Home บทความฟุตบอล เกิดอะไรขึ้น ? กับ “เรือใบ”

เกิดอะไรขึ้น ? กับ “เรือใบ”

0
เกิดอะไรขึ้น ? กับ “เรือใบ”

มันเป็นช่วงเวลาที่น่าแปลกใจอย่างยิ่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดเทรนเนอร์ชาวสเปน ซึ่งเคยพาทีมคว้าแชมป์ลีก 2 จาก 3 ซีซั่นหลังสุด แต่ตอนนี้ “เรือใบสีฟ้า” กลับรั้งเพียงอันดับ 8 ในตารางคะแนน

หลังผ่านไป 13 เกมในลีก แมนฯ ซิตี้ เก็บชัยชนะได้เพียง 6 เกม เสมอ 5 เกม แพ้ไปแล้ว 2 เกม โดยมีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงถึง 8 แต้ม และตอนนี้มันเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของ กวาร์ดิโอล่า และพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ที่จะพาตัวเองกลับสู่เส้นทางการลุ้นแชมป์อีกครั้ง

ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วหลังผ่านไป 13 เกม แมนฯ ซิตี้ ระเบิดสกอร์คู่แข่งไปถึง 40 ลูก แต่ตอนนี้พวกเขากลับยิงไปเพียง 19 ประตูเท่านั้น และยังมีหลายเกมที่พวกเขาทำผลงานได้น่าผิดหวังอาทิ เปิดบ้านพ่าย เลสเตอร์ ซิตี้ 2-5 เมื่อต้นซีซั่น และทำได้เพียงเสมอกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1-1 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา 

Photo : manchestereveningnews.co.uk

ในฤดูกาลนี้ดูเหมือนว่า กวาร์ดิโอล่า พยายามให้ลูกทีมของเขาเล่นด้วยความแน่นอนมากขึ้นเพื่อป้องกันการเสียประตูในเกมรับ ซึ่งเห็นได้จากการลงเล่น 8 เกมรวมทุกรายการหลังสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ เสียไปเพียงประตูเดียวคือในเกมกับ เวสต์บรอมวิช

การที่ จอห์น สโตนส์ เซ็นเตอร์แบ็คทีมชาติอังกฤษ หายเจ็บกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง บวกกับความยอดเยี่ยมของ รูเบน ดิอาส กองหลังคนใหม่ที่คว้าตัวมาจาก เบนฟิก้า ก็ทำให้ แมนฯ ซิตี้ มีเกมรับที่แข็งแกร่งขึ้นไปอีก ซึ่งจนถึงตอนนี้พวกเขาเสียประตูน้อยกว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ภายใต้การคุมทัพของของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเล่นเกมรับเสียอีก

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเกมรับที่แข็งแกร่งขึ้นแต่แดนกลางที่เคยเป็นจุดเด่นของ  แมนฯ ซิตี้ กลับมีปัญหา แฟร์นันดินโญ่ ห้องเครื่องชาวบราซิลอายุมากถึง 35 ปีแล้ว อิลคาย กุนโดกัน กองกลางทีมชาติเยอรมัน ไม่สามารถทำเกมได้ดีเหมือนเดิม ส่วน โรดรี้ มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ถูกสั่งให้เล่นเกมรับเป็นหลัก ซึ่งทำให้ภาระหนักตกมาอยู่ที่ เควิน เดอ บรอยน์

Photo : goal.com

นอกจากนี้ การที่ ดาบิด ซิลบา เพลยเมคเกอร์ตัวเก่ง ย้ายกลับไปเล่นกับ เรอัล โซเซียดาด ในบ้านเกิดเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้น ทำให้ แมนฯ ซิตี้  ขาดนักเตะที่มีความคิดสร้างสรรค์ และจนถึงตอนนี้ “เรือใบสีฟ้า” ก็ยังไม่สามารถหาคนมาแทนที่เขาได้อย่างเหมาะสม

แน่นอนว่า ฟิล โฟเด้น เป็นดาวรุ่งมากพรสวรรค์ และมีศักยภาพที่จะสามารถก้าวไปเป็นนักเตะขั้นยอดได้ในอนาคต แต่ในวัยเพียง 20 ปี กับการต้องมารับช่วงต่อจาก ซิลบา ที่รักษามาตรฐานการเล่นได้ดีมาตลอดก็เป็นเรื่องยาก

ขณะเดียวกัน การบาดเจ็บยาวของ เซอร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงคนสำคัญก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่สามารถเจาะตาข่ายคู่แข่งได้มากนัก ซึ่ง กาเบรียล เฆซุส กองหน้าทีมชาติบราซิล ที่ทำหน้าที่แทนก็ยิงไม่ได้มา 7 เกมติดต่อกันแล้ว

Photo : fotmob.com

ริยาด มาห์เรซ ปีกทีมชาติแอลจีเรีย เป็นผู้เล่นฝีเท้าดีแต่หลังจากซัดแฮตทริคในเกมที่เอาชนะ เบิร์นลีย์ 5-0 เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ เขาก็ยิงได้เพียงลูกเดียว ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่เคยเป็นแกนหลักในเกมรุกช่วงที่ผ่านมาก็ยิงไปเพียง 4 ลูกในเกมลีกฤดูกาลนี้

เฟอร์ราน ตอร์เรส ตัวรุกดาวรุ่งชาวสเปน ที่ย้ายมาจาก บาเลนเซีย เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 23 ล้านปอนด์ ก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งได้เหมือนสมัยที่เล่นกับ “ไอ้ค้างคาว” และเจ้าตัวยังโดนโยกไปเล่นหลายตำแหน่งจนสับสน

แมนฯ ซิตี้ ตามหลัง ลิเวอร์พูล อยู่ 8 แต้ม ซึ่งหมายความว่า กวาร์ดิโอล่า และลูกทีมไม่สามารถพลาดได้อีกแล้วหากหวังกลับมาลุ้นแชมป์ นอกจากนี้ “เรือใบสีฟ้า” ยังต้องเจอทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, สเปอร์ส และ เลสเตอร์ ในการขับเคี่ยวลุ้นตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย

Photo : thenationalnews.com

อย่างไรก็ตาม อาจอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเหมือนเดิมก็คือ กวาร์ดิโอล่า เอง โดยอดีตโค้ช บาร์เซโลน่า เพิ่งเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ “เรือใบสีฟ้า” ออกไปอีก 2 ปี และกล่าวว่า งานของเขายังไม่เสร็จสิ้นซึ่งคงหมายถึง การคว้าแชมป์ยุโรป

กวาร์ดิโอล่า โดนวิจารณ์อย่างหนักกับผลงานของ แมนฯ ซิตี้ ในถ้วยยุโรป โดยกูรูหลายคนมองว่า เขาให้ลูกทีมเล่นแบบระมัดระวังตัวจนสูญเสียสไตล์ไป และในฤดูกาลที่ผ่านมา โค้ชชาวสเปน ก็พา “เรือใบสีฟ้า” พลิกล็อกพ่าย โอลิมปิก ลียง ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย

หลังทำผลงานในฟุตบอลยุโรปไม่เป็นไปตามที่หวังเอาไว้บางที กวาร์ดิโอล่า อาจรู้สึกท้อใจ และนั่นก็ส่งผลทางอ้อมกับฟอร์มการเล่นของ แมนฯ ซิตี้ ในลีก เพราะถึงแม้พวกเขาจะลงทุนมากเท่าไหร่แต่ก็ยังไม่สามารถก้าวไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้