บทวิเคราะห์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เป็นหนึ่งเกมที่น่าจับตามองระหว่างทีมจากลีกเมืองเบียร์ “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ลงเล่นในฐานะเจ้าบ้านแต่แข่งขันกันที่สนามกลาง ปุสกัส อารีน่า วัดฝีเท้ากับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจากลีกแดนผู้ดี โดยทั้งสองทีมจะลงสนามปะทะกันในช่วงดึกของวันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 03.00 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ทางฝั่ง “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ช่วงนี้ลูกทีมของ มาร์โค โรเซอ อยู่ในช่วงที่ฟอร์มดร็อปแบบสุดๆ ยิ่งเล่นยิ่งขาดความมั่นใจ เหมือนตั้งแต่ได้ยินข่าวว่าเทรนเนอร์จะอำลาทีมในซีซั่นหน้า นักเตะตัวหลักต่างพากันเสียสมาธิจนไม่สามารถโฟกัสผลงานในสนามได้เลย เกมรับที่เคยเหนียวแน่นกลายเป็นยุ่ยจนน่าเกลียด เกมรุกต่อให้ทำผลงานได้ตามมาตรฐานปกติก็ยิงได้ไม่พอเสีย ผลงานในรอบแบ่งกลุ่มนั้นผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์กลุ่มแบบกระเสือกกระสนสุดๆ ด้านการลงเล่นนัดล่าสุดเป็นเกมลีกที่พ่ายคารังให้กับทีมท้ายตารางอย่าง ไมนซ์ 05 แบบพลิกความคาดหมาย 1-2 สำหรับความพร้อมของทีมในนัดนี้จะขาด มามาดู ดูกูเร่, ทอร์เบน มูเซล และ ฟามาน่า ไควซีร่า ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่ทั้งหมด นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้นพร้อมลงล่าชัยให้กับทีมได้อย่างไร้กังวล โดยสตาร์ที่เป็นตัวชี้ชะตาในการจบสกอร์เกมนี้ขอชี้เป้าไปที่ มาร์คุส ตูราม ดาวยิงดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสที่พร้อมปั่นป่วนคู่แข่งด้วยทักษะอันเหลือร้าย
ส่วนด้าน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหล่าขุนพลแข้งทองของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มเข้าขั้นพีคที่สุดในซีซั่นก็ว่าได้ ไล่เก็บชัยชนะมาอย่างต่อเนื่องแบบไม่กลัวใครหน้าไหน เกมรับแข็งแกร่งดังภูผาหินเกมรุกจัดใครลงมาก็คุณภาพคับแก้วไม่ต่างกัน ผลงานในรายการนี้รอบแบ่งกลุ่มนั้นผ่านเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มโดยที่ไม่ปราชัยให้กับทีมใดเลย เก็บชัยชนะไปถึง 5 นัดและเสมอเพียงหนึ่งนัด ด้านการลงสนามนัดล่าสุดนั้นเป็นโปรแกรมบอลลีกที่บุกเชือด “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล แบบเฉียดฉิว 1-0 แต่รูปเกมนั้นเหนือกว่าตลอด 90 นาทีแค่จบสกอร์เพิ่มไม่ได้เพราะบดเร่งเกมแบบเต็มอัตราศึกเท่านั้นเอง สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้จะอดใช้งาน สกอตต์ คาร์สัน, ฟิลิปป์ แซนด์เลอร์ และ นาธาน อาเก้ ที่เข้าโรงหมออยู่ทั้งหมด ที่เหลือคนอื่นๆ ไร้ปัญหาใดให้ต้องกังวลพร้อมลงล่าเหยื่อรายต่อไปอย่างต่อเนื่องได้ทั้งหมด แน่นอนว่าสตาร์ที่น่าจับตามองที่สุดนาทีนี้หนีไม่พ้น อิลคาย กุนโดกัน แนวรุกสาระพัดประโยชน์ที่กำลังเล่นได้อย่างเข้าฝัก
วิเคราะห์ก่อนเกม การดวลกันในรายการระดับทวีปของทั้งคู่นั้นเป็นทาง แมนซิตี้ ที่ทำได้ดีกว่าแบบทุกประตูเพราะยังไม่เคยปราชัยให้กับ กลัดบัค เลยแม้แต่นัดเดียว นับว่าเป็นบอลที่แพ้ทางกันแบบปฏิเสธได้ยาก ยิ่งเกมนี้ สิงห์หนุ่ม เสียโอกาสกุมความได้เปรียบในการเล่นในรังเพราะเดินทางมาเล่นที่สนามกลางจากพิษโควิด-19 ทำให้นักเตะย่อมต้องล้าจากการเดินทางเพิ่มมากขึ้น แถมช่วงนี้พวกเขากำลังขาดความมั่นใจเพราะบรรยากาศในห้องแต่งตัวเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมเนื่องมาจากข่าวการอำลาทีมล่วงหน้าของกุนซือ กลายเป็นผลร้ายต่อทีมแบบสุดๆ ตรงกันข้ามกับจิตใจของอาคันตุกะอย่าง เรือใบสีฟ้า ที่กำลังเดินหน้าล่าชัยแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ ระบบการเล่นศักยภาพทั้งรุกและรับดูลงตัวไปทั้งหมด ยากจะหาจุดอ่อนเจาะให้เกิดความผิดพลาดจริงๆ ในนาทีนี้ เชื่อว่ารูปเกมที่ออกมาจะเป็นการแลกหมัดกันคนละดอก ใครดีกว่าก็กำชัยไปด้วยการวัดกันที่ความเด็ดขาดในการจบสกอร์ ท้ายที่สุดแล้วมั่นใจว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นฝ่ายกำชัยไปได้แบบไม่ยากเย็นเพราะว่าอาวุธในแนวรุกนั้นหนักแน่นกว่าแบบเทียบกันไม่ติด
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (3-5-2) : ยานน์ ซอมเมอร์ (GK) – รามี่ เบนเซไบนี่, มัตธิอัส กินเทอร์, นิโค เอลเวดี้ – สเตฟาน ไลเนอร์, โยนาส โฮฟมันน์, คริสตอฟ คราเมอร์, ฟลอเรียน นอยเฮาส์, วาเรนติโน่ ลาซาโร่ – อลาสซาเน่ เพลอา, มาร์คุส ตูราม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์สัน (GK) – ชูเอา คันเซโล่, รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์, โอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน – แบร์นาโด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ผลสกอร์ที่คาด : โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 0 – 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้