หนึ่งในสิ่งที่ยอดเยี่ยมของวงการฟุตบอลตลอดปี 2020 ที่ผ่านมาคือ การแจ้งเกิดของบรรดาผู้เล่นอายุน้อยมากพรสวรรค์หลายต่อหลายคนจากทั่วทุกมุมโลกที่พัฒนาตัวเองจนกลายมาเป็นตัวหลักของต้นสังกัด อาทิ อันซู ฟาติ ของ บาร์เซโลน่า, เมสัน กรีนวู้ด จาก แมนแชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อัลฟองโซ่ เดวี่ส์ จาก บาเยิร์น มิวนิค, เออร์ลิง ฮาแลนด์ และ โจวานนี่ เรย์น่า ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นต้น
ในปี 2021 ก็เช่นเดียวกัน มีดาวรุ่งฝีเท้าดีมากมายที่ฉายแววให้หลายคนเห็นว่า จะก้าวขึ้นมาเป็นอนาคตของสโมสรตัวเอง ซึ่งแข้งวันเดอร์คิดทั้ง 8 รายถูกคาดหมายว่า พร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นมาเขย่าวงการลูกหนังในปีนี้
1. ฟิล โฟเด้น (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
แฟนบอลหลายคนรู้จัก โฟเด้น มานานแล้ว หลังจากเจ้าตัวได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2017 ด้วยวัยเพียง 17 ปี เท่านั้น ภายหลังได้รับโอกาสจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดเทรนเนอร์ชาวสเปนของ “เรือใบสีฟ้า”
ในฤดูกาลนี้ มิดฟิลด์วัย 20 ปี กลายเป็นสมาชิกในทีมชุดแรกของ แมนฯ ซิตี้ อย่างเต็มตัว หลังจาก ดาบิด ซิลบา จอมทัพมากประสบการณ์ชาวสเปน ย้ายกลับไปเล่นกับ เรอัล โซเซียดาด ในบ้านเกิด และ โฟเด้น ก็คว้าโอกาสทองของเขาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
ขณะเดียวกัน โฟเด้น ก็ถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษเรียกตัวไปติดทีมชุดใหญ่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทำผลงานสุดยอดด้วยการซัดไป 2 ประตู จาก 3 เกมที่ลงสนาม และหากไม่มีอะไรผิดพลาด ดาวรุ่ง “เรือใบสีฟ้า” จะมีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพลทัพ “สิงโตคำราม” ชุดลุยศึกยูโร 2020 แน่นอน
2. บูกาโย ซาก้า (อาร์เซน่อล)
ปีกวัย 19 ปี เป็นเด็กลูกหม้อขนานแท้ของ อาร์เซน่อล และเติบโตมาจากอคาเดมี่ของสโมสรก่อนจะได้รับโอกาสจาก มิเกล อาร์เตต้า โค้ชชาวสเปนให้เข้าสู่การเป็นสมาชิกทีมชุดใหญ่ “เดอะ กันเนอร์ส” ในปีนี้ ซึ่ง ซาก้า ก็ไม่ทำให้เจ้านายผิดหวังหลังโชว์ผลงานได้โดดเด่นเกินวัย
ซาก้า เป็นตัวรุกสมัยใหม่ที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนหน้า และยังสามารถขยับลงมาเป็นฟูลแบ็คได้อีกด้วย นอกจากนี้ เขายังมีเทคนิคดี รวดเร็ว แข็งแกร่ง อ่านเกมได้เด็ดขาด และเป็นผู้เล่นที่ชาญฉลาด จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะปรับตัวเข้ากับรุ่นพี่ในทีมได้อย่างรวดเร็ว
ในทีม อาร์เซน่อล ฤดูกาลนี้มีเพียง แบรด์ เลโน่, คีแรน เทียร์นี่ย์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง เท่านั้น ที่ได้ลงสนามมากกว่า ซาก้า ซึ่งจากจำนวนเกมดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า อาร์เตต้า เชื่อมั่นในดาวรุ่งรายนี้เพียงใด
3. เปโดร เนโต้ (วูล์ฟแฮมป์ตัน)
ผู้เล่นอายุน้อยหลายคนไม่กล้าเปรียบเทียบตัวเองกับนักเตะที่ดีที่สุดในโลก แต่สำหรับ เนโต้ เขาทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม ตัวรุกวัย 20 ปี กล่าวหลังย้ายจาก ลาซิโอ มาเล่นกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน เมื่อปี 2019 ว่า “ถ้าผมทำงานให้ดี ผมก็เป็นนักเตะที่ดีที่สุดได้ แต่ตอนนี้ผมยังไม่ถึงจุดนั้น ผมคิดว่า ตัวเองเป็นนักตะที่ดีที่สุดในโลกได้ถ้าทำงานหนักทุกๆวัน และผมคิดว่า ผมทำได้ที่สโมสรแห่งนี้”
เนโต้ มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รุ่นพี่ทีมชาติโปรตุเกส เป็นไอดอล และเขาตั้งความหวังว่า จะทำลายสถิติหลายๆอย่างของ โรนัลโด้ ให้ได้ ซึ่งสถิติอย่างหนึ่งที่เขาทำลายได้สำเร็จคือ เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดแดนฝอยทองที่ทำประตูได้หลังซัดให้กับ บราก้า อดีตทีมเก่าด้วยวัย 17 ปี 67
หลังย้ายมาเล่นกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน เนโต้ ก็พัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด และกลายเป็นสมาชิกคนสำคัญในแนวรุกของทีมทันที นอกจากนี้ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต กุนซือ “หมาป่า” ค่อยๆช่วยขัดเกลาฝีเท้า และพัฒนาการเล่นของเขาได้เป็นอย่างดี
เนโต้ เป็นผู้เล่นมากพรสวรรค์ที่ชอบเลี้ยงบอลจี้ใส่แนวรับคู่แข่งเพื่อสร้างโอกาสทำประตู เขาไม่เกรงกลัวในการเผชิญหน้ากับกองหลังที่เข้าปะทะนักหน่วง โดยปีกชาวโปรตุกีส ลงเล่นให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปแล้วเกิน 70 เกม ซัดไป 9 ประตู
4. เวสลีย์ โฟฟาน่า (เลสเตอร์ ซิตี้)
โฟฟาน่า ถือเป็นหนึ่งในการซื้อตัวที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ หลัง เลสเตอร์ ทุ่มเงิน 31.5 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาจาก แซงต์ เอเตียน ในศึกลีกเอิง เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
กองหลังชาวฝรั่งเศส เล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรกอย่างมั่นใจ เขาเหมือนนักเตะที่เล่นในอังกฤษมานานแล้ว และแทบไม่ต้องปรับตัวใดๆเลย ซึ่งจากฟอร์มที่แข็งแกร่งทำให้ โฟฟาน่า ยึดตัวจริงในแนวรับของ เลสเตอร์ ไปเรียบร้อยแล้ว
แบรนแดน ร็อดเจอร์ ผู้จัดการทีม เลสเตอร์ กล่าวถึง โฟฟาน่า ว่า “ เมื่อเราเห็นเขาครั้งแรก คุณสามารถบอกได้ภายตั้งแต่นาทีแรกเลยว่า เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ คุณเห็นศักยภาพของเขาได้ทันที และสิ่งที่เขาต้องการคือ เวทีในการแสดงมันออกมา สำหรับเราเขาเป็นนักเตะคนสำคัญ
“เขาเพิ่งอายุ 20 ปีเท่านั้น แต่ก็มีคุณสมบัติครบทุกอย่างในฐานะกองหลัง เขายังคงเรียนรู้เกี่ยวกับความเข้มข้นของพรีเมียร์ลีก เขาเป็นกองหลังที่ดุดัน แข็งแกร่ง โดดเด่นลูกกลางอากาศ และรวดเร็วมาก”
5. โดมินิก โซบอสซ์ไล (แอร์เบ ไลป์ซิก)
โซบอสซ์ไล ย้ายจาก เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก มาเล่นให้กับทีมในเครือเดียวกันอย่าง ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 24 ล้านยูโร เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมกับได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของวงการลูกหนังฮังการีในยุคปัจจุบัน
โซบอสซ์ไล เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่ดุดัน และพร้อมจะพาบอลตะลุยไปข้างหน้าอยู่เสมอเมื่อมีโอกาส นอกจากนี้ เขายังสามารถเล่นได้ทั้งบทบาทจอมทัพหมายเลข 10, กองกลางหมายเลข 8 และตัวริมเส้นฝั่งซ้ายแถยังมีทีเด็ดจากการยิงฟรีคิกอีกด้วย
ตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมากับ ซัลซ์บวร์ก โซบอสซ์ไล ระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการทำแอสซิสต์ไปถึง 17 ครั้ง จาก 39 เกมในลีก และช่วงครึ่งฤดูกาลที่เหลือกับ ไลป์ซิก ก็น่าจับตาดูอย่างยิ่งว่า ดาวเตะวัย 20 ปี จะโชว์ฟอร์มได้ดีเพียงใด
6. ไรอัน กราเฟนเบิร์ช (อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม)
อาแจกซ์ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสโมสรจอมปั้นที่ผลิตนักเตะฝีเท้าดีเข้าสู่วงการฟุตบอลมามาย และ กราเฟนเบิร์ช เป็นอีกชื่อหนึ่งที่ควรจับตามอง โดยดาวเตะวัย 18 ปี เล่นได้โดดเด่นเกินวัย เขาเป็นกองกลางที่เต็มไปด้วยเทคนิค แข็งแกร่ง ฉลาด และผ่านบอลสั้น-ยาวได้อย่างแม่นยำ
ในฤดูกาลนี้ กราเฟนเบิร์ช ลงเล่นให้กับ อาแจกซ์ รวมทุกรายการไปแล้วถึง 15 เกม และพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแดนกลางของทีมอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ มิดฟิลด์ชาวดัตช์ ยังซัดประตูมหัศจรรย์ใส่ มิดทิลแลนด์ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มมาแล้ว
7. เปโดร “เปดรี” กอนซาเลซ โลเป (บาร์เซโลน่า)
เปดรี เพิ่งอายุ 18 ปี ซึ่งตามกฎหมายของประเทศสเปนแล้ว เขายังไม่สามารถทำงานในบาร์ หรือทำใบขับขี่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ เจ้าตัวกำลังเป็นมิดฟิลด์คนสำคัญของ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา
หลังหมดยุค ชาบี เอร์นานเดซ แล อันเดรส อิเนียสต้า บาร์เซโลน่า แทบไม่มีกองกลางสไตล์นี้อีกเลยจนกระทั่ง เปดรี ได้ลงสนามแล้วแสดงให้เห็นถึงสัมผัสบอลแรกที่นุ่มนวล, วิสัยทัศน์ การผ่านบอลที่แม่นยำ และความเข้าใจเกม รวมถึงการเคลื่อนที่ในตำแหน่งกองกลางหมายเลข 6,8, และ 10 ได้อย่างลงตัว
8. ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสโมสรในศึกบุนเดสลีกา กลายเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตดาวรุ่งฝีเท้าดีเข้าสู่วงการฟุตบอลมากมาย โดยนักเตะมากพรสวรรค์อย่าง จาดอน ซานโช่, เออร์ลิง ฮาแลนด์, โจวานนี่ เรย์น่า และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ไป เชลซี ต่างเล่นอยู่ในเยอรมันทั้งสิ้น
ในฤดูกาลนี้ เวิร์ตซ์ ก็เป็นนักเตะอายุน้อยอีกคนที่น่าสนใจหลังแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ของ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยวัยเพียง 17 ปี และทำสถิติสุดเหลือเชื่อด้วยการซัดไป 6 ประตู กับ 6 แอสซิสต์ จาก 23 เกมรวมทุกรายการจากตำแหน่งมิดฟิลด์
เวิร์ตซ์ มีความเป็นเลือดนักสู้อยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยมเกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน และมีความฝันว่า จะไปเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า ในอนาคต นอกจากนี้ เขายังเป็นนักเตะที่กระหายชัยชนะทุกเกมที่ลงสนาม และเกลียดความพ่ายแพ้มากที่สุด