วิเคราะห์บอล ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบก่อนรองชนะเลิศ คู่ระหว่าง “สิงห์ทะเลทราย” ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย พบกับ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย โดยฟุตบอลนัดนี้จะลงเตะกันในช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 17.15 ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต จังหวัดปทุมธานี ประเทศไทย
“สิงห์ทะเลทราย” ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายมาในฐานะแชมป์กลุ่ม บี โดยผลงาน 3 เกมที่ลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่น 2-1 เสมอกับทีมชาติกาตาร์ 0-0 และในเกมนัดสุดท้ายเบียดเอาชนะทีมชาติซีเรีย 1-0 ทำให้พวกเขาเก็บได้ 7 คะแนน จบเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ส่วนในเรื่องปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะซาอุดิอาระเบีย ไม่มีรายงานว่าแข้งคนใดบาดเจ็บแม้แต่รายเดียว โดยแข้งตัวอันตรายที่น่าจับตามองของทีมคือ อับดุลราห์มาน กาลีฟ ปีกความเร็วสูงที่ทำผลงานรอบแบ่งกลุ่ม 1 ประตู 1 แอสซิส และ อายมาน อัล คูห์เลฟ ที่ได้พักเต็มๆในเกมนัดสุดท้ายเกมเจอกับทีมชาติซีเรีย
“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ผ่านเข้ามาเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฐานะรองแชมป์กลุ่ม เอ โดยผลงาน 3 เกมที่ลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรกเป็นการโชว์ฟอร์มสุดโหดถล่มทีมชาติบาห์เรน 5-0 นัดถัดมาแพ้ให้กับทีมชาติออสเตียเลีย 2-1 และเกมสุดท้ายเสมอกับทีมชาติอิรัก 1-1 เก็บได้ 4 คะแนนจาก 3 นัด สำหรับความพร้อมในนัดนี้ทัพช้างศึกจะพร้อมลงบู๊เต็มสูบ หลังได้ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าตัวเก่งของทีมชุดนี้กลับมาฟิตพร้อมลงสนามอีกครั้ง เชื่อว่าในนัดนี้ อากิระ นิชิโนะ จะส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามแน่นอน หลังจากในเกมที่พบกับทีมชาติอิรัก โรเตชั่นปรับตัวผู้เล่นถึง 7 ตำแหน่ง จะนำทัพมาโดย สุภโชค สารชาติ และ ศุภชัย ใจเด็ด
วิเคราะห์ก่อนเกม ก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์นี้ ทั้งสองทีมได้มีโอกาสลงอุ่นเครื่องกันเป็นฝ่ายทีมชาติซาอุดิอาระเบีย เอาชนะได้ 1-0 น่าจะทำให้ทั้งสองทีมพอจะรู้ทางกันพาสมควร ความเก่งของทัพสิงห์ทะเลทรายชุดนี้คือเกมรับที่เหนียวแน่น แม้ในรอบแบ่งกลุ่มจะยิงได้แค่ 3 ลูกแต่ก็พาทีมเป็นแชมป์กลุ่มได้ ส่วนฝั่งทีมขาติไทยต้องยอมรับว่าการได้เป็นเจ้าภาพในการแข่งครั้งนี้สร้างความได้เปรียบให้ทีมเป็นอย่างมาก เหมือนได้ลงเตะในบ้านตัวเองทุกนัด และมีเกมรุกที่ยอดเยี่ยมสามารถยิงประตูได้ทุกนัดที่ลงเล่น จุดอ่อนจะอยู่ที่เรื่องสมาธิในเกมรับกับความฟิตของนักเตะ มีสถิติที่น่าสนใจตั้งแต่ นิชิโนะ มาคุมทัพ ไทย ยังไม่เคยแพ้ให้กับทีมชาติจากตะวันออกกลางเลยในเกมที่เป็นทางการ และยังถูกกับสนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต คุมทีมชุดใหญ่มาเล่นที่นี่ 2 นัดยังไม่แพ้ใครเลย โดยหวังว่าสถิติต่างๆจะอยู่ต่อไป ซึ่งในนัดนี้คงต้องหวังพึ่งแฟนบอลชาวไทยช่วยส่งแรงใจ หากยังต้องการให้ความหวังในการได้ไปเล่นในโอลิมปิกยังไม่ดับลง
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย (5-4-1) : โมฮัมเหม็ด อัล ยามิ (GK) – คอลิด อัล ดูบาเบซ, อับดุลลา อัล อามิร์, ฮัซซาน เทมบากติ, อับดุลบาร์เซต อัล ฮินดิ, ซาอัด อับดุลฮาร์มิด – นาซเซอร์ อัล โอมราน, มูกทาร์ อัลลีย์, อับดุลราห์มาน กาห์รีบ, อายมาน อัล คูห์เลฟ, อับดุลลาห์ อัล ฮามดาน
ทีมชาติไทย (4-2-3-1) : กรพัฒน์ นารีจันทร์ (GK) – มีโชค มหาศรานุกูล, ชินภัทร์ ลีเอาะ, ศฤงคาร พรมสุภะ, ทิตาธร อักษรศรี – กฤษดา กาแมน, สรวิทย์ พานทอง – อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, สุภโชค สารชาติ, ศุภนัฏฐ์ เหมือนตา – ศุภชัย ใจเด็ด
ผลที่คาด ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย 0 – 1 ทีมชาติไทย