Home บทความฟุตบอล เจสซี่ ลินการ์ด มหาเทพแห่งทัพ “ขุนค้อน”

เจสซี่ ลินการ์ด มหาเทพแห่งทัพ “ขุนค้อน”

0
เจสซี่ ลินการ์ด มหาเทพแห่งทัพ “ขุนค้อน”

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พาตัวเองเข้าไปอยู่ในตำแหน่งท็อปโฟร์เรียบร้อยแล้วหลังโชว์ฟอร์มสุดยอดบุกไปเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่สนามโมลินิวซ์ สเตเดี้ยม 3-2 เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา

นับตั้งแต่ปี 1986 เป็นต้นมา เวสต์แฮม ไม่เคยจบฤดูกาลใน 4 อันดับแรกเลย แต่ในเวลานี้พลพรรค “ขุนค้อน” ภายใต้การนำของ เดวิด มอยส์ กุนซือชาวสก็อตแลนด์ มีโอกาสดีที่จะทำสำเร็จหลังจากเก็บไปแล้ว 51 คะแนนจาก 30 เกม โดยเหลือการแข่งขันอีกเพียง 8 นัดเท่านั้น

ขณะเดียวกัน การเข้ามาของ เจสซี่ ลินการ์ด ตัวรุกชาวอังกฤษที่ยืมมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็สร้างผลกระทบในเชิงบวกให้กับ เวสต์แฮม เป็นอย่างมาก และในเกมลีกนัดล่าสุดกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ดาวเตะวัย 28 ปี ก็ระเบิดฟอร์มด้วยการซัดไป 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์

Photo : skysports.com

หลังจากไม่มีโอกาสลงสนามให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากนักในระยะหลัง ลินการ์ด เหมือนค้นพบฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองอีกครั้ง และหากเจ้าตัวรักษาฟอร์มที่ดีอย่างต่อเนื่องหลายคนมองว่า เขามีโอกาสจะติดทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020

ลินการ์ด ซัดไปแล้วถึง 6 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 8 เกมในลีกให้กับ เวสต์แฮม และหากนับจากเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมาไม่มีผู้เล่นในพรีเมียร์ลีกคนใดมีส่วนร่วมกับการทำประตูมากเท่ากับเจ้าตัวอีกแล้ว

ปีกชาวอังกฤษใช้เวลาเพียง 6 นาทีในการทำประตูให้ เวสต์แฮม ขึ้นนำ วูล์ฟแฮมป์ตัน โดยลากบอลจากครึ่งสนามเข้าไปซัดด้วยเท้าซ้าย ส่วนประตูที่ 2 เขาเป็นจุดเริ่มต้นด้วยการใช้เทคนิคกระดกบอลหลบกองหลังเจ้าบ้านก่อนที่ ปาโบล ฟอร์นัลส์ จะซัดเข้าไป จากนั้น ประตูที่ 3 เจ้าตัวเป็นคนลากบอลหนีแนวรับ “หมาป่า” ก่อนแอสซิสต์ให้ จาร์ร็อด โบเว่น ยิงปิดท้าย

Photo : skysports.com

ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของ ลินการ์ด ไม่มีใครกล้าปฏิเสธแน่นอน และแม้แต่ โรเมลู ลูกากู อดีตหัวหอกเพื่อนร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันย้ายไปเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก็ยังแสดงความชื่นชมผ่านทางทวิตเตอร์

ลูกากู รู้ดีว่า การเริ่มต้นใหม่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมหลังจากที่เขาย้ายมายัง อินเตอร์ และทำผลงานได้อย่างสุดยอดด้วยการซัดให้ “งูใหญ่” ไปแล้วถึง 60 ประตู จาก 86 เกม ทำสถิติแซงหน้า โรนัลโด้ ตำนานดาวยิงทีมชาติบราซิลไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้กองหน้าทีมชาติเบลเยียมยังพาทีมลุ้นแชมป์ลีกอย่างเต็มตัวอีกด้วย

เช่นเดียวกันกับการที่ ลินการ์ด ย้ายมาเล่นกับ เวสต์แฮม ซึ่งพิสูจน์ให้หลายคนเห็นว่า บางทีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางอาชีพก็เป็นสิ่งที่ดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ โอเล่ กุนาร์ โซลชา กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด

Photo : skysports.com

ลินการ์ด ตระหนักดีว่า ต้องตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง และพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของเขา ซึ่งการย้ายมาร่วมงานกับ มอยส์ ที่คุ้นเคยกันดีตั้งแต่สมัยอยู่ด้วยกันที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นแรงจูงใจสำคัญ รวมถึงการติดทัพ “สิงโตคำราม” ไปลุยศึกยูโร 2020 ด้วย

เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่ง เวสต์แฮม กล่าวว่า “ผมยังคงฝึกซ้อมอย่างหนักตราบเท่าที่ผมสามารถทำได้ หากผมมุ่งมั่น และรักษาฟอร์มการเล่นให้สม่ำเสมอไว้ได้จนจบฤดูกาลหวังว่า ผมจะได้ไปเล่นในศึกยูโรกับทีมชาติอังกฤษ”

“ตอนนี้ผมแค่เป็นตัวของตัวเอง พวกคุณก็รู้ว่า ผมเป็นคนผ่อนคลาย สนุกสนาน และมีรอยยิ้มบนใบหน้าของผมอยู่เสมอ แต่เมื่อพูดถึงฟุตบอล ผมเป็นคนที่ทุ่มเทเกิน 100% ผมทำงานหนักเพื่อทีมของผมทั้งในการฝึกซ้อม และในการแข่งขัน”

Photo : skysports.com

ไม่ว่า ลินการ์ด จะมีรายชื่อเป็น 23 คนสุดท้ายที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษเลือกไปลุยศึกยูโร 2020 หรือไม่ แต่ตอนนี้ ในวัย 28 ปี เขาเป็นนักฟุตบอลที่กำลังมีความสุข และกลับมาอยู่ในสนามด้วยรอยยิ้มอีกครั้งในสีเสื้อ เวสต์แฮม

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้