Home Featured เส้นทางสู่มาดริด ของสเปอร์ 20 ประตูใน UCL 2018/19 สู่การเข้าชิงบิ๊กเอียร์สครั้งแรกของสโมสร

เส้นทางสู่มาดริด ของสเปอร์ 20 ประตูใน UCL 2018/19 สู่การเข้าชิงบิ๊กเอียร์สครั้งแรกของสโมสร

0
เส้นทางสู่มาดริด ของสเปอร์ 20 ประตูใน UCL 2018/19 สู่การเข้าชิงบิ๊กเอียร์สครั้งแรกของสโมสร

ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกฤดูกาล 2018-19 คู่ชิงชนะเลิศระหว่าง ทอตแนมฮอตสเปอร์และลิเวอร์พูลในปีนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ทีมจากประเทศอังกฤษได้มาเจอกันเอง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2007-8 ซึ่งในปีนั้นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเอาชนะจุดโทษเชลซีไปได้ และเส้นทางของ 2 ทีมดังจากเกาะอังกฤษปีนี้ ก็เรียกได้ว่าหืดขึ้นคอและผ่านดราม่าหนังชีวิตกันมาอย่างหนักหน่วงทั้งคู่

ไก่เดือยทอง ทอตแนมฮอตสเปอร์ ในรอบแบ่งกลุ่มถือว่าเป็นงานหนักพอสมควร เมื่อได้อยู่ร่วมกลุ่มกับทีมต่างดาว บาร์เซโลนา และอินเตอร์มิลาน ยอดทีมจากอิตาลี สเปอร์ทำผลงานได้ร่อแร่ โดย 3 นัดแรกเก็บได้แค่แต้มเดียว แต่ก็มาเร่งเครื่องเก็บชัยชนะในบ้านกับ พีเอสวีไอนด์โฮเฟิน และ อินเตอร์มิลาน และนัดสุดท้าย ยันเสมอต่างดาวได้ในบ้าน ทำให้มี 8 แต้มเท่าอินเตอร์ แต่เมื่อเทียบ เฮดทูเฮด สเปอร์ยิงนอกบ้านได้มากกว่า จึงได้เข้ารอบไปในฐานะรองแชมป์กลุ่ม B

จากนั้นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบ 16 ทีม โดยถล่มโบรุสเซียดอร์ทมุนในบ้าน 3-0 และไปเฉือนนอกบ้านอีก 1-0 ทำให้ได้เข้าไปเจอกับทีมเต็งแชมป์ อย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ แม้ว่าในนัดแรก สเปอร์จะเฉือนเอาชนะซิตี้ไปได้ 1-0 จากประตูโทนของ ซงฮองมิน แต่เมื่อไปเยือนเอติฮัดสเตเดียม ก็เป็นหนังคนละม้วน โดยในครึ่งแรก มียิงกันถึง 5 ประตู โดยซิตี้นำไปก่อน 3-2ในครึ่งแรก เมื่อเปิดครึ่งหลังมาไม่นาน กุน อาเกวโร ก็ซัดประตูที่ซิตี้ต้องการ ซิตี้ขึ้นนำ 4-2 ถ้าหากจบที่สกอร์นี้ ซิตี้จะได้เข้ารอบรองชนะเลิศทันที แต่แล้วในนาทีที่ 72 สเปอร์ได้ลูกเตะมุมเจ้าปัญหา ยอเลนเต้กระโดดเข้าทำประตู โดยที่ไม่มีใครในสนามดูทันว่าใช้อวัยวะส่วนใด กรรมการไม่รอช้า เปิด VAR ดูทันที และได้ให้เป็นประตูของทีมเยือน เนื่องจากลูกบอลได้โดนหน้าขาของยอเลนเต้ ซึ่งถูกต้องตามกติกา จากนั้นซิตี้ก็บุกอย่างหนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำให้สเปอร์ได้เข้ารอบรองชนะเลิศไปด้วยกฏประตูทีมเยือน โดย2นัด เสมอกัน 4-4 นับเป็นแมชห้าดาวแห่งทัวร์นาเมนต์นี้เลยก็ว่าได้

ในรอบรองชนะเลิศ งานของสเปอร์ก็ไม่ได้ง่ายขึ้นเลย ในนัดแรก แพ้อาแจกซ์คารัง 0-1 และเมื่อออกไปเยือน โยฮันครัฟอารีน่า ในครึ่งแรก ก็โดนยิงนำไปอีก 2 ประตู จบครึ่งแรก สกอร์รวม 3-0 ตอนนั้นแฟนสเปอร์คงได้แต่ทำใจ แต่ในครึ่งหลังสเปอร์ที่ไม่เหลือถ้วยอะไรให้ลุ้นแล้วในฤดูกาลนี้ ก็กลับมามีความหวังจากลูกยิงของลูคัส มูร่า ในนาทีที่ 55 และ 59 หลังจากนั้นทั้ง2ทีมก็ต่างผลัดกันบุกและมีโอกาสลุ้นประตูทั้งคู่ จนกระทั่งนาทีสุดท้ายของการทดเวลา ลูคัส มูร่าก็ยิงตามน้ำจากการแปะของอัลลี่ ซัดหนีมือผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าไปอย่างสวยงาม และไม่มีเวลาให้ทีมพลังหนุ่มแดนกังหันได้แก้ตัวอีกแล้ว เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลา สเปอร์ก็ได้ตั๋วไปมาดริดแบบปาฏิหาริย์

สำหรับทอตแน่มฮอตสเปอร์ นับเป็นครั้งแรก ที่ได้เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในยูฟ่าแชมเปียนลีก และในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ จะได้รู้กันว่า พวกเขาจะสร้างประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการคว้าถ้วยแชมป์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปมาครองได้เป็นครั้งแรกสำเร็จหรือไม่

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้