Home บทความฟุตบอล สกอตต์ คาร์สัน โกลแชมป์ยุโรปสู่มือ 3 ผู้ถูกลืม

สกอตต์ คาร์สัน โกลแชมป์ยุโรปสู่มือ 3 ผู้ถูกลืม

0
สกอตต์ คาร์สัน โกลแชมป์ยุโรปสู่มือ 3 ผู้ถูกลืม

บรรดาผู้เล่นหลายๆคนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้รับคำสั่งจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดเทรนเนอร์ชาวสเปน ให้จัดหาของขวัญวันคริสมาสต์ที่จะถึงนี้ให้กับเด็กผู้ด้อยโอกาส และ สก็อตต์ คาร์สัน ผู้รักษาประตูมือ 3 “เรือใบสีฟ้า” ก็ต้องเข้าร่วมกิจกรรมด้วยเช่นกัน  

“สำหรับของขวัญที่ผมจัดไว้คือ การทัวร์ชมสนามเอติฮัด ผมเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมเพื่อมอบให้ความรักกับเด็ก ๆ ดังนั้น สโมสรจึงเลือกผมเป็นตัวแทน มันเป็นกิจกรรมที่ผมชอบมาก” คาร์สัน เริ่มกล่าว

แมนฯ ซิตี้ ลงเล่นไปแล้ว 70 นัดรวมทุกรายการนับตั้งแต่ คาร์สัน ถูกยืมตัวมาจาก ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2019 แต่น่าเหลือเชื่อที่ อดีตนายทวารทีมชาติอังกฤษ ยังไม่ได้ลงเล่นให้กับ “เรือใบสีฟ้า” เลยแม้แต่นาทีเดียว

ย้อนกลับไปในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ แมนฯ ซิตี้ พบกับ อตาลันต้า เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2019 ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็คขวาทีมชาติอังกฤษ ก็ยังได้รับหน้าที่นายทวารในช่วง 9 นาทีสุดท้ายของเกมก่อน คาร์สัน หลังจากที่ เคลาดิโอ บราโว่ โกล์มือ 2 โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

Photo : skysports.com

คาร์สัน เล่าต่อว่า “ไคล์ วอล์คเกอร์ เคยบอกกับผมอยู่เสมอว่า เขามีโอกาสลงเล่นเป็นผู้รักษาประตูมากกว่าผมเสียอีก และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมผมถึงอยากได้โอกาสลงเล่นสัก 1 เกม กับ แมนฯ ซิตี้ ในช่วงเวลาที่ผมยังอยู่ที่นี่”

การที่ แมนฯ ซิตี้ เป็นสโมสรชั้นนำที่ต้องลุ้นแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่งขัน ดังนั้น นักเตะ 25 คนในทีมจึงเต็มไปด้วยคุณภาพทุกตำแหน่ง และมันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้รักษาประตูมือ 3 ที่จะแทบไม่มีบทบาทกับทีมทั้งที่ต้องซ้อมหนักเหมือนกับมือ 1 และมือ 2

เมื่อพูดถึงในวันแข่งขันโกล์มือ 3 ส่วนใหญ่มักจะต้องนั่งดูเพื่อนจากบนอัฒจันทร์ แถมยังไม่มีชื่อเป็นตัวสำรองด้วยซ้ำ ซึ่งปกติแล้ว คนที่ได้รับบทบาทมือ 3 ก็จะเป็นนายทวารดาวรุ่งที่กำลังเรียนรู้ หรือไม่ก็โกล์มากประสบการณ์ที่อยู่ในช่วงปลายอาชีพ  

อย่างไรก็ตาม คาร์สัน อายุเพียง 35 ปี ซึ่งยังถือว่า อยู่ในช่วงพีคของตำแหน่งผู้รักษาประตู และเคยเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษมาแล้ว 4 เกม รวมถึงเล่นให้กับทีมในเมืองผู้ดีมากมาย อาทิ ลีดส์ ยูไนเต็ด, ชาร์ลตัน แอธเลติก, ลิเวอร์พูล, แอสตัน วิลล่า และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

Photo : news.coral.co.uk

คาร์สัน ยังคงเป็นผู้รักษาประตูที่สามารถไว้ใจได้ เขาลงเล่นในระดับสูงอย่างต่อเนื่องเกินกว่า 500 เกม ซึ่งประสบการณ์ที่โชกโชนของเขานั้น สามารถเป็นมือ 1 ให้กับอีกหลายทีมได้สบาย หรือจะเป็นมือ 2 ที่พึ่งพาในยามฉุกเฉินได้เช่นกัน

อดีตเด็กปั้น ลีดส์ กล่าวว่า “ผมยังคงมุ่งมั่นอยู่เสมอ และตอนนี้ผมคิดว่า ตัวเองเป็นผู้รักษาประตูที่ดีกว่าตอนที่เล่นให้กับทีมชาติอังกฤษเมื่อ 10 ปีก่อนมาก”

ประโยชน์ของ คาร์สัน ที่มีต่อ แมนฯ ซิตี้ อาจเป็นประสบการณ์ที่เขาสามารถถ่ายทอดให้กับ แซ็ค สเตฟเฟ่น นายด่านทีมชาติสหรัฐฯ วัย 25 ปี ของ “เรือใบสีฟ้า”  ซึ่งมีประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลระดับสูงน้อยมากเมื่อเทียบกับ คาร์สัน

ถึงแม้จะอยู่หลังตัวเลือกอันดับหนึ่งอย่าง เอแดร์สัน โกล์ทีมชาติบราซิล และ สเตฟเฟ่น ที่ แมนฯ ซิตี้ แต่ คาร์สัน ที่จะหมดสัญญายืมตัวกับ “เรือใบสีฟ้า” หลังจบฤดูกาลนี้ ยืนยันว่า เขายังไม่คิดแขวนถุงมือแต่อย่างใด

Photo : manchestereveningnews.co.uk

คาร์สัน เล่าต่อว่า “การเป็นทางเลือกที่ 3 ไม่ใช่สิ่งที่ผมเคยพูดกับตัวเองว่า ผมอยากทำในตอนนี้ ผมเคยเล่นอย่างสม่ำเสมอที่ ดาร์บี้ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว และไม่อยากจะย้ายออกมา แต่พวกเขาค่อนข้างเปิดเผยว่า อยากจะได้ผู้รักษาประตูมือ 1 คนใหม่”

“เมื่อ แมนฯ ซิตี้ ติดต่อมาหาผม ผมก็บอกเอเย่นต์ของตัวเองว่า ผมยังไม่พร้อมที่จะไม่ได้ลงเล่นทุกสัปดาห์ แต่เมื่อผมได้พูดคุยกับโค้ชผู้รักษาประตูอย่าง ชาบี มันชิซิดอร์ เกี่ยวกับสิ่งที่เข้าต้องการ และทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก

“ผมรู้ว่า บทบาทของผมจะเป็นอย่างไรเมื่อย้ายเข้ามา และผมรู้ว่า ตัวเองต้องพร้อมลงเล่นเสมอ มันมี 2-3 ครั้งในปีที่แล้วที่ผมได้รับบาดเจ็บ หรือถูกตัดชื่อออกจากตัวสำรอง แต่ทุกๆอย่างก็สามารถเกิดขึ้นได้ บางทีคุณก็อาจมาอยู่ในสนามแบบไม่ได้คิดมาก่อน”

“ฤดูกาลที่แล้วมันยากมากๆในบางครั้งทั้งในระหว่างสัปดาห์ และการฝึกซ้อมเซสชั่นต่างๆ ผมชอบการฝึกซ้อมมาโดยตลอด เพราะบางครั้งมันก็เข้มข้นกว่าการแข่งขันจริงเสียอีก เมื่อคุณไปถึงสนามแข่งในวันเสาร์ และเห็นคนอื่นๆได้วอร์มอัพ คุณก็รู้แล้วว่า วันนี้ตัวเองต้องอดลงเล่นแน่นอน”  

แม้จะยังไม่ได้ลงเล่นให้กับ แมนฯ ซิตี้ แต่ คาร์สัน ยังถูกส่งชื่อในฐานะตัวสำรอง 21 เกม รวมทุกรายการ ซึ่งเขาก็ยอมรับว่า เริ่มสบายใจมากขึ้นกับบทบาทของตัวเอง และพร้อมทำหน้าที่เสมอเมื่อได้รับการร้องขอจากทีม

Photo : sportsjoe.ie

คาร์สัน ย้ายจาก ลีดส์ ไปยัง ลิเวอร์พูล ในปี 2004 ด้วยวัยเพียง 19 ปี และได้ประเดิมเฝ้าเสากับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 22 ปีเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ เขาก็กำลังถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับ สเตฟเฟ่น กับการใช้ชีวิตในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม หลังกลับมาจากการยืมตัวกับ ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

อดีตมือกาว ลิเวอร์พูล กล่าวต่อว่า “แซค จะรับมือกับการฝึกซ้อม และความคาดหวังในแบบที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน ผมเคยเห็นว่า ในหัวของ แซค นั้น พยายามคิดเรื่องต่างๆมากเกินไป ผมแค่ทำให้เขามั่นใจได้ว่า เขาอยู่ที่นี่ได้เพราะพรสวรรค์ของเขาเอง และโค้ช ชาบี จะพัฒนาเขาได้เป็นอย่างดี แต่คุณต้องค่อยเป็นค่อยไป”

“หลังจาก 3-4 สัปดาห์ที่อยู่ที่นี่ ในหัวของผมก็คงเหมือนกับ แซค ผมคิดว่า ตัวเองกำลังลำบาก และไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการ และวิธีการต่างๆของทีมได้ เพราะ เป๊ป ต้องการผู้รักษาประตูที่สามารถเล่นบอลกับเท้าได้”

“แต่ แซค เพิ่งมาที่นี่ได้ 2-3 เดือนเท่านั้น ผมบอกให้เขาผ่อนคลาย มันจะดีสำหรับเขา และเขาจะรู้สึกดีขึ้น จากประสบการณ์ของผมเอง ผมพยายามช่วยเหลือคนอื่นเต็มที่ และผมมีความภาคภูมิใจมากที่สามารถทำสิ่งนั้นได้”

 “ส่วน เอแดร์สัน ผมแทบไม่ต้องช่วยอะไรเขาเลย เพราะเขามีพร้อมทุกอย่างแล้ว แต่สำหรับ แซค มันเกี่ยวกับการเข้ายิมพร้อมกับเขา การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา และเมื่อเขาทำผิดพลาด ผมจะอยู่ที่นั่นเพื่อพูดคุยกับเขาเพื่อให้กำลังใจ”

คาร์สัน เป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว เมื่อเขาต้องถ่ายทอดสิ่งต่างๆให้กับคนอื่นโดยเฉพาะกับ สเตฟเฟ่น นอกจากนี้ เขายังเป็นนักเตะในทีม แมนฯ ซิตี้ ยุค กวาร์ดิโอล่า เพียงคนเดียวที่เคยคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้วในสมัยที่เล่นกับ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2005

“ผมคว้าแชมป์ยุโรปมาแล้วที่อิสตันบูล แต่ผมพยายามไม่พูดมาก ผู้คนมักถามผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ คริส เคิร์กแลนด์ ได้เล่นในรอบแบ่งกลุ่มหลายเกมมาก ส่วนผมเป็นตัวสำรองของ เจอร์ซีย์ ดูเด็ค ในรอบรองฯ และนัดชิงฯ และผมก็เคยได้เล่นในเกมกับ ยูเวนตุส ด้วย”

“แน่นอนว่า ในเวลานั้น ผมยังไม่ควรได้รับโอกาส ผมคิดว่า คริส เคิร์กแลนด์ สมควรได้รับโอกาสมากกว่าผม แต่มันกลายเป็นผมที่มีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองในนัดชิงฯ ผมคิดว่า ถ้าคุณไม่ได้เล่นในเกมหลายๆนัดที่ผ่านมา และได้เหรียญ มันก็เป็นเรื่องยากจะยอมรับได้” มือ 3 แมนฯ ซิตี้ กล่าว

Photo : cumnockchronicle.com

สำหรับ คาร์สัน รางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่าเหรียญแชมป์ก็คือ การมีโอกาสลงสนามให้กับ  แมนฯ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า ซึ่งตอนนี้ เจ้าตัวยังคงเปิดกว้างเกี่ยวกับอนาคตไม่ว่าจะเป็นการย้ายไปค้าแข้งกับทีมอื่น หรืออยู่กับ “เรือใบสีฟ้า” ต่อไป

อดีตนายด่าน ลิเวอร์พูล กล่าวว่า “ผมไม่ต้องการอยู่ที่นี่ต่อไป และมีสถิติการลงเล่นเป็นศูนย์ ในอาชีพการงานของผม ผมไม่เคยอยากอยู่ที่ไหนสักแห่ง และมีความสุขที่จะไม่ได้เล่น ผมตั้งใจซ้อมทุกวันราวกับว่ามีโอกาส เพราะไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต”

“ถ้าผมลงเล่น ผมรู้ว่ามันจะไม่ได้มาจากผลงานที่ผมทำในสนามฝึกซ้อม แต่มันจะเกิดขึ้นเพราะความโชคร้ายบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อผู้รักษาประตูคนอื่น ๆ นั่นคือความจริงของสถานการณ์ของผม ส่วนสัญญาของผมกับ ดาร์บี้ จะหมดลงในเดือนกรกฎาคมปีหน้า และผมก็ยืมตัวมาที่นี่จนสัญญานั้นจะหมดลง จากนั้น ใครจะไปรู้อนาคต”

แม้จะเป็นเพียงนายทวารมือ 3 แต่อย่างน้อย คาร์สัน ก็รู้ว่า เขาได้รับความไว้วางใจจาก กวาร์ดิโอล่า, สตาฟฟ์โค้ช และเพื่อนร่วมทีม แมนฯ ซิตี้ หลายๆคน ซึ่งทำให้เขายังมีความสุขกับการทำงานในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม

“ในบางครั้งเมื่อคุณเข้ามาในสโมสรใหญ่แบบนี้ พร้อมกับร่วมงานกับผู้เล่นชั้นยอด คุณจะสงสัยว่าอีโก้ของพวกเขาจะเป็นอย่างไร แต่ผมบอกตรงๆว่า ที่นี่ไม่มีใครเป็นแบบนั้นเลย ผมคิดว่า เพื่อนร่วมทีมไว้วางใจในตัว และนั่นก็เป็นรู้สึกที่ดีในแต่ละวัน”

“เมื่อผมออกไปในสนาม ผมก็พยายามอย่างเต็มที่ และทำให้พวกเขาเห็นสิ่งนั้น และหวังว่าพวกเขาจะมั่นใจในตัวผม ผมพร้อม และทำได้ ผมจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ผมยังมีความสามารถในฐานะผู้รักษาประตู” คาร์สัน กล่าวปิดท้าย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้