Home บทความฟุตบอล ซอง เฮือง-มิน กับเส้นทางสู่คีย์แมน “ไก่”

ซอง เฮือง-มิน กับเส้นทางสู่คีย์แมน “ไก่”

0
ซอง เฮือง-มิน กับเส้นทางสู่คีย์แมน “ไก่”

การแข่งขันศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้ผ่านมาแล้ว 2 เดือนกว่าๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นักเตะที่ฟอร์มแรง และได้รับการพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ซอง เฮือง-มิน หัวหอกทีมชาติเกาหลีใต้ ของ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ที่ระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการซัดไป 9 ประตู จาก 9 เกม พา “ไก่เดือยทอง” รั้งจ่าฝูงตารางคะแนน

ในเวลานี้ ซอง ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของ สเปอร์ส ภายใต้การคุมทัพของ โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส ได้อย่างน่าประทับใจ โดยดาวเตะวัย 28 ปี จับคู่ประสานงานกับ แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษได้อย่างเข้าขาลงตัว และยิงประตูให้กับทีมได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

อย่างไรก็ตาม กว่า ซอง จะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ เขาต้องผ่านความยากลำบากมาอย่างมากมายตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก และถูกฝึกฟุตบอลจากคุณพ่อด้วยวิธีที่แปลก รวมทั้งทำงานอย่างหนักพัฒนาตัวเองจนกลายมาเป็นกองหน้าอันดับต้นๆของพรีเมียร์ลีก

Photo : goal.com

มาร์คัส ฟอน อาห์เล่น อดีตโค้ชทีมเยาวชน ฮัมบูร์ก ซึ่งปัจจุบันไปคุมทีมชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เริ่มเล่าว่า “เมื่อคุณยังไม่ได้รับโอกาสมากมายนัก คุณก็จำเป็นต้องรักษามันไว้ให้ดี เพราะมันอาจเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวที่คุณจะได้แสดงความสามารถออกมา”

ฟอน อาห์เล่น รู้ดีถึงเบื้องหลังทั้งหมดของ ซอง ก่อนที่เขาจะก้าวมาอยู่จุดนี้ ซึ่งตัวรุก “โสมแดง” ทำงานหนักอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะดาวรุ่ง และได้รับการปลูกฝังระเบียบวินัยจากคุณพ่ออย่างเคร่งครัดก่อนจะย้ายมาทำตามฝันตัวเองในยุโรป

ฟอน อาห์เล่น เคยร่วมงานกับ ซอง ในตอนที่ กองหน้า สเปอร์ส ย้ายมาเยอรมันครั้งแรกในวัยเพียง 16 ปี โดยเวลานั้น ซอง ที่กำลังเล่นกับ เอฟซี โซล ในบ้านเกิดถูกทาบทามให้มาเล่นในเมืองเบียร์พร้อมกับเพื่อนร่วมชาติอีก 2 คน ซึ่งมันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการความร่วมมือในการพัฒนาดาวรุ่งระหว่าง ฮัมบูร์ก กับ สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้

อดีตโค้ชเยาวชน ฮัมบูร์ก เล่าต่อว่า “ซอง รวดเร็วมาก เขาทำประตูได้เยอะมาก และเขาก็เป็นคนที่เปิดใจรับฟังคนอื่นๆเสมอในการทำงานร่วมกันเป็นทีม เขาเป็นผู้เล่นที่สนใจจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ และต้องการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา”

“คุณพ่อของ ซอง ก็ย้ายมาอยู่ในเยอรมันด้วย และทุกๆครั้งที่เขาว่าง คุณพ่อของเขาก็จะพาไปฝึกซ้อมเพิ่มเติมอีก เขาฝึกซ้อมรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในเรื่องเทคนิคแทบทุกวัน”

Photo : thetimes.co.uk

ขณะเดียวกัน ซอง ยอมรับอย่างเปิดเผยว่า คุณพ่อมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้เขาก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ ตั้งแต่การถูกปลูกฝังวินัย ฝึกซ้อมที่เข้มข้นกว่าคนอื่นๆ รวมทั้งให้คำแนะนำว่า ไม่ควรแต่งงานจนกว่าจะแขวนสตั๊ด

ซอง อุง จอง คุณพ่อของ ซอง เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพในเกาหลีใต้ จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแนง และต้องแขวนสตั๊ดในปี 1990 จากนั้นอีก 2 ปี ดาวยิง สเปอร์ส ก็คลอดออกมาในวันที่ 8 กรกฎาคม ปี 1992

ในวัยเด็ก ซอง ไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนกับเด็กชาวเกาหลีใต้คนอื่นๆ เขาถูกส่งไปเรียนภาคฤดูร้อนในนิวซีแลนด์ เพื่อเรียนภาษาอังกฤษ ขณะที่ คุณพ่อของเขาก็จะฝึกซ้อมฟุตบอลให้อย่างเข้มงวดโดยเฉพาะเรื่อง เบสิคต่างๆ

อุง จอง เคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งว่า “ผมตีลูกชายของตัวเองบ่อยมาก เพราะบางครั้งมันก็จำเป็นต้องทำแบบนั้น และผมก็รู้ดีว่า คนยุโรปคงไม่เข้าใจสิ่งที่ผมทำ”

ขณะเดียวกัน นักข่าวชาวเกาหลีใต้ที่รู้จักกับครอบครัว ซอง อธิบายว่า “มันเป็นการฝึกที่ปกติมาก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของ ซอง ที่พ่อของต้องทำแบบนั้น เพราะสำหรับคนเกาหลีใต้มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้”

นอกจากนี้ วิธีการที่แปลกแหวกแนวอย่างหนึ่งของ อุง จอง คือ ให้ ซอง ซ้อมแต่ยิง และผ่านบอลอย่างหนักหน่วง โดยไม่ให้ลูกชายตัวเองลงแมตช์แข่งขันจนอายุ 14 ปี ซึ่งแนวทางเหล่านี้ค่อนข้างแปลกพอสมควรสำหรับคนยุโรป

“สำหรับ อุง จอง เขาคิดว่า บางทีแมตช์แข่งขันมันทำลายศักยภาพของนักกีฬาเกินไป เพราะมันใช้พลังงานงานกล้ามเนื้อเยอะมาก นอกจากนี้ เขายังคิดว่า การต้องลงแข่งขันถี่ๆ พร้อมกับฝึกซ้อมไปด้วย มันทำร้ายจิตใจของนักกีฬา” นักข่าวชาวเกาหลีใต้ กล่าว

Photo : footballtop.com

ในปี 2010 เมื่อ ซอน ย้ายมาเล่นกับทีมเยาวชนของ ฮัมบูร์ก นั้น ฟอน อาห์เล่น กล่าวว่า “เขาเล่นฟุตบอลได้ดีทั้ง 2 เท้า และก็ยอดเยี่ยมในลูกโหม่งด้วย แต่สำหรับผมมันเป็นความกระหายที่บ้าคลั่งของเขาในการทำประตูซึ่งทำให้เขาโดดเด่นกว่าคนอื่น”

“เราเล่นในระบบ 4-4-2 โดยมีกองหน้า 2 คน ปักหลักอยู่ตรงกลาง และเขาก็ได้รับมอบหมายให้เล่นตรงนั้น แต่ตอนนี้ เขาเล่นในตำแหน่งตัวรุกริมเส้นได้ด้วย เขาเป็นผู้เล่นที่ยืดหยุ่นมาก สิ่งที่พิเศษสำหรับเขาคือความว่องไว และความเร็ว เขาต้องการทำประตูอยู่ตลอดเวลา เขาเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กแล้ว”

อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับการฝึกฝนจากวิธีที่แปลกประหลาดจากคุณพ่อ แต่ ซอง ก็ให้เครดิตกับพ่อของเขาอย่างมากที่ทำให้กลายมาเป็นนักเตะระดับท็อปอย่างเช่นทุกวันนี้ รวมถึงยังคงปลูกฝังให้เขาเป็นคนติดดินอยู่เสมอ

“มันเป็นเรื่องน่าประทับใจมากที่ผมเคยได้ร่วมงานกับเขา ทุกครั้งที่ผมเห็นเขาในตอนเช้า เขาจะหัวเราะอยู่เสมอ และเขาก็เปิดกว้างมาก เมื่อผมคุยกับเขา เขาก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น เขาไม่เคยพูดว่า ผมมีความสุขที่จะอยู่ ฮัมบูร์ก ตลอดไป เพราะความฝันของเขาคือ พรีเมียร์ลีก”

“นั่นคือสิ่งที่พิเศษสำหรับผมกับ ซอน เขาพูดถึงพรีเมียร์ลีกอยู่เสมอ และความฝันของเขาก็กลายเป็นความจริงแล้ว เขาเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ ทำงานหนัก ร่างกายแข็งแกร่ง และรู้ว่าควรทำอะไรในสนาม” ฟอน อาห์เล่น กล่าว

Photo: skysports.com

ซอง ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ฮัมบูร์ก ด้วยวัยเพียง 18 ปี พร้อมฝากผลงาน 21 ประตู จาก 78 เกมรวมทุกรายการ ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ เลเวอร์คูเซ่น ในระหว่างปี 2013-2015 ยิงไป 29 ประตู จาก 87 เกม จากนั้น ก็ย้ายมายัง สเปอร์ส ในยุค เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อดีตกุนซือชาวอาร์เจนไตน์

ณ เวลานี้ ซอง ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของเกาหลีใต้ และกลายเป็นฮีโร่ของชาติ นอกจากนี้ กองหน้าวัย 28 ปี ยังหน้าที่เป็นคนคอยดูแลชาวเกาหลีใต้ที่มาเที่ยวในอังกฤษอีกด้วย

ย้อนกลับไปในช่วงที่ ซอง ทัวร์ปรีซีซั่นในบ้านเกิดกับ เลเวอร์คูเซ่น นั้น มีแฟนบอลชาวเกาหลีใต้มารอพบเขากว่า 30,000 คน โดย ร็อบบี้ ครูส ปีกชาวออาเตรเลีย อดีตเพื่อนร่วมทัพ “ห้างขายยา” เปรียบเทียบว่า ซอง เป็นเหมือนนักร้องซุเปอร์สตาร์ชาวบ้านเกิดเลยทีเดียว

ขณะเดียวกัน หลังจากที่เกาหลีใต้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติเพื่อรับมือกับประชาชนมากกว่า 4,000 คนที่ต้องอพยพเนื่องจากไฟป่าครั้งใหญ่เมื่อปี 2019 ซอง ได้บริจาคเงินจำนวน 100,000 ปอนด์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย

Photo : givemesport.com

ความดังของ ซอง นั้น ยังทำเขาได้รับเสียงโหวตจำนวน 240,000 คะแนน ให้ขึ้นปกเกมฟีฟ่า 2020 เหนือซุเปอร์สตาร์อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีก ยูเวนตุส, ลิโอเนล เมสซี่ จอมทัพ บาร์เซโลน่า และ เนย์มาร์ กองหน้า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

 นอกจากนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซอง ยังเขารับการฝึกทหารกับหน่วยนาวิกโยธินในค่ายทหารทางตอนใต้ของเกาะเชจูเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ ตามที่กฎหมายของประเทศเกาหลีใต้กำหนัดไว้ พร้อมกับได้รางวัลจากการฝึกดีเด่นติด 5 อันดับแรกจากจำนวนทหารที่เข้ารับการฝึก 157 นาย

“สิ่งที่ ซอง และคุณพ่อของเขามาทั้งหมดนั้น มันเป็นการเสียสละเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง พวกเขาทั้งคู่ควรได้รับคำชื่นชมกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมา” นักข่าวชาวเกาหลีใต้ที่รู้จักกับครอบครัว หัวหอก สเปอร์ส กล่าวทิ้งท้าย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้