บทวิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โปรแกรมนัดที่ 6 ตามตารางการแข่งขัน โดยนัดนี้จะเป็นอีกหนึ่งคู่บิ๊กแมตช์ของฤดูกาล ที่แฟนบอลต่างจดจ้องแบบสุดๆ ซึ่งจะเป็นการวัดฝีเท้ากันระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดโรงละครแห่งความฝัน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี โดยทั้งสองทีมจะลงดวลเกือกกันในช่วงดึกของวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม เวลา 23.30 น. ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
“หากสนใจบทวิเคราะห์คู่อื่นเพิ่มเติม ทุกท่านสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ 168kick.com”
เจ้าถิ่น “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของเทรนเนอร์เก้าอี้เหนียว “เฮียยิ้ม” โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ออกตัวในปีนี้ได้ค่อนข้างกระท่อนกระแท่น ลงสนามไป 4 เกมคว้าไปเพียง 6 แต้ม จากผลงานชนะ 2 นัด และแพ้ 2 นัด แต่การลงเล่นนัดล่าสุดในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดแรกนั้นบุกเฉือนชนะ “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง โคตรทีมแห่งลีกเอิง ฝรั่งเศส แบบหักปากกาเซียน 2-1 สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาด เอริก ไบญี่ เซ็นเตอร์กระดูกแก้วที่เจ็บแฮมสตริง, อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล ดาวยิงหน้าเฉยที่ติดโทษแบน และยังต้องรอเช็คความฟิตของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เซ็นเตอร์ตัวหลักจนถึงวินาทีสุดท้าย นอกเหนือจากนั้นขุมกำลังคนอื่นๆ อยู่กันพร้อมหน้า นำทัพมาโดย บรูโน่ แฟร์นานเดส จอมสังหารจุดโทษ ที่พาทีมเก็บแต้มมาเป็นกอบเป็นกำในช่วงหลัง
ฝั่งผู้มาเยือน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ลูกทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เริ่มต้นฤดูกาลนี้ได้ไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่นัก แม้ว่าจะทุ่มงบเสริมทัพไปแตะหลัก 200 ล้านปอนด์เพื่อเติมขุมกำลังให้พร้อมล่าแชมป์แบบเต็มสูบ แต่ผลงานกลับไม่เปรี้ยงดังที่คาด เก็บไปได้เพียง 8 คะแนน จากผลงานชนะ 2 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ 1 นัด ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนทีมมากจนเกินไป ด้านการลงสนามนัดล่าสุดในถ้วยหูใหญ่นั้นเปิดบ้านเสมอกับ เซบีย่า แบบไร้สกอร์อย่างน่าเสียดาย สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาด บิลลี่ กิลมัวร์ กองกลางดาวรุ่งที่บาดเจ็บเขา และ ชาร์ลี มูซอนด้า จูเนียร์ แนวรุกตัวอะไหล่ที่มีปัญหาที่เข่าเช่นเดียวกันเพียงสองรายเท่านั้น ที่เหลือคนอื่นๆ ฟิตเต็มถึงพร้อมลงเล่นได้ทั้งหมด นำทัพมาโดย เอดูอาร์ด เมนดี้ ผู้รักษาประตูป้ายแดง ที่ได้รับการการันตีในการเป็นมือหนึ่งของทีมอย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าเป็นเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนด้วยผลงานชนะ 3 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 1 นัด อย่างไรก็ตาม ปีศาจแดง ที่กำลังเริ่มเข้าที่เข้าทางนั้นมีการปรับทัพในตำแหน่งกองหลังตัวกลางบ่อยครั้ง จนทำให้เป็นจุดบอดเรื่องการประสานงานและคุมพื้นที่อันเป็นสาเหตุให้เสียประตูแบบงงๆ มาโดยตลอด แถมแนวรุกก็หวังพึ่งความมหัศจรรย์ของ บรูโน่ มากเกินไป หากถูกคู่ต่อสู้จับทางได้ก็คงจบเห่ ที่พอดูดีขึ้นมาอีกอย่าง คือการใช้มิดฟิลด์ตัวรับจอมขยันอย่าง สกอตต์ แมคโทมิเนย์ กับ เฟร็ด ที่คอยปัดกวาดก่อนถึงพื้นที่อันตรายได้อย่างลงตัว ส่วนทางผู้มาเยือน สิงโตน้ำเงินคราม ดูเหมือนว่า บิ๊กแฟร้งค์ จะเริ่มหลงทางเพราะมีสตาร์ในทีมล้นมือจนเกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง ต้องส่งลงแบบเต็มสูบทั้งหมดแม้ว่าเคมีจะเข้ากันไม่ได้ เกมรุกที่เคยน่ากลัวเลยลดทอนประสิทธิภาพลงไป แต่เกมรับต้องบอกว่าน่าโล่งใจ เมื่อผู้รักษาประตูคนใหม่อย่าง เมนดี้ โชว์ผลงานได้คุ้มค่าตัว 3 นัดที่ลงเล่นเสียไปเพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น แต่เกมนี้อาจจะต้องลุ้นหน่อยว่า จะต้องมาเจอกับทีเด็ดจากลูกจุดโทษพิศดารของทางเจ้าบ้านหรือไม่ เมื่อมองแต่ละปัจจัยแล้วเชื่อว่าทั้งสองทีมยังไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเอง ถึงกระนั้นก็คงแลกหมัดกันได้อย่างเมามันจนยากจะหาผู้ชนะ ดังนั้นการแชร์แต้มกันไปคงเป็นคะแนนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสองฝ่าย
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (GK) – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – สกอตต์ แมคโทมิเนย์, เฟร็ด – แดเนียล เจมส์, บรูโน่ แฟร์นานเดส, อเล็กซ์ เตลเลส – มาร์คัส แรชฟอร์ด
เชลซี (4-2-3-1) : เอดูอาร์ด เมนดี้ (GK) – รีซ เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา, เคิร์ต ซูม่า, เบน ชิลเวลล์ – เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่ – คริสเตียน พูลิซิซ, ไค ฮาเวิร์ตซ์, เมสัน เมาท์ – ติโม แวร์เนอร์
ผลสกอร์ที่คาด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 1 เชลซี