Home บทความฟุตบอล เมื่อทัพ “ราชัน” ต้องเผชิญวิกฤต

เมื่อทัพ “ราชัน” ต้องเผชิญวิกฤต

0
เมื่อทัพ “ราชัน” ต้องเผชิญวิกฤต

ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลนี้ของศึกลา ลีกา สเปน นับเป็นการออกสตาร์ที่แปลกประหลาดกว่าหลายๆปีที่ผ่านเลยก็ว่าได้ หลังจากพลพรรค “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งแดนกระทิงดุภายใต้การนำของ ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือชาวฝรั่งเศส รั้งเพียงอันดับ 4 ในตารางคะแนนหลังผ่านไป 8 เกม

มาดริด มีแต้มตามหลัง เรอัล โซเซียดาด ทีมจ่าฝูง 4 คะแนน และมีแต้มเหนือ อูเอสก้า ทีมบ๊วยอยู่ 10 คะแนน นอกจากนี้ “ราชันชุดขาว” ยังพ่ายไปแล้ว 2 เกม โดยเกมแรกพ่ายคาถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิว อย่างสุดเซอร์ไพรส์ต่อน้องใหม่อย่าง กาดิซ 0-1 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และล่าสุดบุกไปโดน บาเลนเซีย ถล่ม 4-1 เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ปัญหาหลักของ มาดริด ในฤดูกาลนี้คือ เกมรับที่ไม่แข็งแกร่งเหมือนก่อน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในเกมล่าสุดกับ บาเลนเซีย ทั้งที่ “ไอ้ค้างคาว” เสียตัวหลักอย่าง เฟร์ราน ตอร์เรส, ดานี ปาเรโฆ่, เอสเซเกล การาย, โรดริโก้ และ ฟรองซิส โกเกอแล็ง ไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ แต่พวกเขาก็ยังระเบิดตาข่าย “ราชันชุดขาว” ไปได้ถึง 4 ประตู

Photo : theguardian.com

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของ มาดริด ก็กำลังสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งหลังเพิ่งเก็บได้เพียง 4 คะแนน จาก 3 เกม ซึ่งพวกเขาอยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค, ชัคตาร์ โดเนตสค์ และ อินเตอร์ มิลาน

โทนี่ โครส มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน ของ มาดริด อธิบายถึงฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอว่า “มันไม่ใช่ความลับเลยที่เราต้องคงเส้นคงว่ามากกว่านี้ ถ้าคุณดูผลของเราคุณจะเห็นได้ว่า เราเล่นดีและแย่สลับไปมาตลอด เราต้องทำให้มันดีขึ้น เราต้องปรับปรุงฟอร์มการเล่นหากเราต้องการคว้าแชมป์”

ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ซีดาน ตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนักก่อนพาทีมบุกไปเยือน กาลาตาซาราย ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เนื่องจากในเวลานั้น มาดริด ยังไม่สามารถเก็บชัยในบอลยุโรปได้เลย แต่ โครส ซัดประตูชัยช่วยให้ “ราชันชุดขาว” เอาชนะไป 1-0 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของฤดูกาลทำให้ มาดริด ไม่แพ้ใคร 21 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ

โครส กล่าวเสริมอีกว่า “กับ ซีดาน เราเคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาแล้ว และโดยปกติแล้วเราจะก้าวออกมาจากจุดนั้นได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ เราต้องปรับปรุงฟอร์มการเล่น และพยายามชนะในทุกๆเกม ซึ่งโค้ชจะช่วยเราหาทางแก้ไขปัญหาได้”

สำหรับ มาดริด พวกเขาเป็นทีมที่ลงทุนเสริมทัพอย่างหนักแทบทุกตลาดนักเตะเลยก็ว่าได้ แต่จากการที่ไวรัสโคโรน่าระบาดไปทั่วโลกนั้น ส่งผลให้พวกเขาต้องเปลี่ยนนโยบายในการทำธุรกิจไปพอสมควร โดยตอนนี้ “ราชันชุดขาว” ไม่พยายามซื้อตัวแข้งบิ๊กเนม และหันไปลงทุนกับดาวรุ่งอนาคตไกลแทน

Photo : goal.com

บรรดาสื่อมวลชนในสเปนต่างพากันประโคมข่าวว่า มาดริด กำลังจับตาดู โดมินิค โซบอสซ์ไล กองกลางดาวโรจน์ จากสโมสร เร้ดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก ในลีกออสเตรีย โดยคาดว่า ดาวเตะวัย 20 ปี จะมีค่าตัว 25 ล้านยูโร แต่พวกเขาต้องแข่งกับกับ อาร์เซน่อล, แอร์เบ ไลป์ซิก และ เอซี มิลาน ที่สนใจเช่นกัน

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ฆูนี กาลาฟาต ทีมแมวมอง มาดริด ซึ่งอยู่เบื้องหลังการเซ็นสัญญากับ เวเนซิอุส, โรดรีโก้ และ เอแดร์ มิลิเตา นั้น ไปดูฟอร์มของ โซบอสซ์ไล ในเกมยุโรปที่  ซัลซ์บวร์ก บุกมาพ่ายให้กับ แอตเลติโก มาดริด 3-2 เมื่อเดือนที่ผ่านมา และประทับใจเป็นอย่างมาก โดยแข้งชาวฮังการี ก็ซัดไป 1 ประตู

นอกจากนี้ โซบอสซ์ไล ยังเป็นฮีโร่ของ ฮังการี หลังซัดประตูชัยในนาทีสุดท้ายช่วยให้บ้านเกิดเฉือนเอาชนะ ไอซ์แลนด์ 3-2 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านนมา พร้อมกับคว้าตั๋วไปลุยศึกยูโร 2020 ได้สำเร็จ

สัญญาฉบับปัจจุบันของ โซบอสซ์ไล กับ ซัลซ์บวร์ก จะหมดลงในปี 2022 และในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า พวกเขาก็พร้อมปล่อยดาวรุ่งรายนี้ออกจากสโมสรดีกว่าจะเสียไปแบบฟรีๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ มาดริด จะสามารถเข้าไปเจรจาได้

Photo : caughtoffside.com

เซมรา ฮันเตอร์ ผู้จัดรายการโทรทัศน์ของศึกลา ลีกา แสดงความคิดเห็นว่า ซีดาน มีเรื่องที่ต้องขบคิดมากมายในช่วงพักเบรคการแข่งขันชาติ โดยระบุว่า “การป้องกันเป็นจุดอ่อนของพวกเขาอย่างชัดเจน พวกเขาแย่มากในช่วงครึ่งหลังในเกมกับ บาเลยเซีย”

“ทั้ง 4 ประตูที่พวกเขาเสียให้กับ บาเลนเซีย มันเป็นผลโดยตรงจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นโดยกองหลังทั้ง 4 คนอย่าง เซร์คิโอ รามอส, ลูคัส บาซเกซ, มาร์เซโล่ ส่วน ราฟาเอล วาราน ก็ทำเข้าประตูตัวเอง พวกเขาต้องนำความพ่ายแพ้ไปเป็นบทเรียน”

“นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 118 ปีของ มาดริด ที่พวกเขาเสียจุดโทษ 3 ครั้งในเกมเดียวกัน และยิ่งไปกว่านั้นในประวัติศาสตร์ 90 ปีของลาลีกา จำนวน 521 เกม การเสียจุดโทษ 3 ครั้งในเกมเดียวมันเกิดขึ้นในปี 1958, 1996 และตอนนี้ แน่นอนว่า มาดริด ต้องเจอกับความกดดันมากมายหลังจากนี้ และซีดาน ต้องมีเรื่องให้ต้องทำอีกเยอะมาก”

Photo : skysports.com

เอแดน อาซาร์ เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเบลเยียม และ คาเซมิโร่ ห้องเครื่องทีมชาติบราซิล มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 ออกมาเป็นบวก จึงทำให้ไม่ได้มีส่วนร่วมในเกมกับ บาเลยเซีย โดย ซีดาน แก้ปัญหาด้วยการใช้ อิสโก้ มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ลงเล่นในครึ่งแรก และเปลี่ยน โครส ลงมาในครึ่งหลัง แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นความพ่ายแพ้ได้

ขณะเดียวัน หลายคนโจมตี ซีดาน อย่างหนักที่ไม่ยอมเปลี่ยนตัว แฟร์กล็องด์ เมนดี้ แบ็คซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส ลงมาแทน มาร์เซโล่ แบ็คทีมชาติบราซิล ที่โดนใบเหลืองตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ซึ่งทำให้ดาวเตะแซมบ้า เล่นตลอดทั้งเกมด้วยความกังวล

ในเกมลีก 27 นัดที่ มาร์เซโล่ ลงสนามนับตั้งแต่ ซีดาน กลับมาคุม มาดริด ในเดือนมีนาคมี 2019 นั้น “ราชันชุดขาว” แพ้เพียง 9 เกม ซึ่งพื้นที่แนวรับฝั่งซ้ายก็เป็นปัญหาสำคัญที่ มาดริด ต้องเร่งแก้ไขแม้จะได้ตัว เมนดี้ มาร่วมทีมแล้วก็ตาม

Photo : goal.com

แน่นอนว่า ซีดาน คงไม่จัดทีมเหมือนในเกมที่พ่าย บาเลนเซีย อีกแล้ว แต่ในเกมรุก โค้ชเฟรนช์แมน มีเรื่องให้ต้องกังวลใจเช่นกันเนื่องจาก คาริม เบนเซม่า หัวหอกชาวฝรั่งเศส เป็นตัวหลักเพียงรายเดียวเท่านั้น และดาวยิงวัย 32 ปี ก็กำลังมีปัญหากับเพื่อนร่วมทีมหลังออกมาเรียกร้องให้คนอื่นช่วยแบ่งเบาภาระของเขาในการทำประตู

การโรเตชั่นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ในช่วงโปรแกรมอัดแน่นที่ต้องลงสนามทุก 3 วัน แต่สำหรับฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอของ มาดริด และปัญหารุมเร้าภายในสโมสรนั้น ซีดาน อาจเจอสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เป็นได้แม้ตัวเองจะเคยพา “ราชันชุดขาว” คว้าแชมป์ยุโรปมา 3 สมัยก็ตาม

โปรแกรม 7 นัดต่อไปของ มาดริด

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน: บียาร์เรอัล (เยือน) – ลาลีกา

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน: อินเตอร์ มิลาน (เยือน) – แชมเปี้ยนส์ลีก

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน: อลาเบส (เหย้า) – ลาลีกา

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม: ชัคตาร์ โดเนตสค์ (เยือน) – แชมเปี้ยนส์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม: เซบีย่า (เยือน) – ลาลีกา

วันพุธที่ 9 ธันวาคม: โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (เหย้า) – แชมเปี้ยนส์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม: แอตเลติโก มาดริด (เหย้า) – ลาลีกา

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้