บทวิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โปรแกรมนัดกลางสัปดาห์คู่เปิดหัว เป็นการปะทะแข้งกันระหว่างทีมจ่าฝูง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมเปิดรังเหย้า เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ทีมอันดับที่ 12 ของตารางคะแนนในปัจจุบัน โดยทั้งสองทีมจะลงสนามดวลฝีเท้ากันในช่วงดึกของวันอังคารที่ 2 มีนาคม เวลา 03.00 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้ามืดของวันพุธที่ 3 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย ณ เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
เจ้าถิ่น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหล่าขุนพลพันล้านของยอดเทรนเนอร์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดฟอร์มอันเร่าร้อนได้ง่ายๆ ไล่กวาดชัยมาอย่างต่อเนื่องทุกถ้วย ไม่ว่าเจอใครหน้าไหนชั่วโมงนี้เรียกได้ว่าพร้อมบวกแบบไม่มีกลัว แนวรับที่เคยเป็นจุดอ่อนตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นจุดแข็ง แนวรุกมีจังหวะจะโคนไม่บุกแบบบ้าเลือด เน้นการครองบอลเพื่อเปิดช่องแล้วหาจังหวะที่สบโอกาสเหมาะๆ จบแบบเน้นๆ แถมช่วงท้ายเกมหากต้องการเน้นผลการแข่งขันยังเพิ่มความเขี้ยวในการครองบอลฆ่าเวลาให้หมดไปแบบชิวๆ อีกด้วย ด้านการลงเล่นนัดล่าสุดเป็นโปรแกรมบอลลีกที่เปิดบ้านบดเอาชนะสอนเชิงทีมฟอร์มฮอตอย่าง “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แบบสกอร์สูสี 2-1 แต่มีการโรเตชั่นผู้เล่นหลายตำแหน่งราวกับซ้อมเกมรุกเรียกความฟิตให้ตัวหลักบางรายที่เพิ่งคืนสนาม สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาดตัวเจ็บหน้าเดิมอย่าง สกอตต์ คาร์สัน, ฟิลิปป์ แซนด์เลอร์ และ นาธาน อาเก้ ส่วนในรายของ อิลคาย กุนโดกัน กองกลางคนสำคัญต้องรอเช็คความฟิตจนนาทีสุดท้ายเพราะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่ต้นขา นอกเหนือจากรายชื่อที่กล่าวมาข้างต้นพร้อมลงล่าชัยแบบต่อเนื่องได้ทั้งหมด โดยไพ่ตายในการชี้ขาดผู้ชนะนัดนี้ขอชี้เป้าไปที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงมากประสบการณ์ที่กำลังล่าประตูเรียกความมั่นใจอยู่ในตอนนี้
ฝั่งทีมเยือน “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ฟอร์มในฤดูกาลนี้เทียบกับปีก่อนไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เม็ดเงินที่ลงทุนไปมหาศาลแทบจะดูไร้ค่า นักเตะที่เลือกเข้ามาเสริมทัพแต่ละรายนั้นไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าคุ้มค่าเลย ปัญหาอาการเจ็บของผู้เล่นตัวหลักเพียงแค่ไม่กี่รายส่งผลให้ทีมออกอาการเป๋แบบกู่ไม่กลับ จากทีมที่เคยลุ้นพื้นที่บอลยุโรปกลายมาเป็นทีมกลางตารางแบบเต็มตัว แนวรุกที่เคยดุดันเร้าใจมีการเข้าทำที่ยากจะหยุดกลับกลายเป็นเหมือนหอกทื่อๆ แทงใครไม่เข้า แผงหลังขนาดยืนแผนเซ็นเตอร์แบ็คสามคนยังเสียประตูเป็นว่าเล่น ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเป็นเกมลีกแดนผู้ดีที่บุกตามเจ๊า “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แบบหืดจับ 1-1 สภาพความพร้อมของทีมในนัดนี้จะอดใช้งาน วิลลี่ โบลี่, ดาเนียล โพเดนซ์, เรนาต ดาดาชอฟ และ ราอูล ฆิเมเนซ ที่เข้าโรงหมออยู่ทั้งหมด ที่เหลือคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์พร้อมบุกถิ่นจ่าฝูงเพื่อเก็บแต้มแบบไร้กังวล แน่นอนว่าความหวังสูงสุดในการพังตาข่ายนาทีนี้ต้องฝากไว้ที่ เปโดร เนโต้ แนวรุกสาระพัดประโยชน์ที่เพิ่งโหม่งประตูช่วยทีมแบ่งแต้มมาได้ในนัดที่ผ่านมา
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าเป็นทางทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อยด้วยผลงานชนะ 3 นัดและแพ้ 2 นัด นับว่าเป็นบอลที่ทางทีมจ่าฝูงค่อนข้างแพ้ทางเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามคอมโบที่เล่นงาน เรือใบสีฟ้า เป็นประจำนั้นเป็นการประสานงานของ ฆิเมเนซ กับ ตราโอเร่ ซึ่งตอนนี้เหลือให้ใช้งานเพียงแค่หน่อเดียวทำให้ศักยภาพลดทอนลงไปอย่างมาก ต่อให้ปีกเลี้ยงแหวกแนวรับเข้าไปได้ไม่มีตัวจบคมๆ ก็ไร้ประโยชน์ ยิ่งแนวรับของ หมาป่า ออกลูกเหวอบ่อยๆ ในช่วงนี้ยิ่งน่าเป็นห่วงเข้าไปใหญ่เพราะพวกเขาไม่มีทางเลือกในเกมนี้มากนักนอกจากต้องมาเล่นเกมยื้อหวังหนึ่งแต้มสถานเดียว ตรงกันข้ามกับ แมนซิตี้ ที่ไม่มีความกดดันใดๆ สภาพจิตใจของผู้เล่นภายในทีมอยู่ในระดับที่มั่นใจแบบสุดๆ เล่นเกมบุกตามธรรมชาติของทีมได้แบบไม่ต้องกังวล เนื่องจากแนวรับในตอนนี้เหนียวแน่นกว่าเดิมแบบไม่ต้องห่วง ผู้เล่นแดนบนเล่นได้อย่างอิสระไม่ต้องพะวงเรื่องการมาช่วยซ้อนในเกมรับมากเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้วยังเชื่อในอาวุธหนักในแนวรุกของเจ้าถิ่นมากกว่าว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ ในการเก็บสามแต้มในรังแบบสบายๆ ด้วยการปูพรมบุกใส่อาคันตุกะแบบวันเวย์รอลุ้นแค่ว่าจะเปิดแผลแรกได้เร็วเท่าไหร่แค่นั้น
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์สัน (GK) – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์, โอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน – แบร์นาโด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่, ราฮีม สเตอร์ริ่ง
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส (3-4-3) : รุย ปาทริซิโอ (GK) – เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์, คอเนอร์ คัวดี้, โรแม็ง ซาอิสส์ – เนลสัน เซเมโด้, รูเบน เนเวส, ชูเอา มูตินโญ่, จอนนี่ กาสโตร – อดาม่า ตราโอเร่, วิลเลี่ยน โฆเซ่, เปโดร เนโต้
ผลสกอร์ที่คาด : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 – 0 วูล์ฟแฮมป์ตัน