ไซโด เบราฮิโน่ อดีตยอดดาวรุ่งผู้ถูกลืม

ไซโด เบราฮิโน่ อดีตกองหน้าดาวรุ่งอนาคตไกลของ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน สโมสรแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อธิบายถึงเรื่องราวสมัยที่เขากำลังโด่งดัง และเกือบได้ย้ายไปเล่นกับทีมชั้นนำอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เมื่อปี 2015 แต่สุดท้ายการยังทีมไม่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เส้นทางอาชีพของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2014-2015 เบราฮิโน่ วัย 21 ปี โชว์ฟอร์มให้กับ เวสต์บรอมวิช ได้อย่างสุดยอดด้วยการระเบิดสกอร์ไปถึง 20 ประตู จาก 45 เกมรวมทุกรายการ โดยหลังจบซีซั่น สเปอร์ส ก็รีบยื่นข้อเสนอจำนวน 22 ล้านปอนด์ให้กับ “เดอะ แบ็กกี้ส์” เพื่อคว้าตัวเขาไปล่าตาข่าย 

อาชีพนักฟุตบอลของ เบราฮิโน่ กำลังจะก้าวเข้าสู่เส้นทางที่ดี อย่างไรก็ตาม เจเรมี พีซ ประธานสโมสร เวสต์บรอมวิช กลับตอบปฏิเสธข้อเสนอ สเปอร์ส ในนาทีสุดท้าย และ เบราฮิโน่ ก็ต้องจำใจเล่นในถิ่นเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ต่อไป

Photo : skysports.com

อดีตหัวหอกทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี เริ่มเล่าว่า “ในฤดูกาลนั้น ผมยิงได้ 20 ประตูในทุกรายการ และได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรด้วย หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคมปี 2015 ท็อตแน่ม ก็ยื่นข้อเสนอเข้ามา”

“แต่ผมกลับถูกหลายคนวิจารณ์หลังจากผมให้สัมภาษณ์ว่า อยากจะก้าวไปสู่เส้นทางที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ ในอนาคต แต่แน่นอน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสายอาชีพไหน ถ้ามีใครยื่นข้อเสนอที่ดีเข้ามา คุณก็ต้องการรับมันไว้เช่นเดียวกัน”

“ผมต้องการพัฒนาตัวเอง และได้เล่นร่วมกับผู้เล่นระดับคุณภาพ รวมถึงอยู่ในทีมที่มีโอกาสไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ผมไม่เคารพ เวสต์บรอมวิช ผมรู้สึกผิดหวังที่หลายคนตีความว่า ผมไม่อยากเล่นให้ เวสต์บรอมวิช อีกแล้ว แต่นักฟุตบอลส่วนใหญ่จะเข้าใจสถานการณ์ของผมดี”

แฟนบอล เวสต์บรอมวิช หลายคนอาจไม่เข้าใจถึงความผิดหวังของ เบราฮิโน่ ที่ไม่สามารถก้าวไปสู่ความใฝ่ฝันที่ต้องการได้ แต่สำหรับเจ้าตัวแล้วมันอาจเป็นเพียงโอกาสเดียวที่จะทำให้ความปรารถนาของตัวเองเป็นจริง

Photo : teamtalk.com

อดีตหัวหอก “เดอะ แบ็กกี้ส์” กล่าวว่า “สเปอร์ส ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และผู้เล่นที่พวกเขามีในทีมนั้น มันเป็นจุดเริ่มต้นของ สเปอร์ส ยุคใหม่ และการได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดนั้นคงจะยอดเยี่ยมมาก

“มันจะนำผมไปสู่อีกระดับหนึ่ง แต่ เวสต์บรอมวิช ยังคงปฏิเสธข้อเสนอของ สเปอร์ส หลังจากนั้น เมื่อเอเย่นต์ของผมบอกผมว่า การย้ายสโมสรล้มเหลว ผมเสียใจมาก และผมโกรธคนๆหนึ่งมากก็คือ เจเรมี พีซ ประธานสโมสร”

“ตอนที่คุณยังเด็ก คุณไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจ และวิธีการทำงานของสโมสรหรอก ผมไม่เข้าใจอะไรเลย ผมคิดถึงแต่เรื่องส่วนตัว ผมเล่นทวิตเตอร์และโพสต์ข้อความว่า ผมไม่อยากเล่นให้ทีมที่มี พีซ เป็นประธานอีกแล้ว ทันใดนั้นข้อความของผมก็ถูกแชร์ออกไปทั่ว”

“แม่ของผมเข้ามาในห้องและพูดว่า ลูกกำลังทำอะไรอยู่ ออกไปแก้ไขปัญหาเดี๋ยวนี้! ตอนนั้นมันเหมือนว่า คุณไม่สามารถจัดการกับตัวเองได้เลย แม่ผมโมโหมาก และผมไม่เคยออกมาขอโทษต่อสาธารณะสำหรับพฤติกรรมของตัวเองที่มีต่อ เจเรมี พีซ เลย แต่ตอนนี้ผมขอโทษเขากับสิ่งที่เกิดขึ้น”

“หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ผม กับ พีซ แทบไม่ได้คุยกันอีกเลย แต่เรายังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เขาเสนอสัญญาฉบับใหม่ให้ผมที่ เวสต์บรอมวิช และดูแลครอบครัวผมเป็นอย่างดี เขาเปลี่ยนความคิด และชีวิตของผมไปมากทีเดียว”

Photo : talksport.com

แม้จะได้รับสัญญาฉบับใหม่จาก เวสต์บรอมวิช แต่ เบราฮิโน่ ก็ยังถูกแฟนบอล และสื่อมวลชนตำหนิถึงพฤติกรรม ซึ่งทำให้เขาฟอร์มตกลงไปอย่างน่าใจหาย และในปี 2017 เจ้าตัวก็ถูกปล่อยให้กับ สโต๊ค ซิตี้ ในราคาเพียง 12 ล้านปอนด์

เบราฮิโน่ ค้าแข้งกับ สโต๊ค 3 ปี ก่อนจะถูกปล่อยให้กับ ซูลเต้ วาเรเกม ในลีกเบลเยียม เมื่อปี 2019จากนั้น อดีตดาวยิงเวสต์บรอมวิช ก็ย้ายไปเล่นดว้ยสัญญายืมตัวกับ ชาเลอร์รัว เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาจนถึง ณ เวลานี้

ศูนย์หน้าวัย 27 ปี ซึ่งเลือกเล่นให้กับทีมชาติบุรุนดี แม้จะเคยติดทีมชาติอังกฤษชุดเยาวชนมาก่อนหน้านี้ก็ตาม กล่าวต่อว่า “ผมรู้สึกว่า สเปอร์ส สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้เพื่อให้ดีลประสบความสำเร็จ ผมไม่รู้ว่า พวกเขาเลือกระหว่างตัวผมกับ ซอน เฮือง มิน หรือว่าวางแผนที่จะเซ็นสัญญากับเราทั้งคู่”

“ผมไม่ได้คุยกับใครเลยที่ สเปอร์ส ผมไม่เหมือนเดิมจริงๆหลังจากนั้น ผมโต้เถียงกับแฟนบอลมากมายในโซเชี่ยลมีเดีย ผมไม่สนุกกับการเล่นฟุตบอลอีกแล้ว บางครั้งผมรู้สึกโดดเดี่ยวมาก และจิตใจของผมก็แทบไม่มั่นคงเลย”

Photo : goal.com

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ เบราฮิโน่ กลับมามีสมาธิเหมือนเดิม และอยากขอโอกาสแก้ตัวกับแฟนบอล เวสต์บรอมวิช โดยระบุว่า “ผมอยากกลับไปเล่นในอังกฤษ ตอนนี้ผมอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญ ผมมีจุดที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง”

“ผมไม่ใช่คนอย่างที่ใคร ๆ คิดว่า ผมเป็นมาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ผมคิดว่า มันยากที่ผมจะได้กลับไปเล่นให้ เวสต์บรอมวิช เพราะพวกเขาอยู่ในพรีเมียร์ลีกแล้ว แต่ผมฝันจะกลับไปที่ เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ซึ่งเป็นที่ที่ทำให้ผมก้าวมาเป็นนักฟุตบอล และแฟนๆเคยตะโกนเชียร์ผม แต่ผมทำให้พวกเขาต้องผิดหวัง”

“ตอนนี้ผมฉลาดขึ้นแล้ว ผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในทวิตเตอร์ของผมจะมีคำพูดที่ว่า คนๆหนึ่งจะได้ประโยชน์อะไรถ้าเขาได้ทุดสิ่งทั้งโลกแต่สูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป ผมกำลังศึกษาพระคัมภีร์ และหวังว่าสักวันจะได้กลับบ้าน” อดีตดาวรุ่ง เวสต์บรอมวิช กล่าวทิ้งท้าย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top