วิเคราะห์บอล ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ คู่ที่สอง จะเป็นการโคจรมาเจอกันของสองทีมชื่อดัง ระหว่างยอดทีมแห่งลอนดอน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เตรียมลงสนามปะทะแข้งกับทีมเก่าแก่จากเมืองแมนเชสเตอร์ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยทั้งคู่จะลงสนามพบกันในช่วงดึกของวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม เวลา 00.00 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม ตามเวลาประเทศไทย ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เริ่มจากมุมน้ำเงิน ทีมอันดับที่สามของศึกพรีเมียร์ลีก “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ลูกทีมของกุนซือหนุ่ม แฟร้งค์ แลมพาร์ด ภาพรวมของทีมปีนี้ทำได้ไม่เลวเลยทั้งที่เริ่มจับงานทีมใหญ่เป็นปีแรก แม้จะต้องใช้ขุมกำลังหน้าเดิมๆ เพราะถูกแบนจากตลาดซื้อ-ขาย แต่ปัจจุบันยังเหลือถ้วยแชมป์ให้ลุ้นอีกสองรายการ คือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ เอฟเอ คัพ ที่ผ่านทีมยากๆ อย่างแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษปีนี้อย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล มาได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และเบียดเอาชนะ “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ 1-0 ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเปิดบ้านเฉือนทีมบ๊วยของลีก “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ แบบหวุดหวิด 1-0 สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาดผู้เล่นที่บาดเจ็บอยู่อย่าง บิลลี่ กิลมัวร์ กองกลางดาวรุ่งที่บาดเจ็บเข่า และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางดีกรีแชมป์โลกที่บาดเจ็บอยู่เล็กน้อย แต่มีลุ้นเช็คความฟิตมานั่งเป็นตัวสำรองเปลี่ยนเกมที่ข้างสนามได้ ที่เหลือคนอื่นๆ พร้อมลงสนามช่วยทีมได้หมดทุกคน

ต่อกันที่มุมแดง ทีมอันดับที่ห้าของศึกพรีเมียร์ลีก “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขุนพลของ “เฮียยิ้ม” โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กำลังเล่นได้อย่างมั่นใจตั้งแต่กลับมาเล่นในยุค นิว นอร์มอล ยังไม่ปราชัยให้กับทีมใดเลยถือว่าเป็นช่วงที่ฟอร์มพีคที่สุดของฤดูกาล ปัจจุบันยังเหลือแชมป์ให้ลุ้นปีนี้สองรายการ คือ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก และ เอฟเอ คัพ ที่ผ่านทีมแข็งๆ อย่าง “หมาป่า” วุล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส แต่รอบอื่นๆ ถือว่าดวงดีเจอทีมรองบ่อนทั้งหมด ส่วนรอบก่อนรองชนะเลิศบุกเบียดเอาชนะ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ ในช่วงต่อเวลา 2-1 ด้านการลงสนามนัดล่าสุดบุกคว้าชัยเหนือ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ได้ถึงรัง 2-0 แบบเต็มไปด้วยข้อกังขา สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาด ฟิล โจนส์ และ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ ที่บาดเจ็บอยู่ก่อนหน้านี้ ส่วนในรายของ ลุค ชอว์ และ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ต้องรอลุ้นจนวินาทีสุดท้ายแต่มีลุ้นกลับมาเป็นตัวเลือกได้ทั้งคู่ นอกเหนือจากรายชื่อที่กล่าวมาพร้อมลงสนามช่วยทีมได้หมดทุกคน

วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ด้วยผลงานชนะ 4 นัด และเสมอ 1 นัด ไม่แพ้ให้กับ เชลซี มาแล้ว 6 นัดติดต่อกัน แถมผลงานเฉพาะ แลมพาร์ด คุมทีมปะทะ โซลชา 3 นัด เฮียยิ้มกวาดชัยไปได้ทั้งหมด แต่ถ้าได้ดูรูปเกมจริงๆ แล้วต้องยอมรับตามตรงว่า สิงโตน้ำเงินคราม เป็นฝ่ายบุกกดดันใส่ ปีศาจแดง ทุกเกมที่เจอกัน ซึ่งเป็นเรื่องตลกร้ายของฟุตบอลที่พอโดนแทคติกรับแล้วสวนคมๆ ของ ยูไนเต็ด กลับกลายเป็น สิงไฮโซ ที่แพ้ภัยตัวเองเสียประตูไปก่อนและทวงคืนไม่ได้อย่างน่าเจ็บใจ เกมนี้วัดกันที่คุณภาพของนักเตะล้วนๆ ว่าทีมไหนจะเล่นตามแผนของโค้ชตัวเองได้ดีกว่า เชลซี มีดีที่เกมรุกบุกขึงได้วูบวาบน่ากลัว แต่จำเป็นต้องมี ก็องเต้ ที่คอยปัดกวาดในแผงกลางถึงจะปกปิดจุดอ่อนในแผงแนวรับที่เล่นผิดพลาดบ่อยครั้งถึงจะลงตัว ส่วนทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีเด็ดชั่วโมงนี้อยู่ที่แผงแนวรุก 3M ที่แต่ละคนจบสกอร์ได้เฉียบคมเหลือเกิน แค่รอบอลป้อนสวยๆ จาก บรูโน่ เท่านั้น แต่จุดอ่อนที่เป็นรองนัดนี้ คือ สภาพความฟิตที่ได้พักมาน้อยกว่า แถมนัดล่าสุดยังจัดหนักจัดเต็มกับพาเลซมาซะหนัก จนออกอาการล้าให้เห็นกันชัดๆ อย่างไรก็ตามการตัดสินผู้ชนะของเกมฟุตบอล คือ ทีมที่ยิงประตูได้มากกว่า ซึ่งเป็นจุดบอดที่สำคัญของแนวรุก เชลซี ที่ขาดความเฉียบคมดีแต่ป้อล่อไม่เป็น ดังนั้นเชื่อว่าเกมนี้จะลงเอยแบบเดิมๆ คือ ปีศาจแดง สามารถเฉือนชนะไปได้ด้วยรูปเกมที่เป็นรอง แต่ได้ความสามารถเฉพาะตัวของแนวรุกเอาตัวรอดผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้ในบั้นปลาย

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี (4-3-3) : เคป้า อาร์ริซาบาลาก้า (GK) –  เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เคิร์ต ซูม่า, มาร์กอส อลอนโซ่ – เมสัน เมาท์, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช – วิลเลี่ยน, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, คริสเตียน พูลิซิช

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (GK) – อารอน วาน บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดลอฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – ปอล ป็อกบา, เนมานย่า มาติช – เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล

ผลสกอร์ที่คาด : เชลซี 1 – 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด