บทวิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดสัปดาห์คู่ปิดท้ายวันอาทิตย์ ลงเล่นกันในช่วงดึกของวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม เวลา 02.15 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้ามืดของวันจันทร์ที่ 15 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย ณ เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เป็นการวัดฝีเท้ากันของทีมรองจ่าฝูง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดโรงละครแห่งความฝัน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 5 ของตารางคะแนนในขณะนี้
เจ้าถิ่น “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนว่าเหล่าขุนพลค่าเหนื่อยแพงระยับของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะหนีไม่พ้นลูปนรกที่ฟอร์มพีคสุดสลับกลับมาสู่ฟอร์มบู่แบบสุดๆ หลังเกมลีกสัปดาห์ก่อนบุกเชือดจ่าฝูงเพื่อบ้านน่ารำคาญ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงรังแบบหักปากกาเซียน 2-0 แต่แล้วที่ไหนได้พอลงสนามนัดล่าสุดที่เป็นเกมยุโรปช่วงกลางสัปดาห์กลับทำได้แค่เสมอ “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ในบ้านของตัวเองแบบน่าเขกกะโหลก 1-1 เนื่องจากการเสียสมาธิช่วงท้ายเกมโดนโขกตีเจ๊าทั้งที่เหลือเวลาอีกแค่สองนาทีในช่วงทดเจ็บ จุดอ่อนที่แก้ไม่หายสักทีคือความสม่ำเสมอที่ไม่เคยรักษาฟอร์มที่ดีไว้ได้แบบต่อเนื่อง ยิ่งเกมรุกนั้นคู่แข่งเริ่มจะจับทางได้แล้วว่าถ้าปิดเพลย์เมคเกอร์อย่าง บรูโน่ ได้คนเดียวรับรองช็อตทั้งทีม สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาดตัวเจ็บหน้าเดิมอย่าง ฟิล โจนส์, ปอล ป็อกบา, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เอดินสัน คาวานี่ รวมไปถึง ดาบิด เค เคอา ผู้รักษาประตูมือหนึ่งที่กลับไปเฝ้าภรรยาและลูกที่เพิ่งคลอด นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้นพร้อมแย่งตำแหน่งกันเป็น 11 ตัวจริงได้ทั้งหมด โดยสตาร์ที่ฟอร์มดีที่สุดนาทีนี้หนีไม่พ้น ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายจอมฟิตที่เล่นได้มาตรฐานไม่ตกเลยในช่วงหลัง
ฝั่งทีมเยือน “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คราวนี้ถึงคิวของ “เดอะ จีเนียส” เดวิด มอยส์ พาลูกทีมฟอร์มดุบุกเยือนถิ่นเก่าบ้าง ความโดดเด่นของทีมในปีนี้เป็นเกมรับที่เล่นได้อย่างเหนียวแน่น กองกลางตัวรับสองคนที่คอยสกรีนบอลก่อนถึงพื้นที่อันตรายทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม แนวรุกแดนบนปล่อยให้เล่นกันแบบอิสระชงเองกินเอง แถมไม้ตายที่เป็นทีเด็ดที่เล่นงานคู่แข่งอยู่เป็นประจำเป็นการเล่นลูกเซตพีซ ที่พวกเขามักจะทำประตูในช่วงเวลาสำคัญๆ ได้อยู่บ่อยครั้ง ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเป็นโปรแกรมบอลลีกที่เปิดบ้านเชือด “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด แบบนิ่มๆ 2-0 สภาพความพร้อมของทีมในนัดนี้จะอดใช้งาน ดาร์เรน แรนดอล์ฟ, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, อาร์ธูร์ มาซูอากู และ อันเดรย์ ยาโมเลนโก้ ที่เข้าโรงหมออยู่เหมือนเดิม รวมไปถึง เจสซี่ ลินการ์ด แนวรุกฟอร์มร้อนที่ติดสัญญาห้ามลงเจอกับต้นสังกัดที่แท้จริง ที่เหลือคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นพร้อมบุกถิ่นเมืองแมนช่วยนายใหญ่ล้างแค้นได้ทั้งหมด แน่นอนว่าทีเด็ดในแดนกลางที่ถูกมอบหมายให้ล่าหัวเพลย์เมคเกอร์เจ้าถิ่นย่อมเป็น โทมัส ซูเช็ค มิดฟิลด์จอมขยันที่เล่นได้อย่างน่าจับตามองอย่างมากในฤดูกาลนี้
วิเคราะห์ก่อนเกม การดวลกันนัดล่าสุดที่สนามแห่งนี้ย้อนไปไม่นานในศึก เอฟเอ คัพ ที่เป็นทางแมนยูเปิดบ้านบดเอาชัยไปได้แบบเฉียดฉิว 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ อย่างไรก็ตามสภาพความฟิตของนักเตะเจ้าบ้านในเกมนี้ย่อมเป็นรองอาคันตุกะพอสมควรเพราะเพิ่งผ่านเกมยุโรปที่หนักหนาสาหัสมา เกมนี้ทางเลือกของเจ้าบ้านมีไม่มากนักนอกจากต้องเปิดเกมรุกใส่ผู้มาเยือนเพื่อหวังคว้าสามแต้มสถานเดียว ซึ่งการขาดหายไปของแนวรุกตัวหลักบางรายลดทอนความน่ากลัวในเกมบุกลงไปมากโข แนวรับยังวางใจได้เสียประตูน้อยลงกว่าช่วงต้นซีซั่นค่อนข้างเยอะ แต่เกมนี้ไม่สามารถประมาทการเล่นลูกตั้งเตะของทีมเยือนที่คงมาเล่นในสไตล์ถนัดรับแล้วสวนกลับได้เป็นแน่ เนื่องจากพวกเค้าคงจะมาหวังหนึ่งแต้มไว้ก่อนเป็นอันดับแรก ยื้อให้เกมอึดอัดไปเรื่อยๆ เพื่อโยนความกดดันให้เจ้าถิ่นแล้วรอจังหวะปล่อยหมัดน็อคทีเดียวเน้นๆ เมื่อเทียบองค์ประกอบต่างๆ แล้วเชื่อว่ารูปเกมนัดนี้จะออกมาแบ่งรับแบ่งสู้ ต่างฝ่ายคงไม่กล้าเปิดหน้าแลกเต็มตัวเพราะแต้มนัดนี้ส่งผลต่อการลุ้นพื้นที่ยุโรปของทั้งคู่โดยตรง ท้ายที่สุดแล้วยังแอบมั่นใจว่า ปีศาจแดง ที่มักจะมีสตาร์บางรายที่มีคาแรกเตอร์แห่งผู้ชนะใช้ความสามารถเฉพาะตัวแบกทีมเอาตัวรอดได้บ่อยครั้งมีสิทธิ์จะเบียดเอาชนะไปได้สูงกว่า แค่รอลุ้นว่าจะมีประตูจาก บรูโน่ หรือจุดโทษปริศนาเมื่อไหร่แค่นั้น
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน (GK) – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดลอฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – สกอตต์ แมคโทมิเนย์, เฟร็ด – เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, แดเนียล เจมส์ – อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ (GK) – วลาดเมียร์ คูฟาล, เคร็ก ดอว์สัน, อิสซ่า ดิย็อป, อารอน เครสส์เวลล์ – โทมัส ซูเช็ค, เดแคลน ไรซ์ – จาร์ร็อด โบเว่น, มานูเอล ลันซินี่, ซาอิด เบนราห์มา – มิคาอิล อันโตนิโอ
ผลสกอร์ที่คาด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด