การย้ายสังกัดย่อมเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติของโลกฟุตบอลที่นับวันยิ่งใกล้เคียงกับการเป็นวงการธุรกิจแบบเต็มตัว แต่ใครจะรู้เลยว่าภายใต้ดีลต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรซ่อนอยู่หรือไม่? น้อยคนนักที่จะทราบได้…นักเตะหลายคนจากกับสโมสรเก่าด้วยดี แต่ก็มีหลายรายที่จากกับทีมแบบสร้างรอยแผลลึกๆ เอาไว้ ซึ่งนักเตะที่ย้ายสังกัดส่วนใหญ่เวลาที่โคจรมาเจอกับทีมเก่าแล้วยิงประตูได้ มักจะให้เกียรติโดยนัยด้วยการไม่แสดงอาการดีใจหรือฉลองประตูหลังยิงได้…อย่างไรก็ตามวันนี้ทางทีมงาน 168Kick จะนำเสนอชื่อ 10 ดาวยิงที่ฉลองแบบเต็มเหนี่ยวหลังซัดประตูทีมเก่าได้แบบไม่ไว้หน้า
อันดับที่ 1 เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยิงใส่ อาร์เซน่อล ภายใต้สีเสื้อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เหตุการ์นี้เกิดขึ้นในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม สกอร์ในตอนนั้นเจ้าบ้าน เรือใบสีฟ้า นำทีมเยือน ปืนใหญ่ อยู่ 2-1 จนมาถึงนาทีที่ 80 เป็นกองหน้าทีมชาติโตโก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ที่เทคตัวโขกลูกเปิดจากกราบขวาโดย ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ เข้าไป หลังจากนั้นก็วิ่งราว 100 หลาไปสไลด์เข่าคู่ใส่กองเชียร์ อาร์เซน่อล และเกมดังกล่าวจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน 4-2 ซึ่งภายหลัง อเดบายอร์ ได้ออกมาเปิดเผยสาเหตุที่ทำเช่นนั้นกับสื่อในอังกฤษภายหลังว่า “เป็นอารมณ์ร่วมกับเกม” โดยที่เขาตัดสินใจทำเช่นนั้นเนื่องจากต้องการตอบโต้แฟนบอลของทีม ปืนโต ที่ตะโกนเหยียดผิว และ พูดจาเหยียดหยามว่า “แม่ของเขาเป็น กะหรี่ และ พ่อของเขาเป็น คนอาบน้ำช้าง” ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริงเอาเสียเลย และ เขายอมรับกับคำพูดเหล่านั้นไม่ได้…แล้วไม่มีทางเลยที่จะเถียงสู้กับคนเป็นพันคน ดังนั้นเมื่อเขายิงประตูได้นั่นคือการตอบโต้ในแบบของเขา…นอกจากนี้ อเดบายอร์ ยืนยันว่า เขาไม่ได้ต้องการย้ายออกจาก อาร์เซน่อล แต่เป็นผู้จัดการทีมในตอนนั้นอย่าง อาร์เซน เวนเกอร์ ที่ต้องการขายเขาออกไป และถ้าเขาไม่ยอมย้ายก็จะไม่มีวันได้ลงเล่นให้กับทีม
อันดับที่ 2 คาร์ลอส เตเบซ ยิงใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้สีเสื้อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเกม ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศนัดแรก ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ปี 2010 เจ้าบ้านตกเป็นฝ่ายตามหลังทีมเยือนไปก่อน 0-1 แต่แล้ว เตเบซ ก็มาเป็นฮีโร่เหมาสองประตูจากจุดโทษ และ ลูกโหม่ง ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกกลับมาชนะ 2-1 โดยกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ทำการฉลองอย่างสุดเหวี่ยงทั้งสองประตูแบบไม่มียั้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้ เตเบซ เคยอยู่กับ ปีศาจแดง เป็นเวลาสองฤดูกาลด้วยสัญญายืมตัว แม้ว่าจะโชว์ฟอร์มได้ดีแค่ไหนเขากลับไม่ถูกซื้อขาดหลังหมดสัญญา ซึ่งเขารู้สึกเหมือนถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทรยศต่อความภักดีของเขา จึงตัดสินใจแก้เผ็ดด้วยการย้ายไปเล่นให้กับคู่อริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้
อันดับที่ 3 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยิงใส่ อาร์เซน่อล ภายใต้สีเสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2013 เป็นเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ขณะนั้น อาร์เซน่อล กำลังขึ้นนำเป็นจ่าฝูงอยู่ด้วยฟอร์มอันร้อนแรง…รูปเกมที่เกิดขึ้นในวันนั้นค่อนข้างอึดอัดทั้งสองทีมไม่ค่อยมีจังหวะจบสกอร์แบบจะๆ สักเท่าไหร่ แต่แล้วในนาทีที่ 27 เป็นจังหวะที่ ปีศาจแดง ได้เตะมุม เวย์น รูนี่ย์ เปิดเข้ามาเข้าหัว ฟาน เพอร์ซี่ โขกเข้าไปอย่างสุดสวยช่วยทีมขึ้นนำ 1-0 และ กองหน้าชาวดัตช์ก็ฉลองประตูอย่างสุดเหวี่ยงจบเกมไปด้วยสกอร์นี้ โดยที่มีเสียงก่นด่าจากแฟนบอล ปืนใหญ่ มากมายจากการฉลองประตูของเขา เพราะว่า ฟาน เพอร์ซี่ เคยให้สัมภาษณ์หลังย้ายมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์เตอร์ ยูไนเต็ด ว่า “เขาจะไม่มีวันฉลองประตูที่ยิง อาร์เซน่อล ได้” ในฤดูกาลก่อนหน้านี้ ฟาน เพอร์ซี่ ทำประตูใส่ อาร์เซน่อล ได้ทั้งนัดเหย้า-เยือน แต่เขาเลือกที่จะไม่ฉลองประตูดังกล่าวเพื่อเป็นการให้เกียรติทีมเก่า
อันดับที่ 4 หลุยส์ ซัวเรซ ยิงใส่ ลิเวอร์พูล ภายใต้สีเสื้อ บาร์เซโลน่า : เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่สนาม คัมป์ นู รูปเกมในนัดนั้นเจ้าบ้านไล่ขโยกเกมรุกใส่ ลิเวอร์พูล อยู่เป็นชุดๆ จนมาถึงนาทีที่ 26 จอร์ดี้ อัลบา ก็เปิดบอลจากทางกราบซ้าเข้าเขตโทษให้ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยอดีตขวัญใจแฟนบอลหงส์แดง โฉบเข้าชาร์จที่เสาแรกเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 และดาวยิงรายนั้นก็ฉลองประตูดังกล่าวแบบไม่ได้คิดอะไรต่อหน้าแฟนบอลหลายหมื่นคนในค่ำคืนนั้น และ ผลการแข่งขันนัดนั้นจบที่ เจ้าบุญทุ่ม เอาชนะ หงส์แดง ไปขาดลอย 3-0 โดยทาง ซัวเรซ ถูกแฟนบอล ลิเวอร์พูล จำนวนหนึ่งตำหนิจากการฉลองประตูดังกล่าว ซึ่งภายหลัง ซัวเรซ ให้สัมภาษณ์ว่า “เขาย้ายจาก ลิเวอร์พูล มานานหลายปีแล้ว…และประตูนั้นเกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศศึก UCL ย่อมทำให้เกิดความดีใจที่ทำประตูได้…แต่เขาสัญญาว่าจะไม่ดีใจหากทำประตูได้ในนัดที่สองที่ต้องไปเยือน แอนฟิลด์” ท้ายที่สุดเป็นที่ทราบกันดีว่า ลิเวอร์พูล ถล่มโหดใส่ บาร์เซโลน่า ไปขาดลอย 4-0 พลิกนรกเขารอบชิงชนะเลิศจนคว้าแชมป์ได้ในบั้นปลาย…แล้ว ซัวเรซ ก็ไม่ได้ฉลองประตูตามที่เขาพูดจริงๆ
อันดับที่ 5 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้สีเสื้อ ยูเวนตุส : เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่สนาม อลิอันซ์ สเตเดี้ยม เมืองตูริน ในนาทีที่ 65 เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ วางบอลยาวให้ โรนัลโด้ วอลเล่ย์ด้วยขวาแบบไม่จับเข้าไปเป็นสกอร์ให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นเขาก็ระบายความอัดอั้นด้วยการวิ่งไปถกเสื้อโชว์กล้ามท้องสุดสวยต่อหน้าแฟนบอล…โรนัลโด้ ก็ได้ระบายความอึดอัดหลังจาก ยูเวนตุส เฉียดไปเฉียดมายิงไปชนเสาชนคานไปหลายครั้งแต่ไม่สามารถส่งบอลไปกองที่ก้นตาข่ายซักที…แม้ว่าสุดท้ายแล้ว ปีศาจแดง จะพลิกยิงสองประตูกลับมาเอาชนะได้ด้วยสกอร์ 2-1 ก็ตาม…ก่อนหน้านี้ โรนัลโด้ เคยยิงให้ เรอัล มาดริด ในเกมที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาแล้วแต่เลือกที่จะไม่แสดงอาการดีใจเพราะให้เกียรติต้นสังกัดเก่า
อันดับที่ 6 แดนนี่ เวลเบ็ค ยิงใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้สีเสื้อ อาร์เซน่อล : เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเกม เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ (นัดรีเพลย์) ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ขณะที่สกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 1-1 จนมาถึงนาทีที่ 61 เป็น อันโตนิโอ วาเลนเซีย กองหลังของปีศาจแดง ที่ส่งบอลคืนหลังเบาไปถูก แดนนี่ เวลเบ็ค สปีดเข้าไปถึงบอลก่อน ดาบิด เด เคอา ก่อนแตะหลบหนึ่งจังหวะแล้วยิงโล่งๆ เข้าไปให้ อาร์เซน่อล ขึ้นนำ 2-1 จากนั้นก็ฉลองหลังทำประตูได้อย่างไม่แยแส ส่งผลให้เหล่า “เร้ด อาร์มี่” งงเป็นไก่ตาแตกเนื่องจากไม่คาดคิดว่าอดีตเด็กเก่าจะทำเช่นนี้ แล้วเกมนั้นก็จบลงด้วยสกอร์ดังกล่าว…อย่างไรก็ตาม เวลเบ็ค ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการทำเช่นนั้นว่า “ผมเติบโตที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นที่นี่สำคัญกับผมอย่างมาก…แต่เมื่อคุณได้รับโอกาสลงสนามฟุตบอลก็กลายเป็นเรื่องของธุรกิจไปแล้ว…คุณจะไม่ดีใจหลังจากยิงประตูได้เหรอ? ใครๆ ก็ทำแบบนั้นนะ“
อันดับที่ 7 เวย์น รูนี่ย์ ยิงใส่ เอฟเวอร์ตัน ภายใต้สีเสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค ในปี 2007 ขณะที่ทั้งสองทีมกำลังเสมอกันอยู่ที่สกอร์ 2-2 จนมาถึงนาทีที่ 78 เป็น รูนี่ย์ อดีตดาวรุ่งขวัญใจ “ท็อฟฟี่เมน” ที่ได้บอลหลุดเข้าไปยิงขึ้นนำ 3-2 ให้กับขุนพล ปีศาจแดง และ ฉลองประตูด้วยการจูบตรา “ปีศาจ” อย่างดูดดื่ม และ เกมนั้นจบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือนด้วยสกอร์ 4-2 ก่อนหน้านี้ รูนี่ย์ เคยโชว์ข้อความบนเสื้อยืดหลังทำประตูได้ในศึก เอฟเอ ยูธ คัพ ว่า “Once a Blue, Always a Blue” หรือแปลได้ว่า “เมื่อเป็นนักเตะ เอฟเวอตัน ครั้งหนึ่งแล้ว…ย่อมเป็นแบบนั้นเสมอไป” แล้วก็ลงเอยด้วยการหักอกเหล้า “”เอฟเวอร์โตเนี่ยน ด้วยการย้ายสังกัดมาสร้างตำนานที่ โรงละครแห่งความฝัน
อันดับที่ 8 แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ยิงใส่ เชลซี ภายใต้สีเสื้อ ลิเวอร์พูล : เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2018 เป็นเกม คาราบาว คัพ รอบที่สาม ที่สนาม แอนฟิลด์ ทั้งสองทีมกำลังขับเคี่ยวกันอย่างสนุกจนมาถึงนาทีที่ 58 เป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากการกระโดดวอลเล่ย์อย่างสุดสวยของ สเตอร์ริดจ์ หลังจากนั้นเขาก็ฉลองด้วยการกางปีกปลดปล่อยอารมณ์ที่อัดอั้นด้วยความสะใจ แม้ว่าท้ายที่สุด หงส์แดง จะเป็นฝ่ายปราชัยไปด้วยสกอร์ 1-2 ก็ตาม อย่างไรก็ตามในเกมลีกที่ต้องไปเยือนสนาม แสตมฟอร์ด บริดจ์ เขายิงไกลอย่างสุดสวยเป็นประตูที่ทำได้กับทีมเก่าอีกครั้งแต่เขาไม่แสดงอาการดีใจ เพราะว่าต้องการให้เกียรติสโมสร…ก่อนหน้านี้ สเตอร์ริดจ์ เคยค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี แต่ไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงเล่นมากนักเนื่องจากอาการบาดเจ็บ แถมทำผลงานได้ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่เพราะว่ามักถูกจับไปเล่นในตำแหน่งตัวริมเส้น
อันดับที่ 9 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงใส่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ภายใต้สีเสื้อ บาเยิร์น มิวนิค : เลวานดอฟสกี้ เป็นยอดดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ที่ในปัจจุบันหลายๆ คน ยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “กองหน้าหมายเลข 9” ที่ดีที่สุดในยุคนี้…ดาวยิงรายนี้เลือกย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปซบตัก บาเยิร์น มิวนิค แบบฟรีๆ หลังหมดสัญญา ซึ่งหลายๆ สื่อรายงานออกมาว่า เขาต้องการย้ายไปทีมที่สามารถกวาดถ้วยแชมป์มาประดับเกียรติยศในอาชีพ รวมไปถึงค่าแรงที่เพิ่มมากขึ้น…เลวานดอฟสกี้ แสดงให้เห็นถึงการเป็นยอดดาวยิงด้วยการทำประตูอดีตต้นสังกัดอย่าง เสือเหลือง หลายต่อหลายครั้ง และ เขาก็ไม่ลังเลที่จะฉลองเมื่อยิงทีมเก่าได้เลย…เป็นไปได้ว่าเบิ้องหลังการย้ายทีมของเขาอาจจบแบบไม่สวยงามเท่าไหร่นัก
อันดับที่ 10 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงใส่ เชลซี ภายใต้สีเสื้อ ลิเวอร์พูล : เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม แอนฟิลด์ ขณะที่เจ้าบ้านขึ้นนำอยู่ 1-0 จนมาถึงนาทีที่ 53 เป็น ซาลาห์ ที่แต่งบอลเข้าซ้ายข้างถนัด แล้วซัดไกลเต็มข้อซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงามให้ทีมออกนำ 2-0 คลายความกดดันไปได้อย่างมาก และ เขาก็ไม่ลังเลที่จะแสดงออกอาการดีใจโดยไม่คำนึงว่าเป็นประตูที่ยิงอดีตต้นสังกัดได้…ท่าดีใจของ ซาลาห์ เป็นท่าหนึ่งในการเล่น โยคะ ชื่อท่าว่า “ต้นไม่” โดยตัว ซาลาห์ บอกว่าที่เขาดีใจท่าดังกล่าวนั้นเป็นไปเพราะความรู้สึก และ ความคิดที่แวบเข้ามาตอนนั้นพอดี