“ทำไมต้องวิ่งเมื่อคุณบินได้” นั่นเป็นคำพูดของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ศูนย์หน้ามากประสบการณ์ของ เอซี มิลาน สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี หลังเจ้าตัวจักรยานอากาศซัดประตูชัยให้ “ปีศาจแดงดำ” บุกไปเฉือนเอาชนะ อูดิเนเซ่ 2-1 เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ในฤดูกาลนี้ อิบราฮิโมวิช วัย 39 โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดให้กับ มิลาน ด้วยการซัดไปถึง 10 ประตู จาก 6 เกมพร้อมพา “ปีศาจแดงดำ” รั้งจ่าฝูงในตารางคะแนนเซเรีย อา แม้เขาต้องพลาดลงเล่นไป 2 เกม เนื่องจากติดเชื้อโควิดก็ตาม

อิบราฮิโมวิช ยังคงได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดลำดับต้นๆในอิตาลี ถึงแม้จะมีหลายคนแสดงความคิดเห็นว่า มาตรฐานของวงการฟุตบอลแดนมะกะโรนีนั้น ตกลงไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ความยอดเยี่ยมของ ดาวยิงสวีเดน ก็ไม่ใครกล้าปฏิเสธ

3 ปีครึ่งที่ผ่านมานับตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าจากการลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบก่อนรองชนะเลิศยูโรป้า ลีก นัด 2 กับ อันเดอร์เลชท์ เมื่อเดือนเมษายนปี 2017 หลายคนมองว่า อิบราฮิโมวิช ซึ่งอายุ 35 ปี ในเวลานั้นคงไม่สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลในระดับสูงได้อีกแล้ว

ในเดือนมีนาคมปี 2018 แมนฯ ยูไนเต็ด และ อิบราฮิโมวิช ตกลงยกเลิกสัญญาด้วยความยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้น ตำนานกองหน้าทีมชาติสวีเดน ตัดสินใจโยกไปเล่นกับ แอลเอ กาแล็คซี่ ในสหรัฐอเมริกา เป็นเวลาเกือบ 2 ปี พร้อมระเบิดผลงานซัดไปถึง 53 ประตู จาก 58 เกม ก่อนจะกลับมายัง มิลาน อีกครั้ง

แอชลีย์ โคล อดีตแบ็คซ้ายทีมชาติอังกฤษ และเพื่อนร่วมทีมของ อิบราฮิโมวิช ที่ แอลเอ กาแล็คซี่ กล่าวว่า “ผมไม่แปลกใจเลยกับผลงานของเขาที่ มิลาน ผมมีความสุขที่เคยได้เล่นกับเขา ผมได้เห็นความเป็นมืออาชีพที่เขาแสดงออกมา เขาทำงานหนัก และทุ่มเทมาก”

“ร่างกายของเขาแสดงให้เห็นถึงผลงานที่เขาทำออกมาในสนาม หลังจากได้รับบาดเจ็บหนัก และกลับมาฟิตทุกคนต่างคิดว่า เขาย้ายไปเล่นในอเมริกาเพื่อพักร้อนไปในตัว แต่ไม่เลย เขายังคงสุดยอด และตอนนี้เขาเป็นดาวซัลโวในเซเรีย อา ผมคิดว่า เราควรให้เครดิตความเป็นมืออาชีพของเขา และในฐานะผู้ชายที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง”

 สิ่งที่ทำให้ อิบราฮิโมวิช แตกต่างจากผู้เล่นคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกันนี้คือ เมื่อเขาย้ายไปยัง แอลเอ กาแล็คซี่ อดีตกองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงทำงานอย่างหนักในทั้ง และนอกสนาม รวมทั้งแสดงความเป็นมืออาชีพให้ทุกคนได้เห็น

“ส่วนใหญ่มันเป็นการออกกำลังกายในยิม เขาได้รับบาดเจ็บหนักมาจากตอนที่เล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งทำให้เขายังไม่ฟิตมากนัก ผมเห็นว่าเขาทำงานหนักมากในโรงยิม และความมุ่งมั่นที่เขามีมันเกินขีดจำกัดจริงๆ”

“ในสนามแข่งขัน และที่สนามซ้อมคุณคงไม่คิดว่า เขาเป็นนักเตะที่อายุเกือบ 37 ปีแล้วในตอนนั้น เขาพร้อมที่จะฝึกซ้อม เขาเต็มใจที่จะฝึกซ้อม เขาทุ่มเททุกอย่าง 100 เปอร์เซ็นต์ในการซ้อมแต่ละครั้ง และสปิริตในการทำงานของเขานั้นไม่เคยเปลี่ยนเลย” โคล กล่าว

อย่างไรก็ตาม มีคนมองว่า การปฏิบัติตัวต่อผู้อื่นของ อิบราฮิโมวิช ค่อนข้างมีปัญหา และมันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่า ทำไมถึงคนส่วนใหญ่ถึงคิดแบบนั้น คิงส์ลีย์ โคมัน ปีกชาวฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของ “อิบรา” ที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เล่าว่า ศูนย์หน้าสวีเดนไม่เคยให้คำแนะนำใดกับเขาเลย และสนใจแต่ตัวเองเท่านั้น

พฤติกรรมเหล่านั้นของ อิบราฮิโมวิช ยังคงแสดงออกมาในระหว่างที่ค้าแข้งกับ แอลเอ กาแล็คซี่ โดย ฟลอเรียน จุงเวิร์ธ กองกลางชาวเยอรมันของ แอลเอ กาแล็คซี่ เปิดเผยว่า ดาวเตะวัย 39 ปี เคยใช้คำพูดดูถูกเพื่อนร่วมทีมตลอดทั้งเกม

นอกจากนี้ ยังมีมีวิดีโอบันทึกภาพได้ว่า อิบราฮิโมวิช ผลัก เซบาสเตียน เลทเกท มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีม แอลเอ กาแล็คซี่ ในระหว่างที่ตั้งกำแพงป้องกันฟรีคิก ซึ่ง เลทเกท ยอมรับภายหลังว่า เขารู้สึกไม่เป็นอิสระเมื่อต้องเล่นกับ “อิบรา” และบางครั้งถึงขั้นอยากเดินออกจากสนามด้วยซ้ำ

ขณะที่ อันเดรส สเวนเซ่น อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติสวีเดน กล่าวว่า “มันเหมือนกับว่า อิบราฮิโมวิช กำลังพยายามทดสอบผู้เล่นใหม่ที่ถูกเรียกตัวมาติดทีม เขาต้องการทดสอบนักเตะเหล่านั้น และดูว่าจะมีการตอบสนองกลับมาอย่างไรบ้าง”

อย่างไรก็ตาม สำหรับ โคล อิบราฮิโมวิช ยังคงเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมในสายตาของเขาเสมอ แม้ว่า 2 คำแรกที่จะพูดถึงเมื่อถูกขอให้อธิบายเกี่ยวกับตัวตนของ อดีตกองหน้า “ปีศาจแดง” คือ “บ้าคลั่ง” และ “ดุดัน” ก็ตาม

โคล กล่าวต่อว่า “เขาเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดี แต่บางครั้งผู้เล่นบางคนอาจไม่สามารถรับมือกับคำพูดที่รุนแรงของเขาได้ การเป็นเพื่อนร่วมทีมกับเขาคุณต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งเพราะเขาแค่พยายามผลักดันให้คุณดีขึ้น”

“บางครั้งมันได้ผลกับผู้เล่นที่อายุน้อยกว่า พวกเขาจะปรับปรุงการเล่นขึ้นมา แต่สำหรับนักเตะคนอื่น อาจจะรู้สึกไม่ดีอยู่บ้าง เพราะพวกเขาไม่สามารถรับมือกับมันได้ แต่สำหรับผมมันเป็นความสุขที่ได้เล่นกับเขา และเขาก็เป็นคนที่เราต้องการในห้องแต่งตัวในเวลานั้น”

อิบราฮิโมวิช เป็นคนที่เรียกร้องมาตรฐานสูงสุดจากเพื่อนร่วมทีมอยู่เสมอ โดย เจา เปโดร กองกลางชาวโปรตุเกส ของ แอลเอ กาแล็คซี่ เปิดเผยคำพูดของ “อิบรา” หลังเกมแพ้ให้กับ ฮุสตัน ไดนาโม 3-2 ว่า ที่บอกว่า ตัวเองเป็นเจ้าของเกาะแห่งหนึ่ง

สำหรับ อิบราฮิโมวิช มันเป็นแค่คำพูดเปรียบเปรยที่จะสื่อให้เพื่อนร่วมทีมรับรู้ว่า เขาจริงจัง และกระหายในความสำเร็จมากแค่ไหน ทั้งที่ตัวเองมีเงินมากมายมหาศาล และอยู่ในช่วงปลายอาชีพนักฟุตบอลแล้วก็ตาม

เปโดร กล่าวว่า “เขาคุยกับพวกเรา เขาบอกว่า ถ้าพวกนายจะมาที่นี่เพื่อไปเที่ยวทะเล หรือเดินเล่นในฮอลลีวูด ก็เอาเถอะ ฉันมีเงิน 300 ล้านในธนาคาร และเกาะแห่งหนึ่ง ฉันไม่ต้องการอะไรแล้ว ฉันแค่อยากชนะ”

ความคิดเหล่านั้นคือเหตุผลหลักที่ทำให้ อิบราฮิโมวิช กลับมายังซาน ซิโร่ อีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยเล่นกับ มิลาน มาแล้วในระหว่างปี 2011-2012 โดยตลอด 7 ปีที่ผ่านมานมา “รอสโซเนรี่” ไม่เคยจบใน 4 อันดับแรกเลย

เปาโล มัลดินี่ ตำนานแบ็คซ้าย และ ผอ.กีฬา มิลาน กล่าวว่า “อิบราฮิโมวิช ไม่เพียงแต่จะให้ความสำคัญกับเราในสนามแข่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถทุกๆด้านที่เขานำกลับมาที่สนามฝึกซ้อมของพวกเราด้วย”

อัสเมียร์ เบโกวิช โกล์ชาวบอสเนียฯ ที่มาเล่นกับ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาลนี้ กล่าวว่า “หากเขาสังเกตเห็นว่า เพื่อนร่วมทีมคนใดไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีที่สุดในระหว่างซ้อม เขาจะเตือนทันที เขายึดมั่นในมาตรฐานสูงสุดในทุกๆวัน เขาต้องการให้เพื่อนร่วมทีม และทุกคนในสโมสรต้องรับผิดชอบต่อมาตรฐานเหล่านั้น”

 “ผมคิดว่ามันเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนทำได้ดีขึ้นเมื่อคุณมีใครบางคนที่มีคุบุคลิกแบบนี้อยู่ในห้องแต่งตัว แต่หลังฝึกซ้อมเสร็จ เขาก็เป็นคนธรรมดา เขาชอบพูดเล่นด้วยความสนุกสนาน และหยอกเย้ากับทุกคน แต่แน่นอนว่า ในสนามเขาแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง”  

โคล กล่าวเสริมว่า “เขาเป็นคนเงียบ ๆ แต่ก็อาจจะหยอกล้อกับคนอื่นในบางครั้ง เขาสนุกสนานอยู่เสมอเมื่ออยู่ในห้องแต่งตัว เขาเป็นผู้เล่นที่สุดยอดมากเมื่ออยู่ในทีม จากนั้น เขาก็กลับบ้านไปอยู่กับลูก ๆ ตอนนี้ลูกของเขาโตขึ้นแล้ว เขาจึงใช้เวลาอยู่กับเด็กๆมากกว่าเดิม เขาเป็นแฟมิลี่แมนตัวจริง”

โคล ยังคงหัวเราะเมื่อถูกถามว่า การเล่นภายใต้การคุมทีมของ อิบราฮิโมวิช จะเป็นอย่างไรหาก หัวหอก มิลาน แขวนสตั๊ด และหันมารับบทบาทผู้จัดการทีมในอนาคต โดยระบุว่า “เขาจะต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากผมแน่นอน แต่ผมจะอยู่กับเขาได้ตลอดทั้งฤดูกาลหรือเปล่า ผมไม่รู้ แต่ผมไม่ต้องการเป็นลูกทีมเขา”

อย่างไรก็ตาม การเล่นในทีมเดียวกับ อิบราฮิโมวิช นั้น นักเตะดาวรุ่งจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาล มิลาน ชุดนี้มีแข้งอนาคตไกลอย่าง ราฟาเอล เลเอา, อเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส , ฟร้องค์ เคสซี่ และ อิสมาเอล เบนนาเซอร์ ซึ่งทั้ง 4 คน อายุน้อยกว่า “อิบรา” 1 ทศวรรษเลยทีเดียว

อังเดร เชฟเชนโก้ ตำนานดาวยิง มิลาน กล่าวว่า “การได้เห็นผู้เล่นเหล่านี้เล่นร่วมกับ อิบราฮิโมวิช นั้น เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก ผมคิดว่า ซลาตัน ได้พบสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว”

โคล รู้จักฟุตบอลอิตาลีเป็นอย่างดีเนื่องจากเคยค้าแข้งกับ โรม่า ในปี 2014-2016 และเขาก็คิดว่า ลีกแดนมะกะโรนีไม่ได้มาตรฐานตกลงไปแต่อย่างใด และไม่ว่าจะไปเล่นที่ใด อิบราฮิโมวิช ก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง

“ในความคิดของผมเขาสามารถเล่นที่ไหนก็ได้บบนโลก เขาอายุมากขึ้น แน่นอนเขาอายุเกือบ 40 ปีแล้ว แต่ด้วยความคิดของเขา พละกำลัง และความไม่ยอมแพ้ ก็ยังเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเขาอยู่เสมอ ซึ่งการคิดว่า คุณเก่งที่สุดนั่นแหละคือ แรงผลักดันของเขา”

“ผมคิดว่า ถ้าเขากลับมาที่พรีเมียร์ลีกตอนนี้ เขาจะยังคงเป็นนักเตะเพียงไม่กี่คนที่เหมาะสำหรับทีมระดับท็อป ผมคิดว่า เขาจะทำประตูได้ทุกระดับที่ลงเล่น”

อิบราฮิโมวิช จะเล่นไปอีกนานแค่ไหน โคล แสดงความคิดเห็นว่า “ถ้าคุณถามเขา เขาอาจจะบอกคุณว่า สิงโตไม่คุยกับมนุษย์หรืออะไรทำนองนั้น ผมคิดว่า เขาจะเล่นต่อไปจนกว่าร่างกายของเขาจะรู้สึกว่า ไม่สามารถรับมือกับมันได้แล้ว และเขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความรักที่มีต่อฟุตบอลอีกแล้ว แต่ผมคิดว่า เขาจะยังคงเล่นต่อไปอีกหลายปี”