทพคนใหม่ ดอร์ทมุนด์

0
จูด เบลลิงแฮม เด็กเทพคนใหม่ ดอร์ทมุนด์

จูด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่งอนาคตไกลชาวอังกฤษของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมันยอมรับว่า การได้โอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอให้กับ “เสือเหลือง” นั้น เป็นเหตุผลที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลย

เบลลิงแฮม ซึ่งเคยได้รับความสนใจจากทีมดังในพรีเมียร์ลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย้ายจาก เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ มาเล่นในถิ่นซิกนัล อิดูน่า พาร์ค เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัวถึง 25 ล้านปอนด์ ซึ่งทำให้เขาสร้างสถิติเป็นนักเตะอายุ 17 ปีที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกอีกด้วย

ในฤดูกาลนี้ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษอายุต่ำกว่า 21 ปี ลงสนามให้ ดอร์ทมุนด์ ไปรวมทุกรายการ 7 เกม ซัดไป 1 ประตู ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูให้ “เสือเหลือง” และยังสร้างสถิติเป็นแข้งชาวผู้ดีที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

Photo : skysports.com

เบลลิงแฮม เชื่อว่า สถิติอันน่าเหลือเชื่อทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจที่ถูกต้องของเขาในการปฏิเสธความสนใจจาก แมนฯ ยูไนเต็ด รวมทั้งสโมสรอื่นๆอีกมากมายในอังกฤษ และย้ายมาเล่นกับ ดอร์ทมุนด์

อดีตเด็กปั้น เบอร์มิงแฮม ซึ่งถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่มาหมาดๆเริ่มกล่าวว่า “สิ่งเดียวที่ผมรู้สึกกังวลในการตัดสินใจครั้งนี้คือ การได้ลงเล่นฟุตบอล สำหรับผมมันชัดเจนว่า เมื่อคุณย้ายมาที่นี่ และทำในสิ่งที่ถูกต้อง คุณจะได้รับโอกาสลงสนาม”

“มีผู้เล่นอายุน้อยมากมายที่เมื่อได้รับโอกาสแล้วพวกเขาจะทำผลงานได้ดีในระดับทีมชุดใหญ่ แต่บางทีพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ค่อยได้รับโอกาสมากนักไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม และผมเกือบจะเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่มีเส้นทางแบบนั้นแล้ว”

“แต่โชคดีที่ผมได้รับโอกาสกับทีมชุดใหญ่ ผู้เล่นดาวรุ่งทุกคนก็ควรได้รับโอกาส และคุณค่อยตัดสินว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง มีนักเตะอายุน้อยมากมายในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ที่ต้องเจอสถานการณ์แบบนั้น แต่พวกเขาก็รับมือกับมันได้”

Photo : sports.yahoo.com

เบลลิงแฮม ไม่ใช่นักเตะอังกฤษคนแรกที่ย้ายมาเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ โดยก่อนหน้านี้ในปี 2017 จาดอน ซานโช่ มิดฟิลด์ตัวรุกมากพรสวรรค์วัย 20 ปี ก็ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาค้าแข้งกับ “เสือเหลือง” และตอนนี้ได้พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นแข้ง “สิงโตคำราม” ชุดใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว

“จาดอน เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเตะอังกฤษในวัยแบบผม เราทุกคนแค่พยายามเล่นฟุตบอลให้ดีที่สุด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรากำลังพยายามพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้เล่นชั้นยอดในวงการฟุตบอลยุโรป ซึ่ง จาดอน ทำสำเร็จไปแล้ว”

“ผมไม่ปฏิเสธเลยว่า เส้นทางอาชีพของ จาดอน เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผมมากๆ แต่ผมยังไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขาเลยนะ ผมได้แต่พูดกับคนอื่นๆ ผมจะพูดถึงบางสิ่งบางอย่าง และพวกเขาก็จะพูดว่า จาดอน มีความคิดเหมือนนายเลย และหวังว่า เส้นทางของผมผมจะสะท้อนสิ่งที่เขาเคยทำไว้ได้” เบลลิงแฮม กล่าว

ขณะเดียวกัน เบลลิงแฮม เคยได้รับเชิญให้ไปที่สนามฝึกซ้อมของ แมนฯ ยูไนเต็ด และได้พบกับบุคคลสำคัญของสโมสรรวมถึง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” มาแล้ว แต่เขาก็ตัดสินใจย้ายมา ดอร์ทมุนด์ ในที่สุด

Photo : goal.com

การย้ายมายัง ดอร์ทมุนด์ ของ เบลลิงแฮม ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพลาดตัวดาวรุ่งอนาคตไกลไปอีกราย โดยก่อนหน้านี้ “ปีศาจแดง” พลาดตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ หัวหอกชาวนอร์เวย์ และ จิโอวานนี เรย์น่า มิดฟิลด์ชาวสหรัฐฯ ให้กับ “เสือเหลือง” รวมทั้ง เรนิเยร์ เฆซุส ตัวรุกชาวบราซิล ให้กับ เรอัล มาดริด

เบลลิงแฮม อธิบายว่า “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยม และการตัดสินใจของผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกแล้ว ดอร์ทมุนด์ เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับผม และหลังจากนั้นคุณก็แทบไม่ต้องสนใจสิ่งใดอีกเลย”

“มันง่ายมากที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสโมสร ดอร์ทมุนด์ เพราะผมสามารถสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีมของผมได้มากขึ้นมากๆ พวกเขาหลายคนอยู่ในวัยที่ใกล้เคียงกันกับผมโดยเฉพาะ เรนิเยร์ และ จิโอวานนี”

Photo : bizzceleb.com

มาร์ค คุณพ่อของ เบลลิงแฮม ทำประตูได้มากกว่า 700 ลูกในฐานะนักเตะกึ่งอาชีพ และยังค้าแข้งมาจนถึงอายุ 40 ปี ส่วน โจบี น้องชายของเขาเป็นเด็กในอดาเดมี่ของ เบอร์มิงแฮม เช่นกัน และเคยติดทีมชาติอังกฤษอายุต่ำกว่า 15 ปี มาแล้ว

“พ่อและแม่ของผมทั้งคู่เป็นชนชั้นแรงงาน และทำให้ผมมีวันนี้ พวกเขาไม่ท้อถอย ทำงานหนัก และต่อสู้ ผมเคยเห็นวิธีที่พวกเขาโต้ตอบกับคนอื่น และวิธีที่วกเขาแสดงออกมา เมื่อคุณเห็นตัวอย่างแบบนั้น มันแทบไม่ต้องมีใครบอกเลยว่า คุณควรทำตัวอย่างไร”

“ผมเคยดูพ่อผมลงเล่นอยู่เสมอ คุณจะเห็นสิ่งนั้นในวิธีการเล่นของผม ความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญ นั่นคือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นในเกมของผม และผมก็ภูมิใจในตัว โจบี มาก ผมแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะเห็นว่า เขาเริ่มพัฒนาอย่างไรใน 1-2 ปีข้างหน้า เราผลักดันกันและกันมาตลอด และเวลาเดียวที่เราจะต่อสู้กันก็คือเรื่องฟุตบอล ซึ่งเราต้องการชัยชนะด้วยกันทั้งคู่” มิดฟิลด์ ดอร์ทมุนด์ กล่าว

ปัจจุบัน เบลลิงแฮม อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ใจกลางเมืองดอร์ทมุนด์ แต่เวลานี้มันก็มีข้อจำกัดอย่างมากในการใช้ชีวิตเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า นอกจากนี้ เขายังต้องเรียนรู้ภาษาเยอรมันเพิ่มเติมอีกด้วย

“ผมไม่ได้ทำอาการกินเองเลย ผมได้รับอาหารจากสโมสรส่งมาให้ และผมต้องเรียนภาษาเยอรมัน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก่อนที่จะพักเบรกทีมชาติช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการใช้ภาษาให้คล่องนั้น เป็นสิ่งที่ผมต้องการทำมากๆ แต่ตอนนี้ตารางแข่งขันมันแน่นมาก ผมจึงแทบไม่ได้กลับมาเรียนเลย แต่ผมก็เข้าใจภาษาเยอรมันมากขึ้นทุกวัน แม้ว่ามันจะยากเล็กน้อยก็ตาม”

“ทุกคนในสโมสรพูดภาษาอังกฤษได้ แต่โค้ชชอบที่จะทำทุกอย่างเป็นภาษาเยอรมัน ผมคิดว่า ถ้าผมรู้สัก 2-3 คำในประโยคนั่นก็เพียงพอที่จะเข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูด และผมยังมีบางสิ่งที่ต้องทำ คุณแม่เตือนผมหลายครั้งแล้วว่า ควรให้ความสำคัญกับการเรียนด้วย ดังนั้น ผมจึงต้องแบ่งเวลามาเรียนพิเศษด้วย” ดาวเตะวัย 17 ปีกล่าว

photo : planetfootball.com

เบลลิงแฮม แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยสำหรับนักเตะที่เพิ่งเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่กับ เบอร์มิง แฮม ด้วยวัยเพียง 16 ปี กับ 38 วัน ในเดือนสิงหาคมปี 2019 และเขาก็ยังไม่แสดงอาการตื่นเต้นกับชีวิตที่ก้าวกระโดดจากการเล่นในทีมเยาวชนมาสู่การมีส่วนร่วมในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในระยะเวลาเพียง 18 เดือน

เบลลิงแฮม กล่าวว่า “ผมไม่อยากพูดเกี่ยวกับตัวเองมากนัก ผมไม่ต้องการทำแบบนั้นเลย ผมไม่เคยสนใจในสิ่งที่ผู้คนพูดเพราะความคิดเห็นของพวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา บางทีพวกเขาคิดว่า คุณอาจไม่พร้อม หรือบางทีอาจคิดว่าคุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เมื่อคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ผมเคยอยู่ในปีที่แล้วคุณต้องเติบโตอย่างรวดเร็ว และทิ้งนิสัยที่เป็นเด็กไว้ข้างหลัง”

“สิ่งที่โดนใจผมอย่างแท้จริงก็คือ การพูดถึง บุนเดสลีกา ว่า เป็นลีกที่ง่าย แต่ผมอยากจะบอกว่า คุณคิดผิดอย่างสิ้นเชิง ทุกทีมในลีกนี้มีมาตรฐานที่สูงมาก แต่ละทีมมีผู้เล่นที่มีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม และผมต้องอยู่การอยู่ในระดับนั้นพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมของผม เพราะถ้าผมตามพวกเขาไม่ทัน ผมคงผิดหวังมาก”

“มันเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของผม แต่มันเป็นสิ่งที่ผมคิดว่า ผมพร้อมแล้วแม้ว่าความจริงพ่อกับแม่ของผมก็บอกว่าผมยังเด็กอยู่ก็ตาม แต่ผมก็แค่สนุกกับมัน และทุ่มเททุกอย่างให้เต็มที่” ดาวรุ่ง “เสือเหลือง” กล่าวปิดท้าย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้