บทวิเคราะห์ฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก นัดสุดท้ายของลีกเอ กลุ่มที่สอง เป็นการโคจรมาเจอกันอีกครั้งระหว่าง “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เตรียมเปิดรังเหย้าต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติไอซ์แลนด์ โดยทั้งสองทีมจะลงสนามปะทะแข้งกันในช่วงดึกของคืนวันพุธที่ 18 พฤศจิกายน เวลา 02.45 น. หรือเข้าสู่เช้าวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน ตามเวลาประเทศไทย ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
“หากสนใจบทวิเคราะห์คู่อื่นเพิ่มเติม ทุกท่านสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ 168kick.com”
“สิงโตคำราม” อังกฤษ เจ้าถิ่น ภานใต้การนำทัพของกุซือ แกเร็ธ เซาท์เกต ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในรายการนี้ หลังผ่านการแข่งขันมา 5 เกม พวกเขาหมดโอกาสที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปแน่นอนแล้ว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทัพสิงโตคำรามบุกไปพ่ายให้กับ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยี่ยม 1-2 ทำให้ผลงานรวมทั้งหมดที่ลงสนามไปเก็บมาได้เพียง 7 คะแนนจากการคว้าชัยได้ 2 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้อีก 2 เกม อย่างไรก็ตามการลงสนามในรายการนี้ก็ยังมีข้ออยู่บ้าง เมื่อ แกเร็ธ เซาท์เกต ได้มีโอกาสเรียกบรรดาแข้งอายุน้อยอนาคตไกลของชาติมาทดลองใช้งานแทบทั้งหมด ส่วนในด้านความพร้อมของทีม ณ เวลานี้ จะได้ตัว แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปราการหลังคนสำคัญกลับมาลงสนามช่วยทีมได้อีกครั้ง หลังจากชดใช้โทษแบนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในเกมนี้จะหมดสิทธิใช้งาน โจ โกเมซ ที่บาดเจ็บจากการซ้อมในแคมป์ทีมชาติ รวมถึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ เบน ชิลเวลล์ ที่มีอาการบาดเจ็บติดตัวมาจากเกมนัดที่ผ่านมา ส่วนบรรดาแข้งคนอื่นที่โดนเรียกตัวมาที่เหลือยังพร้อมลงสนามช่วยทีมกันได้ทุกคน
ฝ่ายผู้มาเยือน ไอซ์แลนด์ ภายใต้การนำทัพของเทรนเนอร์คนใหม่ป้ายแดง อาร์นาร์ วิดาร์สสัน ได้มีโอกาสคุมทัพไปครั้งแรกเมื่อเกมที่ผ่านมาล่าสุด ซึ่งเป็นการประเดิมที่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นักเมื่อพาทีมบุกไปพ่ายให้กับ “โคนม” ทีมชาติเดนมาร์ก 1-2 ทำให้ตลอด 5 เกมที่ผ่านมาในรายการนี้พวกเขายังไม่มีเลยแม้แต่คะแนนเดียวเพราะแพ้รวดทั้งหมด โดยบรรดาแข้งทั้งหมดที่โดนเรียกมาติดทีมชาติชุดนี้เป็นนักเตะที่กระจายกันค้าแข้งอยู่ทั่วยุโรป ด้านสภาพความพร้อมล่าสุดของบรรดาผู้เล่นภายในทีมนั้นทุกคนไม่มีปัญหาแต่อย่างใด นำทีมมาโดย กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับสโมสร เอฟเวอร์ตัน
วิเคราะห์ก่อนเกม ผลการแข่งขันของคู่นี้ไม่ได้ส่งผลอะไรกับอันดับบนตารางคะแนนของกลุ่มแล้ว จึงมองว่าในเกมนี้ทางกุนซือ แกเร็ธ เซาท์เกต จะเลือกใช้งานบรรดาแข้งหน้าใหม่ที่ไม่ค่อยได้ลงสนาม มีโอกาสได้โชว์ฝีเท้ากันบ้าง สำหรับผลงานทีมชาติอังกฤษในรายการนี้มีปัญหาอย่างมากในเรื่องเกมรุก แม้จะมีบรรดาแข้งตัวรุกชื่อคุ้นหูจากเวทีพรีเมียร์ลีกอยู่มากมายก็ตาม แต่จากสถิติ 3 ประตูจาก 5 นัดที่ลงสนาม ถือว่าน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ยิ่งหากตัดประตูออกจากจุดโทษออกไป จะเห็นว่าพวกเขาทำได้เพียงแค่ประตูเดียว เกมนี้จะต้องลงดวลแข้งกับทีมบ๊วยของกลุ่มที่เกมรับเละเทะ โดนกระหน่ำไปถึง 13 ประตูจากการลงสนาม 5 เกมที่ผ่านมา ด้วยศักยภาพของผู้เล่นภายในทีมทางเจ้าบ้านก็ดูดีกว่าแบบชัดเจน ด้านรูปเกมนัดนี้ด้วยการมาของกุนซือคนใหม่ของทีมชาติไอซ์แลนด์ ดูจะเล่นกันแบบรัดกุมขึ้น การที่ต้องบุกมาเยือนถิ่น เวมบลีย์ เชื่อว่าพวกเขาจะเล่นแบบเจียมเนื้อเจียมตัว แต่สุดท้ายด้วยคุณภาพของผู้เล่นที่เหนือกว่าโอกาสที่ทางเจ้าถิ่นจะคว้าชัยได้มีมากกว่าค่อนข้างเยอะ บทสรุปของเกมจึงเชื่อว่าทัพสิงโตคำราม จะคว้า 3 คะแนนได้เป็นการส่งท้าย แต่อาจจะยิงไม่ขาดมากนักเนื่องจากเกมนี้มีโอกาสสูงที่เจ้าบ้านจะใช้ผู้เล่นชุดรองลงสนาม
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติอังกฤษ (4-2-3-1) : นิค โป๊ป (GK) – ไคล์ วอล์คเกอร์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ไทโรน มิงส์ , บูกาโย่ ซาก้า – เดแคลน ไรซ์, แฮร์รี่ วิงค์ส – จาดอน ซานโช่, เมสัน เมาท์, แจ็ค เกรียลิช – โดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน
ทีมชาติไอซ์แลนด์ (4-4-2) : ฮานเนส ฮัลล์ดอร์สสัน (GK) – ฮอร์เตอร์ แฮร์มันน์สัน, คารี อาร์นาสัน, สเวเรียร์ อิงกาสัน, ฮอเรอร์ แม็กนุสสัน – ยอน ดาเกอร์ พอร์สสเตนสัน, เบียร์เคียร์ บียาร์นาสัน, วิคเตอร์ พอลส์สัน, อาร์เนอร์ อิงวี เทราสตาสัน – อัลเบิร์ต กุ๊ดมุนด์สสัน, ยอน ดาดี้ บูร์วาร์สสัน
ผลสกอร์ที่คาด : ทีมชาติอังกฤษ 2 – 1 ทีมชาติไอซ์แลนด์