บทวิเคราะห์ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ คู่ปิดท้ายของวันเสาร์ เป็นการโคจรมาเจอกันของทีมในระดับลีก ทู เชลเทนแฮม เปิดสนามเหย้า วาดดอน โร้ด ต้อนรับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมในระดับพรีเมียร์ลีก โดยทั้งสองทีมจะลงปะทะกันในช่วงดึกของวันเสาร์ที่ 23 มกราคม เวลา 00.30 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย ที่เมืองเชลท์แน่ม ประเทศอังกฤษ
เจ้าถิ่น เชลเทนแฮม เหล่านักรบของ ไมเคิล ดัฟฟ์ เทรนเนอร์หนุ่มที่กุมบังเหียนทีมมาสามปีกว่าๆ นับว่าคุ้นเคยกับทรัพยากรของทีมเป็นอย่างดี ผลงานในลีกเกาะกลุ่มอยู่ในกลุ่มที่มีลุ้นเลื่อนชั้นในพื้นที่เพลย์ออฟอันดับที่ 6 ของตาราง รอบสามในทัวร์นาเมนต์นี้นั้นเปิดบ้านบดเอาชนะทีมในลีกเดียวกันอย่าง แมนฟิลด์ ทาวน์ ในช่วงต่อเวลาพิเศษมาได้แบบเฉียดฉิว 2-1 จุดเด่นของทีมอยู่ที่ความใจสู้พร้อมเปิดหน้าชน เข้าปะทะไม่ยั้งในจังหวะ 50/50 เกมนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญในการก้าวเป็นแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ด้านการลงสนามเกมล่าสุดเป็นโปรแกรมบอลลีกช่วงกลางสัปดาห์ที่เปิดรังเจ๊ากับ นิวพอร์ท แบบน่าเสียดาย 1-1 สำหรับความของทีมในเกมนี้สมบูรณ์ไร้ที่ติ ไม่มีตัวผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแม้แต่รายเดียว ทุกคนพร้อมลงล่าเหยื่อในเกมนี้ได้ทั้งหมด โดยสตาร์ที่เป็นตัวความหวังในการแบกทีมคงหนีไม่พ้น แอนดี้ วิลเลี่ยมส์ ดาวซัลโวของทีมที่กดไปแล้ว 6 ประตูในซีซั่นนี้
ฝั่งทีมเยือน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นาทีนี้เหล่าขุนพลพันล้านกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจแบบสุดๆ หลังทางกุนซือมือทอง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั้นตัดสินใจต่อสัญญากับทีมออกไป มั่นใจได้เลยว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เหล่าซูเปอร์สตาร์มีความเชื่อมั่นกับสโมสรมากขึ้นว่าพร้อมทุ่มเงินไม่อั้นในการออกล่าความสำเร็จ ผลงานในรายการนี้รอบที่ผ่านมานั้นเปิดบ้านถล่ม “ตราลูกโลก” เบอร์มิงแฮม ซิตี้ มาได้แบบไร้ปัญหา 3-0 เหมือนปิดเกมเรียบร้อยตั้งแต่ครึ่งแรก เวลาที่เหลือก็เล่นครองบอลไปเรื่อยๆ จนจบเกมแบบคนละชั้น ด้านการลงเล่นนัดล่าสุดเป็นโปรแกรมบอลลีกช่วงกลางสัปดาห์ที่เปิดรังเหย้าบดเอาชนะ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า แบบหืดจับ 2-0 เพราะกว่าจะปลดล็อคประตูแรกได้ก็ปูพรมบุกอยู่นานจนเข้าสู่ช่วงควอร์เตอร์สุดท้ายของเกม สภาพความพร้อมของทีมนัดนี้จะอดใช้งาน ฟิลิปป์ แซนด์เลอร์ และ เควิน เดอ บรอยน์ ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่สองราย นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้นพร้อมลงเรียกฟอร์มเก่งในเกมนี้ได้ทั้งหมด โดยนักเตะที่น่าจับตามองในเกมนี้ขอชี้เป้าไปที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกอพอลโล่ที่พร้อมลงล่าประตูเพื่อเรียกความมั่นใจหลังฝืดมาหลายเกมแล้ว
วิเคราะห์ก่อนเกม ด้วยการที่สองทีมอยู่ต่างดิวิชั่นเลยไม่มีประวัติดวลกันมาก่อนเลย เชลเทนแฮม ที่ได้เฝ้ารังในเกมนี้มีเพียงไม่กี่ปัจจัยที่จะนำเอาไปสู้ ประกอบไปด้วย ความใจสู้และความคุ้นเคยกับสภาพสนามมากกว่า แท็คติกในเกมนี้หนีไม่พ้นเน้นเกมรับเป็นหลักก่อนอาศัยจังหวะฉาบฉวยในการเข้าทำ แน่นอนว่าพวกเขาจะปั่นประสาทเหล่าสตาร์ค่าตัวแพงของอาคันตุกะด้วยการเข้าบอลที่ดุดันหนักแน่น คอยทำลายจังหวะขึ้นเกมด้วยการพยายามตัดฟาล์วในพื้นที่ที่ยังไม่เข้าโซนอันตราย ส่วนทางผู้มาเยือน เรือใบสีฟ้า การปะทะกับทีมใดไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับพวกเขาในนาทีนี้ ความมั่นใจพุ่งขึ้นสู่ขีดสุด เกมบุกไม่ว่าจะจับใครลงสนามก็คุณภาพคับแก้ว เป็นไปได้ว่านัดนี้จะมีการโรเตชั่นผู้เล่นเอาตัวสำรองลงมาเรียกฟอร์มบ้าง เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้วยังมั่นใจว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สไตล์การเล่นของพวกเขานั้นยากที่มีทีมใดมาเทียบ น่าจะปูพรมบุกไปเรื่อยๆ ตามจังหวะจนเปิดแผลได้และถล่มเอาชนะไปด้วยศักยภาพของนักเตะที่มีฝีเท้าเหนือกว่า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลเทนแฮม (3-5-2) : โจชัว กริฟฟิทส์ (GK) – ชาลีย์ รากลาน, วิลเลี่ยม บอยล์, เบน โตเซอร์ – แม็ตตี้ แบลร์, เอลลิส แชปแมน, คอเนอร์ โทมัส, ฟินน์ อาซาซ, คริส ฮุสเซย์ – อัลฟี่ เมย์, แอนดี้ วิลเลี่ยมส์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : แซค สเตฟเฟ่น (GK) – ชูเอา คานเซโล่, เอริค การ์เซีย, นาธาน อาเก้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – แฟร์นานดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเด้น, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง – เซร์คิโอ อเกวโร่
ผลสกอร์ที่คาด : เชลเทนแฮม 0 – 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้